กรุงเทพฯ--18 ก.พ.--อาซิแอม เบอร์สัน—มาร์สเตลเลอร์
ฮ่องกงกับนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย
เลแมน บราเดอร์ส ประเมินว่า ฮ่องกงจะมีนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนตั้งแต่ปี 2536
เลแมน บราเดอร์ส บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนระดับโลก ประเมินว่า เศรษฐกิจของฮ่องกงมีการขยายตัวเกือบร้อยละ 8 เมื่อปีที่ผ่านมาโดยเป็นผลจากการส่งออก ขณะเดียวกันอุปสงค์หรือการใช้จ่ายในประเทศก็มีอัตราการเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ฮ่องกงเป็นประเทศหนึ่งที่มีระบบเศรษฐกิจเปิดมากที่สุดในโลก อีกทั้งมีอัตราการขยายตัวของการส่งออกในระดับสูงซึ่งหากมีปริมาณลดลงเมื่อใดจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายในประเทศนับเป็นช่องทางหนึ่งที่แม้จะไม่เป็นที่ต้องการมากนักหากแต่มีความสำคัญต่อภาคธุรกิจการเงินและอสังหาริมทรัพย์ของฮ่องกง โดยการลดอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงมีผลต่อการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นและราคาอสังหาริมทรัพย์ ปัจจัยเหล่านี้ทำให้มีการกู้เงินเพิ่มขึ้น สร้างความเชื่อมั่นมากขึ้น และส่งผลดีต่อสินทรัพย์และงบดุล ซึ่งเลแมน บราเดอร์ส คาดการณ์ว่า การที่ค่าเงินเหรียญฮ่องกงอ่อนตัวลง อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงที่ลดลง รวมทั้งมูลค่าสินทรัพย์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นช่วยให้ฮ่องกงสามารถดำเนินนโยบายแบบผ่อนคลายมากขึ้นนับตั้งแต่ปี 2536 และจะมีการผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นต่อไปอีก ทำให้คาดว่า ฮ่องกงจะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ (จีดีพี) เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 ในปี 2548
ส่งผลทวีคูณ
ฮ่องกงมีการขยายตัวของการส่งออกเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 16 ในปี 2547 ซึ่งเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศจีนที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและมหาศาล โดยฮ่องกงได้รับประโยชน์จาการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจีนเนื่องจากเป็นเมืองหน้าด่านทางการค้าของประเทศจีนกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ซึ่งการนำเข้าสินค้าเพื่อส่งออกอีกครั้งคิดเป็นปริมาณถึงร้อยละ 94 ของปริมาณการส่งออกสินค้าของฮ่องกงทั้งหมด ขณะที่การส่งออกทางด้านบริการของฮ่องกงมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นโดยรวดเร็วกว่าการส่งออกสินค้าถึงร้อยละ 17 ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนกันยายน ปี 2547 ซึ่งเป็นผลจากการใช้จ่ายของชาวจีน ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวจากประเทศจีนในฮ่องกงมีปริมาณเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้มีจำนวนเกินกึ่งหนึ่งของนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินทางมาฮ่องกง
สำหรับปีนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะมีการชะลอตัวแต่คาดว่าจะส่งผลให้อัตราการขยายตัวของการส่งออกของ ฮ่องกงอ่อนตัวลงเพียงเล็กน้อย ด้วยเหตุผลสามประการ คือ
1. เศรษฐกิจของจีนยังคงมีการเติบโตอย่างมหาศาล โดยเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เลแมน บราดอร์ส ได้ปรับประมาณการอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 8.3 เป็น ร้อยละ 8.8
2. เนื่องจากเงินเหรียญฮ่องกงผูกอยู่กับเงินเหรียญสหรัฐซึ่งกำลังอ่อนตัว ฮ่องกงจึงมีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น โดยอัตราแลกเปลี่ยนที่แท้จริงถ่วงน้ำหนักด้วยดุลการค้า (real trade-weighted exchange rate) อ่อนตัวลงร้อยละ 33 จากจุดสูงสุดเมื่อปี 2541 ซึ่งเลแมน บราเดอร์ส คาดว่า น่าจะมีการอ่อนตัวลงต่อไปอีก
3. จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากจีนคาดว่าจะมีสถิติสูงขึ้นในปีนี้ อันเนื่องมาจากการเปิดสวนสนุกดิสนีย์แลนด์แห่งใหม่ในฮ่องกงและการเพิ่มค่าเงินเรนมินบิของจีน โดยการส่งออกของฮ่องกงจะมีมูลค่าเท่ากับ 1.9 เท่าของจีดีพี ซึ่งจัดว่าเป็นอัตราที่สูงเมื่ออ้างอิงตามมาตรฐานโลก ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าประหลาดใจที่การขยายตัวของการส่งออกของฮ่องกงจะมีผลเป็นทวีคูณต่อการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยบริษัทต่างๆ ในฮ่องกงที่เผชิญกับการมีผลกำไรในระดับสูงและมีกำลังการผลิตสำรองที่ลดลงจะมีความต้องการทุนและแรงงานเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ การนำเข้าของสินค้าทุนมีการเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2547 ในขณะที่อัตราการว่างงานลดลงร้อยละ 0.02 เหลือเพียงร้อยละ 6.5 ในเดือนธันวาคมของปีเดียวกัน เลแมน บราเดอร์ส คาดว่า อัตราการว่างงานจะลดลงเหลือเพียงร้อยละ 6 ภายในสิ้นปี 2548 และค่าจ้างแรงงานปรับสูงขึ้นอีกครั้ง ซึ่งเมื่อมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นและค่าจ้างสูงขึ้น ทำให้รายได้ครัวเรือนโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.3 ในไตรมาส 3 ของปี 2547 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สองหลังจากที่ปรับตัวลดลงมาเป็นเวลาถึง 10 ไตรมาสติดต่อกัน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
อาซิแอม เบอร์สัน—มาร์สเตลเลอร์
วราพร สมบูรณ์วรรณะ
สาธิดา ศรีธัญญาธรณ์
โทร 0 2252 9871--จบ--