นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ผู้ถือหุ้นใหญ่ซึ่งลงทุนในสายการบินไทยแอร์เอเชียเพียงธุรกิจเดียวและเป็นผู้บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า จากการรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหาร (แบบ 59-2) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งเป็นการรายงานการจำหน่ายหุ้น AAV ของผู้บริหารที่จำหน่ายออกไป 15% นั้น เป็นไปตามกระบวนการการจัดสรรหุ้นเพื่อจำหน่ายในวันแรกที่ได้แจ้งกับผู้ลงทุนไว้ในหนังสือชี้ชวนว่า ผู้ถือหุ้นจะทำการขายหุ้นที่มีอยู่ส่วนหนึ่งไม่เกินร้อยละ 15 หรือรวมกันไม่เกิน 727.5 ล้านหุ้น บนกระดานรายใหญ่ (บิ๊กล็อต) ในการซื้อขายหลักทรัพย์วันแรก โดยราคาที่ขายจะเท่ากับหรือไม่น้อยกว่าราคาที่เสนอขายให้ประชาชนทั่วไป (IPO) เพื่อนำเงินก้อนดังกล่าวไปชำระหนี้เงินกู้ทั้งหมดที่มีอยู่กับธนาคารเครดิต สวิส สิงคโปร์
โดยกลุ่มผู้บริหารคนไทยจะยังคงเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน AAV ไม่ต่ำกว่า 60% ภายหลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ และจะระยะห้ามขายหุ้น (ไซเรน พีเรียด) เป็นเวลา 6 เดือน นอกจากนั้น เพื่อให้เป็นไปตามพรบ.การเดินอากาศ กลุ่มผู้บริหาร ยังถูกกำหนดให้คงถือหุ้นไม่น้อยกว่า 51% โดยหุ้นทั้งหมด 51% นี้ได้ไปฝากไว้กับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยระยะเวลาขั้นต่ำ 5 ปี หลังเข้าตลาดฯ
“ผมไม่เคยคิดเอาเปรียบนักลงทุน และผู้ถือหุ้น ราคาขายบิ๊กล็อตที่แจ้งไว้ที่ 3.70 บาท ก็เป็นราคา IPO ซึ่งเป็นราคาขายเดียวกันกับนักลงทุนทั่วไป และเงินดังกล่าวก็นำไปใช้หนี้กับธนาคารเครดิต สวิส ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขการชำระหนี้ ทั้งนี้ สัดส่วนการถือหุ้นของผมและผู้บริหารทั้งหมด ก็ยังอยู่โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นรวมกันกว่า 60% ขอให้นักลงทุนมั่นใจได้ว่า ผมและผู้บริหารยังอยู่และไม่ขายหุ้นทิ้งบริษัทไปไหน” นายทัศพลกล่าวทิ้งท้าย