นายชัยรัตน์ ชูประภาวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วงศ์บราเดอร์ อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงภายใต้แบรนด์ “ MAXXMA” (แม็กซ์ม่า) เปิดเผยว่า ด้วยสภาวะที่อากาศร้อนจัด บริษัทจึงเร่งทำตลาดฟิล์มกรองแสง Maxxma Maxโดยจะใช้จุดเด่นของฟิล์มกรองแสง Maxxma Max ซึ่งเป็นฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพสูงระดับพรีเมี่ยม แต่จำหน่ายในราคาปานกลางเป็นหัวหอกในการขยายตลาด
ฟิล์มกรองแสง Maxxma Max เป็นฟิล์มกรองแสงที่ผลิตจากโพลีเอสเตอร์คุณภาพสูง เคลือบด้วยผงเซรามิคโมเลกุลเล็ก ผสมสารป้องกันรังสี ยูวี และอินฟาเรด ปิดทับด้วยสารกันรอยที่มีความแข็งแรงสูง ช่วยให้เนื้อฟิล์มใสไม่ขุ่นมัว เนื้อฟิล์มมีความเคลียร์สูงแสงสะท้อนต่ำ ให้ภาพคมชัด สบายตาทั้งเวลากลางวันและกลางคืน สีฟิล์มคงทนไม่ซีดจาง ไม่เป็นรอยขูดขีดและรักษาง่าย ป้องกันรังสีอันตรายและลดความร้อนได้สูง และยังป้องกันรังสี ยูวี ได้มากกว่า 99% ทั้งยังช่วยลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ภายในรถยนต์ด้วย
ปัจจุบันสภาพตลาดรถยนต์เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ เพราะผู้ผลิตเริ่มผลิตรถยนต์เพื่อส่งมอบให้ลูกค้าได้ตามความต้องการแล้ว ซึ่งในไตรมาสแรกของปี2555 เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น เห็นได้จากยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น โดยในช่วงไตรมาสแรกมียอดขายรถยนต์รวม 279,272 คัน ซึ่งเป็นยอดขายที่สูงที่สุด ถือเป็นการสร้างสถิติใหม่ด้วย โดยมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น 17.0%
สำหรับไตรมาสสอง มั่นใจว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากยอดขายรถยนต์ในเดือนเมษายนที่ผ่านมาเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการสั่งซื้อของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในช่วงงานมอเตอร์โชว์ จากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาด อีกทั้งกำลังการผลิตรถยนต์ทุกค่ายเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ซึ่งสามารถเพิ่มการส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าค้างจองได้มากขึ้น ตลอดจนนโยบายรถยนต์คันแรกของภาครัฐ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดฟิล์มกรองแสงทั้งนั้น
นายชัยรัตน์ กล่าวว่า แม้ว่าต้นทุนการดำเนินงานจะสูงขึ้น จากค่าแรง 300 บาทต่อวัน และค่าชิปปิ้งที่เพิ่มขึ้น แต่บริษัทยังไม่มีแผนปรับราคาขึ้นในช่วงนี้ โดยบริษัทจะรับภาระต้นทุนนี้ไว้ก่อน เพราะไม่ต้องการเพิ่มภาระให้ลูกค้า
สำหรับแผนการตลาดนั้น จะทำการตลาดเชิงรุก โดยเน้นเข้าไปแนะนำสินค้าที่โชว์รูมค่ายรถต่างๆ พร้อมบุกคาร์แคร์ ตัวแทนจำหน่ายที่มีมากกว่า 200 แห่ง ทั่วประเทศ รวมถึงจะเร่งขยายตลาดด้วยการสื่อสารตรงและสร้างการรับรู้ในกลุ่มเป้าหมายอย่างเข้มข้น โดยในปี55นี้จะเน้นการจัดอีเว้นท์และโรดโชว์ การออกบูธแนะนำสินค้า ตามห้างสรรพสินค้า คาร์แคร์ งานแสดงสินค้าเกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ซึ่งล่าสุด ได้ไปออกบู๊ธในงานซุปเปอร์ คาร์ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี
นายชัยรัตน์ ยังกล่าวอีกว่า “ภาพรวมของธุรกิจฟิล์มกรองแสงในปี 2555 มีแนวโน้มการแข่งขันคงจะทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากอุตสาหกรรมรถยนต์เติบโต ผู้ผลิตจึงเร่งขยายตลาดเพื่อแย่งยอดขายและเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ ซึ่งคาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์โดยรวมปี 2555 จะมากถึง 1.1 ล้านคัน เนื่องจากปัจจัยบวกจากมาตรการของภาครัฐ ซึ่งได้แก่ นโยบายคืนภาษีรถยนต์คันแรก ซึ่งได้ขยายสิทธิ์ครอบคลุมถึงกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และการผ่อนผันให้สามารถนำเข้ารถยนต์ใหม่ทั้งคัน โดยใช้ฐานภาษีเช่นเดียวกับการผลิตในประเทศ ประกอบกับการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆในตลาดยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยดังกล่าวจะช่วยให้อุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยเริ่มกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง”