มร.โรลันด์ เฮิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตีเบล เอลทรอน เอเซีย จำกัด กล่าวถึงธุรกิจในประเทศไทยว่า ถึงแม้โรงงาน และสำนักงานใหญ่ของสตีเบล เอลทรอน ณ นิคมอุตสาหกรรมบางปะอินจะเป็นองค์กรเดียวในวงการอุตสาหกรรมเครื่องทำน้ำอุ่น-น้ำร้อนที่โดนน้ำท่วมอย่างหนักเมื่อปลายปี 2554 ส่งผลให้ผลประกอบการของทั้งปี 2554 โตขึ้นเพียง 6% เมื่อเทียบกับปี 2553 อย่างไรก็ตาม ผลประกอบในไตรมาสแรกของปี 2555 นี้ ก็สามารถเติบโตขึ้นกว่า 32% โดยแบ่งออกเป็นผลประกอบการภายในประเทศไทยโต 19% และส่งออกโต 89% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2554 อันเป็นผลมาจากการที่ลูกค้าผู้ประสบเหตุการณ์น้ำท่วมจำนวนมากต้องจับจ่ายใช้สอยสินค้าเกี่ยวกับบ้าน เช่น เครื่องทำน้ำอุ่น-น้ำร้อน เป็นต้น สำหรับสินค้าที่ขายดีเป็นพิเศษหลังน้ำท่วมคือ เครื่องกรองน้ำ โดยทั้งปี 2555 นี้ คาดหวังยอดขายโต 10% หรือคิดเป็นมูลค่า 640 ล้านบาท
มร.เฮิน พูดถึงยอดการส่งออกสินค้าในแถบเอเชียแปซิฟิคของปี 2554 ว่า ต่ำกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากโรงงานถูกน้ำท่วม จึงไม่สามารถผลิตสินค้าเพื่อส่งออกในไตรมาสสุดท้ายของปี 2554 อย่างไรก็ตาม สตีเบล เอลทรอน พร้อมเร่งผลักดันยอดส่งออกในปี 2555 นี้อย่างเต็มที่ โดยตลาดหลักในเอเชียแปซิฟิค คือ ฮ่องกง จีน และฟิลิปปินส์ ส่วนประเทศอื่นที่มีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ คือ พม่า นอกจากนี้ อินเดียก็ถือเป็นตลาดที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน แต่ยังติดอุปสรรคในเรื่องของภาษีนำเข้า และระบบระเบียบราชการ ปัจจุบัน จำนวนบริษัทลูกของสตีเบล เอลทรอนในแถบเอเชีย มีทั้งหมด 4 แห่ง ได้แก่ ประเทศไทย ญี่ปุ่น จีน และล่าสุดคือ ออสเตรเลีย ซึ่งจากเดิมมีเพียงตัวแทนจำหน่าย บริษัทฯลูกเหล่านี้ขายสินค้าที่ผลิตจากสำนักงานใหญ่ ณ ประเทศเยอรมนี และบางส่วนจะมาจากโรงงานผลิตที่ไทย
ทางด้านแผนการตลาดสำหรับครึ่งปีหลัง 2555 จะเน้นการทำตลาดแบบผสมผสานเช่นเดียวกับปีที่แล้ว โดยในส่วนของการซื้อสื่อ จะเน้นที่สื่อวิทยุ เนื่องจากสามารถเข้าถึงประชาชนได้ทั่วประเทศมากกว่า รองลงมาคือ นิตยสาร และสื่อโฆษณาบนจอ เช่น จอแอลอีดี ทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งจะเริ่มในเดือนมิถุนายเป็นต้นไป นอกจากนี้ การทำการประชาสัมพันธ์ การทำกิจกรรมร่วมกันกับผู้จัดจำหน่ายทุกช่องทาง ทั้งโมเดิร์นเทรด และดีลเลอร์ การทำโปรโมชั่นการอบรม และทดสอบพนักงาน ณ จุดขายอย่างสม่ำเสมอ ก็ยังเป็นสิ่งที่สตีเบล เอลทรอนให้ความสำคัญเช่นกัน
“ในปีนี้ เราอยากให้ลูกค้า และประชาชนทั่วไปจดจำแบรนด์ สตีเบล เอลทรอน ได้ผ่านแนวคิด “Originally German” ซึ่งหมายถึง ความเป็นสินค้าคุณภาพเยี่ยมที่มีเทคโนโลยีจากประเทศผู้นำแห่งความก้าวหน้าอย่างเยอรมนี พูดให้เข้าใจได้ง่ายมากขึ้นก็คือ เป็นเยอรมันทุกอย่าง ส่วนแผนการออกสินค้าใหม่สู่ตลาดในปี 2555 เราจะออกเครื่องทำน้ำอุ่น-น้ำร้อน 2 รุ่น ซึ่งเราจะมีงานเปิดตัวรุ่น “XG” 1 ใน 5 รุ่นนี้ในเดือนกรกฎาคม โดยรุ่น XG นอกจากจะมีจุดเด่นที่เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่สตีเบล เอลทรอน จดลิขสิทธิ์เพียงเจ้าเดียวแล้ว ยังมีเรื่องของการดีไซน์ตัวเครื่องที่ได้รับรางวัลระดับโลกอย่าง IF Design Award อีกด้วย โดยงบประมาณการตลาดสำหรับปีนี้ทั้งหมดอยู่ที่ 72 ล้านบาท จากปีที่แล้ว 60 ล้านบาท”
ในท้ายสุด มร. โรลันด์กล่าถึงการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้านว่า ยังคงยืนยันที่จะให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต และส่งออกของเอเชีย แปซิฟิคต่อไป เนื่องจากเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย และได้เตรียมแผนรองรับไว้แล้ว เช่น สร้างชั้น 2 เพิ่มในส่วนของโรงงาน เช่าสำนักงานและโรงงานผลิตชั่วคราวในพื้นที่ปลอดภัย ทางด้านการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ กนอ.เอง ก็ได้ทำการสร้างพนังและกำแพงเพื่อป้องกันน้ำท่วมด้วยเช่นกัน