นายภูมิชาย ชูสกุลธนะชัย หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าบรรษัทธุรกิจ ทีเอ็มบี เปิดเผยว่าในปีนี้ภาคอุตสาหกรรมเหล็กมีโอกาสเติบโตสูง เพราะมีการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างเต็มที่ หลังจากได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดแผนการลงทุนและโครงการก่อสร้างในประเทศเพิ่มขึ้น และส่งผลให้ดีมานด์ของเหล็กสูงขึ้น ขณะที่ปัจจุบันประเทศไทยมีการนำเข้าเหล็กประมาณ 1 ล้านตัน แต่ปริมาณความต้องการในตลาดทั้งหมดอยู่ที่ 5-6 ล้านตัน ซึ่งสถาบันเหล็กมีการศึกษาพบว่า ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ธนาคารจึงให้การสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนแก่บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ฯยังมองว่าจะมีโอกาสขยายวงเงินให้กับลูกค้าในอุตสาหกรรมที่รัฐบาลให้การสนับสนุนเพื่อให้เกิดสภาพคล่องมากขึ้น ด้วยการบริการที่ให้ความสะดวกสบายในการรับ — จ่ายเงิน (Transactional Banking ) ซึ่งเป็นโซลูชั่นทางธุรกิจที่ทีเอ็มบีช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมเหล็กในปีนี้ จากรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมพบว่า การลงทุนภาครัฐจะเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทย โดยงบประมาณจะถูกนำมาใช้ในการซ่อมแซมสาธารณูปโภคที่เสียหายและการลงทุนป้องกันน้ำท่วม ซึ่งส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า โดยเฉพาะเหล็กทรงยาวที่ใช้ในการก่อสร้าง รวมถึงกระตุ้นให้มีการผลิตมากขึ้นเพื่อรักษาสต็อกที่ลดลงในช่วงปลายปี 2554 สอดคล้องกับการวิเคราะห์ของศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี (TMB Analytic) ที่ได้ประมาณการว่างบประมาณจากภาครัฐจะถูกกระจายไปสู่ Supply Chain ในอุตสาหกรรมก่อสร้างประมาณ 64,745 ล้านบาทและอุตสาหกรรมเหล็ก 59,906 ล้านบาท และยังมีงบประมาณสำหรับแผน 5 ปีที่รัฐบาลต้องการจะลงทุนเพื่อความพร้อมกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community — AEC) อีก 2,270,000 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 19.9 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ซึ่งน่าจะเกิดเป็นโปรเจ็กต์มากกว่า 90 โปรเจ็กต์ และเม็ดเงินดังกล่าวน่าจะสร้างอานิสงส์ต่อธุรกิจก่อสร้างต่อไป
สื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร
รายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02 299 1950, 1953, 1715 / 02 242 3260