พาณิชย์เผยอินเดีย-พม่า เซ็น 12 เอ็มโอยู เอื้อการค้า-ลงทุน ชี้บิมสเทคเล็งผลเลิศเชื่อมไทย ศูนย์กลางอาเซียน รัฐบาลอินเดียหนุนต่างชาติลงทุนการเกษตร-ผลิตอาหารแบบยั่งยืน

จันทร์ ๑๑ มิถุนายน ๒๐๑๒ ๑๑:๑๖
นายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการส่งออกรายงานสถานการณ์การเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนระหว่างอินเดีย พม่าที่เกี่ยวข้องกับการค้าของไทย ล่าสุดอินเดียและพม่าได้ลงทุนความตกลง 12 ฉบับ มีสาระครอบคลุมถึงความร่วมมือและแบ่งงานกันพัฒนาปรับปรุงถนนหลักหลายสายในพม่าและยกระดับให้เป็นทางหลวงเชื่อม 3 ประเทศเข้าด้วยกัน อันเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย “มองตะวันออก”ของอินเดียที่ต้องการจะเข้าไปมีบทบาททั้งในด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว กับกลุ่มประเทศสมาชิกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“อินเดียต้องการความร่วมมือจากพม่าอย่างสูง เพราะอยู่ใกล้ชิดติดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ซึ่งเป็นตัวจักรสำคัญในการนำอินเดียไปสู่ดินแดนหลากหลายวัฒนธรรม-เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หากพม่าเปิดประเทศมากขึ้นและให้ความร่วมมือกับอินเดียอย่างจริงจังในการพัฒนาปรับปรุง ทางหลวงฯและเป็นทางผ่านในการเชื่อมต่ออินเดียกับไทยผ่านทางแม่สอด จ.ตาก และไปยังกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ ก็จะทำให้อินเดียเข้ามามีบทบาทได้สะดวกยิ่งขึ้น”

ทั้งนี้ อินเดียหวังไว้ว่าทางหลวงดังกล่าว ซึ่งเรียกกันในนาม “ทางหลวงไตรภาคี” จะแล้วเสร็จในปี 2559 ซึ่งไทยก็จะได้รับประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคฯและเป็นเป้าหมายหลักของอินเดียที่ต้องการเข้ามาค้าขายและลงทุนกับไทย รวมทั้งใช้เป็นฐานขยายการค้าและการลงทุนไปยังเพื่อนบ้านอาเซียนอื่นๆ ในขณะเดียวกันไทยก็ต้องการใช้ทางหลวงฯดังกล่าวขนส่งสินค้าผ่านพม่าไปขายอินเดียเช่นกัน นับเป็นการส่งเสริมการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ทางการค้าเพื่อลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการไทย

นายภูมิ กล่าวถึงการขยายตลาดสินค้าเกษตรของไทยว่า จากการมีระบบโลจิสติกส์ที่สนับสนุนการค้าระหว่างไทยกับภูมิภาคเอเชียใต้ รวมถึงกรณีที่ประชากรในอินเดียมีอัตราเพิ่มขึ้นจำนวนมากนั้น เชื่อว่า การค้าไทยยังขยายตัวได้อีกมากในภูมิภาคนี้ รวมถึงรัฐบาลอินเดียมีความพยายามที่จะออกกฎหมายที่เอื้อประโยชน์ต่อการลงทุนในการเกษตรและการผลิตอาหารแบบยั่งยืน การลงทุนในด้านข้อมูลและเทคโนโลยีเพื่อลดความเสียหายของสินค้าเกษตรกรรม และการสร้างความร่วมมือกับเอกชนในการสร้างระบบตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้ายังเป็นสิ่งที่อินเดียต้องการความช่วยเหลือจากประเทศที่มีประสบการณ์การผลิต-การตลาดสินค้าเกษตรอย่างมาก

สำหรับการค้าระหว่างไทยกับกลุ่มบิมสเทค หรือกลุ่มความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลว่าด้วยความร่วมมือหลากหลายสาขาทางเทคนิคและเศรษฐกิจ ประกอบด้วย อินเดีย บังคลาเทศ ภูฏาน เนปาล พม่า และศรีลังกา ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2552-2554)มีการค้ารขยายตัวที่เพิ่มขึ้นจาก 10,408 เป็น 13,011 และ 16,230 ล้านเหรียญสหรัฐฯตามลำดับ โดยในช่วง 4 เดือนแรก(ม.ค.-เม.ย.)ของปี 2555 มีการค้ารวมมูลค่า 5,301 ล้านเหรียญสหรัฐฯแบ่งเป็นการส่งออก 3,280 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 0.07% ขณะที่การนำเข้า 2,021 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 5.02% โดยสินค้าส่งออกสำคัญ คือ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป ยางพารา เป็นต้น สินค้านำเข้า ก๊าซธรรมชาติ เครื่องเพชร พลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ ด้ายและเส้นใย เป็นต้น ส่วนค้าระหว่างประเทศไทย-อินเดียใน 4 เดือนแรก มีมูลค่ารวม 2,797.36 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นการส่งออกจากไทย 1,779 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 2.12% และไทยนำเข้าจากอินเดีย 1,018 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 3.37% ไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้า จำนวน 760 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากมูลค่าการค่าดังกล่าว อินเดียเป็นตลาดส่งออกสำคัญ อันดับที่ 10

อนึ่งการลงนามความตกลงต่างๆ ทั้ง 12 ฉบับ อาทิ 1.บันทึกความเข้าใจกรณีอินเดียให้วงเงินสินเชื่อ(Line of Credit) แก่พม่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งใช้เกี่ยวกับการพัฒนาระบบชลประทาน ทางรถไฟ และการพลังงาน 2.ความตกลงด้านบริการเกี่ยวกับการบิน เช่น เครื่องบินอินเดียสามารถขอจอดพักที่สนามบินย่างกุ้ง ก่อนบินต่อไปยังกรุงเทพฯ เป็นต้น 3.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยเรื่องความร่วมมือฯพัฒนาพื้นที่พรมแดนของทั้งสองประเทศ โดยการร่วมสร้างสะพานฯ ถนนและโรงเรียน 4.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยเรื่องการจัดตั้งคณะทำงานร่วมฯทางด้านการค้าและการลงทุนฯ เพื่อติดตามและผลักดันการดำเนินงานให้สำเร็จลุล่วงตามนโยบายหรือเป้าหมายที่วางไว้ 5.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยเรื่องการจัดตั้งศูนย์การศึกษาและวิจัยทางการเกษตรชั้นสูง 6.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยเรื่องการจัดตั้งร้านตลาดค้าขายตามแนวชายแดน อินเดีย มีพรมแดนติดพม่ายาว 1,600 กิโลเมตร เป็นต้น

สำนักประชาสัมพันธ์ กรมส่งเสริมการส่งออก โทร.(02) 507-7932-34

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๒๔ แจกจริง! แบรนด์ซุปไก่สกัดส่งมอบรถเทสล่า มูลค่า 1.649 ล้านบาท ให้ผู้โชคดี ในแคมเปญ ดื่มแบรนด์ สแกนเลขในขวด ปี
๑๓:๕๐ GFC ตอบโจทย์ทุกความปลอดภัยเรื่องอาคาร - ถังแช่แข็งตัวอ่อน เปิดให้บริการสำหรับผู้มีบุตรยากตามปกติครบ 3
๑๓:๕๗ KJL ลุยภาคใต้! จัดใหญ่สัมมนา 'รวมพลคนไฟฟ้า ON TOUR' ที่ภูเก็ต
๐๒ เม.ย. แว่นท็อปเจริญ จับมือ กรมกำลังพลทหารบก แนะแนวการศึกษาและอาชีพ สร้างโอกาสแก่ทหารกองประจำการและครอบครัว
๐๒ เม.ย. AnyMind Group คว้ารางวัล Gold ในงาน Martech Innovation Awards 2025
๐๒ เม.ย. โชว์พลังดีไซน์ไทยในงาน STYLE Bangkok 2025 รวมแบรนด์ดาวรุ่งจาก Talent Thai และ Designers' Room ที่คุณไม่ควรพลาด
๐๒ เม.ย. ธนาคารกสิกรไทย จัดสัมมนาใหญ่ K WEALTH Forum: เจาะลึก 5 ปัจจัยเปลี่ยนเกมการลงทุนโลก
๐๒ เม.ย. PSP ปิดดีลทุ่ม 409.5 ลบ. ถือหุ้นใน รีไซเคิล เอ็นจิเนียริ่ง (RE) ปักหมุดธุรกิจสู่ศูนย์กลางรีไซเคิลสารเคมีแห่งภูมิภาค
๐๒ เม.ย. กลุ่มซีไอเอ็มบี เปิดรับสมัครสอบชิงทุน CIMB ASEAN Scholarship 2025 ทุนเรียนต่อปริญญาตรี - ปริญญาโท พร้อมโอกาสร่วมงานกับกลุ่มซีไอเอ็มบี
๐๒ เม.ย. ศูนย์การค้าเครือเอ็ม บี เค เปิดพิกัดจุดสรงน้ำพระ เสริมสิริมงคลกับเทศกาล สงกรานต์อิ่มบุญ