การเรียนรู้แบบโครงงาน “Project Approach” ของโรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ ช่วยให้เด็กสามารถจดจำเนื้อหาต่างๆได้มากเพราะมีความสนใจ และยังปลูกฝังนิสัยช่างจดช่างจำ ตื่นตัวที่จะเรียนรู้และหาข้อมูลได้จากสิ่งต่างๆ รอบตัว เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ สังเกต ทดลอง และหาเหตุผล การเรียนรู้แบบโครงงาน “Project Approach” นั้นถือว่าเป็นทักษะที่สำคัญในการเรียนรู้ต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ เด็กเรียนรู้กันอย่างลึกซึ้งและรู้จริง อีกทั้ง การเรียนรู้แบบโครงการนี้ ยังเป็นที่ยอมรับในหมู่นักการศึกษาทั่วโลกว่าเป็นวิธีการที่ดีที่สุด เหมาะสมกับการดำรงชีวิต เพราะการรู้จริง รู้ลึก ต้องใช้ศาสตร์ต่างๆ มาวิเคราะห์ข้อมูลที่มีมากมาย ถ้าเด็กรู้วิธีการเรียนรู้แบบนี้ การเรียนรู้ตลอดชีวิตย่อมเกิดขึ้นแน่นอน และสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับเด็กในอนาคต
การเรียนรู้อย่างสนุกสนาน เริ่มต้นจากเด็กๆ จะเลือกเอาประสบการณ์และความสนใจที่อยากจะเรียนรู้ มาคิด ตั้งข้อสงสัยและเกิดเป็นคำถามขึ้น จากนั้นจะเริ่มสำรวจ สืบค้นข้อมูล และทำการทดลองทั้งในและนอกห้องเรียนด้วยตนเอง ซึ่งทำให้ความสนใจในการเรียนรู้ของเด็กมีเพิ่มมากขึ้น โดยผลจากการลงคะแนนโหวตเรื่องที่สนใจจะเรียนรู้มากที่สุดในชั้นอนุบาล 1/3 ปรากฏว่าเรื่อง “เห็ด” คะแนนนำลิ่วกว่าเรื่องอื่น ๆ
ในช่วงสัปดาห์ที่ 1 และ 2 ของการสำรวจเรื่องเห็ดเด็กๆ กระตือรือร้นกับการเรียนรู้และสืบค้นกันมาก ผ่านการค้นคว้าจากหนังสือและอินเตอร์เนต และนำมาแสดงออกผ่านการวาดภาพ ปั้นดินน้ำมัน และประดิษฐ์เศษวัสดุ นอกจากนี้ ยังร่วมกันสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับเห็ดเพิ่มเติมกันอย่างเจาะลึก ซึ่งน้องๆ ได้เรียนรู้ชีววิทยาของเห็ด ที่พบว่า เป็นพื้นชั้นต่ำเกิดจากเมล็ด หรือสปอร์ ที่ตกลงไปในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นแล้วจะงอกออกมาเป็นเส้นใยและรวมตัวกันเป็นดอกเห็ดในที่สุด โดย น้องนนท์ — ด.ช.นนท์ สุขเกษม เล่าให้ฟังว่า “เห็ด มี 2 แบบ คือ เห็ดแบบมีพิษและไม่มีพิษ เห็ดมีพิษจะมีสวย สีแดง สีขาว แล้วผิวของเห็ดจะขรุขระด้วย ถ้าเห็ดไม่มีพิษจะมีสีน้ำตาล ผิวจะเรียบ ก้านจะผอม เหมือนร่มอันจิ๋ว และเห็ดคือส่วนของเชื้อราที่ออกดอก ซึ่งเชื้อรานี้คือกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีคลอโรฟิลด์ ไม่มีราก ลำต้นและใบที่แท้จริง มีลักษณะเป็นเส้นใย อาศัยอยู่บนซากพืชหรือสัตว์ ไม่สามารถสังเคราะห์อาหารเองได้" นอกจากนี้เด็กๆ ยังได้เรียนรู้ด้วยว่า เห็ดมีหลากหลายชนิดมากกว่า 30,000 สายพันธุ์ มีเห็ดที่รับประทานได้ และเห็ดที่มีพิษห้ามรับประทานเด็ดขาดนะคะ
สัปดาห์ต่อทางโรงเรียนได้พาเด็กๆ เดินทางไปทัศนศึกษาที่ฟาร์มเห็ดช่างแดง ที่ตลาดบางน้ำผึ้ง จ.สมุทรปราการ เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการเพาะเห็ด โดยมี ช่างแดง เป็นวิทยากร และให้น้องๆ ทดลองลงมือเพาะเห็ดด้วยตัวเอง เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการเพาะเห็ด วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ รวมทั้งขั้นตอนการดูแล น้องณีมเฟียร์ — ด.ญ.ธญาฏ์ณีจ์ ภิญญโญบุณยธร เล่าว่า “ที่ฟาร์มเพาะเห็ดมีเห็ด 3อย่างคือ เห็ดนางฟ้าภูฐาน เห็ดนางฟ้าฮังการี และเห็ดนางฟ้าสีชมพู เห็ดจะต้องเก็บไว้ในโรงเพาะเห็ด เวลาเก็บเห็ดต้องใช้มือดึง ห้ามให้มีด หรือกรรไกร เพราะจะทำให้เห็ดเสียได้”
และเพื่อให้เด็ก ๆ มีความรู้หลากหลายขึ้น ทางโรงเรียนได้เชิญวิทยากรจากบางขุนเทียนฟาร์ม นำพันธ์เห็ดชนิดต่างๆ มาแนะนำให้เด็กๆได้รู้จัก รวมทั้งสาธิตการเพาะพันธ์เห็ด การทำโรงเพาะเห็ดถึงห้องเรียนเลยล่ะค่ะ น้องบูม — ด.ช.ศุภเสกข์ สุขงาม เล่าว่า “วิธีเพาะเห็ดต้องเอาเชื้อราใส่ในเมล็ดข้าวฟางที่ผ่านการฆ่าเชื้อโรค ในถุงเพาะเห็ดนั้นมีขี้เลื่อย ปูนขาว ดีเกลือ ส่วนอาหารของเห็ดคือรำข้าว จากนั้นเอาไปไว้ที่โรงเพาะเห็ดกุ๊กไก่ 1เดือน และก็ตื่นเต้นมากเลยครับ ตอนที่เปิดถุงออกแล้วเห็นดอกเห็ดบานเต็มไปหมดเลย”
ก่อนสัปดาห์สุดท้ายของการเรียน Project Approach เรื่องเห็ดนั้น คุณครูประจำชั้นได้นำซีดีนิทานเศรษฐกิจพอเพียง เรื่องหมู่บ้านเห็ดหอม มาให้นักเรียนชม ซึ่งได้กลายเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งนิทานเรื่องเด็กกับเห็ดพิษร่วมกัน โดยเด็กๆ ช่วยกันคิดเนื้อเรื่องและบางคนก็อาสาวาดภาพประกอบนิทานด้วย นอกจากนี้เสียงส่วนใหญ่ในห้องอยากจะทำอาหารจากเห็ดชิมกันด้วย ทั้งครูและเด็กต่างช่วยกันเลือกเมนูเห็ดที่ตัวเองชอบ มาได้ 4 เมนูเด็ด คือ เห็ดชุบแป้งทอด ไข่เจียวใส่เห็ด บะหมี่ราดหน้าเห็ด และแกงจืดไข่ใส่เห็ด โดยแบ่งกลุ่มทำอาหารเป็น 4 กลุ่ม ให้เด็กๆได้ลงมือเป็นพ่อครัว แม่ครัวตัวจิ๋วกันอย่างครื้นเครง เมื่อทำอาหารเสร็จแล้ว แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาเล่าวิธีการประกอบอาหารและแบ่งปันความรู้เรื่องเห็ดให้เพื่อนๆในชั้นฟัง
ในสัปดาห์สุดท้ายของการเรียนรู้ ทุกคนได้ร่วมกันสรุปถึงสิ่งต่างๆ ที่เด็กแต่ละคนสงสัยและร่วมกันจัดนิทรรศการภายในห้องให้ได้ชมกัน สิ่งสำคัญที่เด็กๆ ได้เรียนรู้ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น การเป็นนักวิทยาศาสตร์ตัวน้อยค้นคว้าทดลองโครงสร้างทางชีววิทยาและนำไปสู่การทดลองเพาะเห็ด ทำให้ได้รู้ว่าเห็ดมีหลายชนิด เห็ดมีประโยชน์มากมาย คุณหมอนำมาใช้สกัดรักษาโรคมะเร็งได้ด้วย นอกจากนี้ยังได้รับความรู้ทางประวัติศาสตร์ด้วยว่า ประเทศไทยเรา นำเห็ดจากฝรั่งเศสเข้ามาเพาะเป็นครั้งแรกด้วย ทั้งหมดนี้คือการเรียนรู้อย่างสนุกสนาน แต่ก็แฝงไปด้วยสาระมากมาย ก้าวต่อไปเด็ก ๆ ช่วยกัน ทำบัตรเชิญเพื่อเชิญชวนผู้ปกครองมาชมนิทรรศการเห็ดมหัศจรรย์...ของเด็กกุ๊กไก่ พร้อมทำของที่ระลึกแจกผู้เข้าชมงาน และแบ่งหน้าที่ในการจัดมุมห้อง รวมทั้งทบทวนความรู้เกี่ยวกับเห็ด เพื่อเตรียมเล่าให้ผู้ชมนิทรรศการฟัง แน่นอนว่าสร้างความประทับใจให้แก่คุณพ่อคุณแม่และผู้เข้าชมเป็นอย่างยิ่ง
ติดต่อ:
บริษัท บ้านพีอาร์ จำกัด
คุณรวิกานต์ (มล)
โทร.022929383
คำค้น: