การเซ็นสัญญาซื้อขายครั้งนี้เป็นการตกลงซื้อขายกันก่อนที่โรงไฟฟ้าของกลุ่ม บริษัท อมตะ บี.กริม จะก่อสร้างแล้วเสร็จ และจะส่งพลังงานไฟฟ้าและไอน้ำทันทีที่แล้วเสร็จ
โดยโรงไฟฟ้าของกลุ่มบริษัท อมตะ บี.กริม ที่จะจ่ายพลังงานไฟฟ้าและไอน้ำตามสัญญาซื้อขายให้ ซูมิโตโม รับเบอร์ ในครั้งนี้ได้แก่โรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 1 และโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 2 ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม อมตะซิตี้ จ.ระยอง ทั้งนี้การใช้ปริมาณพลังงานไฟฟ้า 40 MW และไอน้ำ 28 ตัน/ชั่วโมง ในการผลิตยางรถยนต์ จะทำให้ซูมิโตโม รับเบอร์ สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้มากกว่า 133 ล้าน กิโลคาร์บอน (kg CO2) ต่อปี ซึ่งนับเป็นเป้าหมายความสำเร็จที่สำคัญครั้งใหม่ของกลุ่มบริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ บริษัทผลิตไฟฟ้าภาคเอกชนผู้มีประสบการณ์อย่างโชกโชน
เมื่อต้นปีที่ผ่านมากลุ่มบริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ ได้เริ่มขยายโรงไฟฟ้า 2 แห่งคือ อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 1 จะแล้วเสร็จในวันที่1 พฤศจิกายน 2556 และ อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 2 จะแล้วเสร็จในวันที่1 มิถุนายน 2556 และเมื่อโรงไฟฟ้าพลังงานร่วมทั้งสองแห่งก่อสร้างเป็นที่แล้วเสร็จ จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมกว่า 240 MW
กลุ่มบริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ ยังมีโครงการขยายโรงไฟฟ้าอีกจำนวนมาก โดยหนึ่งในนั้นคือ โรงไฟฟ้าพลังงานร่วม อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ 3 ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าของกลุ่มบริษัทฯ แห่งที่สามภายในนิคมอุตสาหกรรม อมตะนคร จ.ชลบุรี ที่มีกำหนดการก่อสร้างเป็นที่แล้วเสร็จและพร้อมส่งมอบพลังงานไฟฟ้าภายในเดือนกันยายนนี้ นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ จะขยายโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมอีก 3 แห่งในนิคมอุตสาหกรรม อมตะซิตี้ และอีก 7 แห่งในนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ภายในปีพ.ศ. 2562 ซึ่งจะทำให้กลุ่มบริษัทฯ จะมีโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (Small Power Plant: SPP) ถึง 16 แห่งใน 6 นิคมอุตสาหกรรม และพร้อมส่งมอบพลังงานที่สะอาดและเสถียรให้แก่ลูกค้าในโรงงานอุตสาหกรรมกว่า 800 แห่ง