นางราตรี บัวประดิษฐ์ นายกเหล่ากาชาด จังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า “โครงการ เดอะ เวเนเซีย หัวหินเป็นโครงการที่ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรีให้เป็นที่ยอมรับทั้งชาวไทยและต่างชาติ และทำให้เกิดการจ้างงานภายในจังหวัดเพิ่มมากขึ้น โดยทางจังหวัดจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะถือว่าเป็นโครงการเพียงแห่งเดียวและแห่งแรกของจังหวัดที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจรโดยเฉพาะคนที่ชอบสถาปัตยกรรมประเทศอิตาลี อีกทั้งการเดินทางสะดวกสบายไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก”
ด้านนางสาวนงนิตย์ เต็งมณีวรรณ ผู้อำนวยการ ททท. จังหวัดเพชรบุรี ส่วนภาครวมของการท่องเที่ยว กล่าวเสริมว่า โครงการ เดอะ เวเนเซีย ตั้งอยู่เส้นถนนใหญ่เพชรเกษมซึ่งเป็นเส้นทางผ่านลงสู่ภาคใต้ โดยปกติทุกวันจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติมาเล่นน้ำทะเล ทานอาหาร พักผ่อน เป็นแบบครอบครัว จัดกรุ๊ปทัวร์มาสัมมนา กลุ่มต่างๆที่มาพักผ่อนที่นี่ จะได้ทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน ส่งผลให้เกิดตลาดอีกแนวหนึ่ง คือกลุ่มตลาดไฮเอนด์ ซึ่งถือว่าสถานที่แห่งนี้มีจุดขายที่เด่นชัดอย่างมาก
“ ในย่านนี้เราจะส่งเสริมตลาดแบบครอบครัว ทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งโครงการ เดอะ เวเนเซีย เหมาะกับกลุ่มที่กล่าวข้างต้นนี้ เมื่อก่อนจะมองว่าตลาดชะอำเป็นลักษณะ ฉิ่ง ฉับ ทัวร์ แต่ปัจจุบันนี้ไม่ใช่แล้ว ชะอำใกล้กรุงเทพฯ ไม่ว่าจะมีงบน้อยหรืองบมากก็มาท่องเที่ยวได้ กลุ่มพวกนี้จะเป็นวัยรุ่นขับรถเที่ยว ซึ่งมีกำลังซื้อสูง อย่างน้อยๆ ประชาชนที่มาจากต่างจังหวัดไกลๆ โดยสารรถบัส เช่น ภาคอีสาน และ ภาคเหนือ ที่ไม่มีทะเล สามารถมาท่องเที่ยวในย่านนี้ก่อนจะไปพักที่หัวหินได้”
ด้านนายสารัชต์ รัตนาภรณ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายลูกค้าขนาดใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ผู้สนับสนุนแหล่งเงินทุนรายใหญ่กับโครงการเดอะ เวเนเซีย กล่าวว่า การปล่อยสินเชื่อในครั้งนี้ทางธนาคารมีความเชื่อมั่นว่า เดอะ เวเนเซีย เป็นโครงการที่มีศักยภาพ มีทำเลที่ตั้งดีอยู่ระหว่างหัวหิน-ชะอำ เห็นได้ว่าเป็นจุดที่สามารถดึงดูดคนให้เข้ามาท่องเที่ยวพักผ่อน ทานอาหาร หรือ มาช้อปปิ้ง ได้เป็นอย่างดี ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เป็นที่ทราบกันดีว่าเมืองหัวหินและชะอำมีการเติบโตค่อนข้างสูง ทั้งในแง่ของจำนวนนักท่องเที่ยวก็ดี หรือคนที่มาซื้อบ้านพักตากอากาศ รวมถึงการเกิดขึ้นของโรงแรม รีสอร์ต และคอนโดจำนวนมาก สำหรับแนวคิดและดีไซน์เป็นการจำลองเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี ที่มีมนต์เสน่ห์มาเป็นจุดขายและดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งยังไม่มีใครนำแนวคิดนี้มาใช้ในประเทศไทยเลย
“เราจะเห็นว่ามีคนทำโครงการคล้ายแบบนี้ในประเทศเพื่อนบ้านของเราแล้ว ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และทางธนาคารมีความมั่นใจถึงวิสัยทัศน์ของผู้บริหารและทีมงาน มีความรอบรู้และเชี่ยวชาญในเรื่องของไลฟ์สไตล์คอนซูเมอร์ เพราะอยู่ในธุรกิจคอนซูเมอร์ โปรดักส์มานาน เชื่อว่าจะเป็นโครงการหนึ่งที่ประสบความสำเร็จทำให้ชาวไทยและต่างชาติที่มาท่องเที่ยวหัวหินหรือชะอำ มีสถานที่พักผ่อนในแบบไลฟ์สไตล์มอลล์ได้เป็นอย่างดี”
ด้าน นายปิยะ ธนากิจอำนวย ประธานกรรมการ บริษัท รีโน ประเทศไทย จำกัด (AIIZ) ลูกค้าผู้เช่าพื้นที่ในโครงการ กล่าวว่า บริษัทมีความเชื่อมั่นในความเป็นมืออาชีพ และความชำนาญ ด้านการตลาดของเจ้าของโครงการ “เดอะเวเนเซีย” เป็นธุรกิจที่มีขนาดใหญ่มีการลงทุนที่ทำเป็นเมืองเวนิส มีการล่องเรือกอนโดล่าในแม่น้ำ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี คิดว่าหัวหินในอนาคตมีความต้องการแหล่งช็อปปิ้ง สถานที่พักผ่อน รวมถึงร้านอาหารหลากหลายสไตล์ ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่าโครงการ เดอะ เวเนเซีย สามารถตอบโจทย์ทุกอย่างได้
สำหรับ โครงการ “เดอะ เวเนเซีย” พร้อมเปิดรับพันธมิตรร้านค้าแบรนด์ดังระดับแนวหน้า และร้านค้ารายย่อยที่มีสินค้าดีไซน์แปลกใหม่ สร้างสรรค์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จร่วมกัน โดยขณะนี้มียอดจองพื้นที่แล้วกว่า 70 % ของพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งโครงการฯ จะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้อย่างเต็มรูปแบบปลายปีนี้