โดยยอดนักแข่งไทยทั้ง 2 คนคือเฉลิมพล ผลไม้ (หมายเลข 65) และ เดชา ไกรศาสตร์ (หมายเลข 30) ผ่านรอบควอลิฟายทั้ง 2 รอบ แบบลอยลำ ส่งผลให้การออกสตาร์ทอยู่ในตำแหน่งหัวแถว ซึ่งนายกรธัช แก่นจันทร์ดา กล่าวถึง การแข่งรอบควอลิฟายในครั้งนี้ว่า “ผลควอลิฟายในสนามนี้ โดนเจ้าถิ่นที่ชินสนามขึ้นนำมาก่อน แต่ผลต่างไม่มาก ของเฉลิมผล ทำเวลาอยู่ที่ 58.048 อยู่ในอันดับที่ 4 ซึ่งห่างกับที่ 1 อยู่แค่ประมาณ 0.3 วินาที ส่วนเดชาทำเวลาอยู่ที่ 58.359 อยู่ในอันดับที่ 6 ประกอบกับวันนี้แดดจัด และลมแรงมาก ต้องขี่ต้านลม แต่ไม่ใช่ปัญหา มีการบรีฟข้อมูลให้ทีมเทคนิกเรียบร้อยแล้ว สำหรับพรุ่งนี้ทางทีมและนักแข่งต้องวางแผนให้ดี โดยนักแข่งของเราทั้งคู่ออกสตาร์ทในแถวที่ 2 ต้องออกสตาร์ทให้ดี แซงทางโค้งให้ได้และต้องขึ้นมาอยู่หัวแถวให้เร็วที่สุด ที่สำคัญที่สุดคือ การรักษาเนื้อยางให้ดีจนจบการแข่งขัน สำหรับสนามซึคูบ้านี้ เป็นสนามความยาวประมาณ 2.07 กิโลเมตร เป็นสนามเทคนิค ไม่ใช่สนามสปีด นักแข่งของเราก็มีทักษะและการขับขี่ที่ดีในสนามเทคนิค เรามั่นใจในทีมและนักแข่ง คิดว่าพรุ่งนี้น่าจะมีสิทธิ์ลุ้นขึ้นโพเดี้ยม และจะทำให้ดีที่สุด”
ทางด้านเฉลิมพล ผลไม้ แชมป์ในรุ่น ST600 จากสนามโมเตกิ (สนามที่ผ่านมา) กล่าวถึงการขี่ Yamaha YZF R6 ในรอบควอลิฟายในวันนี้ว่า “ยังไม่ค่อยพอใจกับผลที่ออกมาเท่าไร เวลายังไม่ดีเท่าที่อยากได้ แต่พรุ่งนี้ ก็จะทำให้เต็มที่ และทำให้ดีที่สุด ขอให้ช่วยเชียร์และให้กำลังใจยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีมด้วยครับ”
สำหรับเดชา ไกรศาสตร์ รองแชมป์ในรุ่น ST600 จากสนามโมเตกิ ให้สัมภาษณ์ว่า”สำหรับการขับขี่ในวันนี้ ยังทำได้ไม่ดีเหมือนวันที่ซ้อม เนื่องจากลมแรงและปรับวิธีการขับขี่เล็กน้อย จึงทำให้เวลายังไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งพรุ่งนี้จะต้องใช้ความพยายามขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น ขอให้ชาวไทยช่วยส่งกำลังใจให้ด้วยครับ”
ขอแรงชาวไทยช่วยส่งกำลังใจเชียร์นักแข่งของไทย ทั้ง 2 คน ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ให้โชว์ฟอร์มขั้นเทพ เพื่อเข้าชิงชัยขึ้นโพเดี้ยมในการแข่งขัน MFJ All Japan Road Race ณ สนามซึคูบ้า ประเทศญี่ปุ่น ในวันพรุ่งนี้