KBS สตาร์ทลุยโรงไฟฟ้าขนาด 35 MW ใช้กากอ้อยผลิตไฟฟ้าพร้อมขายให้ กฟผ.ได้ในเดือน ม.ค.2557

พฤหัส ๒๑ มิถุนายน ๒๐๑๒ ๐๘:๔๓
บมจ.น้ำตาลครบุรี หรือ KBS เพิ่มทุนให้บริษัทย่อย "บริษัทผลิตไฟฟ้าครบุรี จำกัด" อีก 300 ล้านบาท ลุยขยายโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ผลิตไฟฟ้าจากกากอ้อย จากกำลังการผลิต 15 เมกกะวัตต์สู่ 35 เมกกะวัตต์ มูลค่าโครงการ 1,638 ล้านบาท กำหนดก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักรแล้วเสร็จ ในเดือนมกราคมปี 2557 พร้อมขายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต งานนี้ผู้บริหารระบุมีแต่ได้คาดดันกำไรเพิ่มขึ้น 25-30% ควบคู่กับต้นทุนที่จะลดลงในอนาคต

นายอิสสระ ถวิลเติมทรัพย์ กรรมการ บริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ KBS เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจำนวน 300 ล้านบาท ในบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด หรือ (KPP) ซึ่งจากเดิมที่มีทุนอยู่แล้ว 200 ล้านบาท โดย KPP ถือเป็นบริษัทย่อยที่ KBS ถือหุ้นอยู่ 99.99% เพื่อรองรับการขยายโครงการสร้างโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้า จากพลังงานชีวมวล จากขนาดกำลังการผลิต 15 เมกกะวัต์ เป็น 35 เมกกะวัตต์ ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 1,638 ล้านบาท โดยแหล่งเงินทุนจะมาจาก KBS จำนวน 300 ล้านบาท และที่เหลือเป็นการกู้จากสถาบันการเงิน ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักรแล้วเสร็จ พร้อมขายไฟให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ได้ประมาณเดือนมกราคม 2557

ทั้งนี้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลดังกล่าว เป็นโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าที่ใช้ประโยชน์จากกากอ้อยที่เหลือจากการผลิตน้ำตาลให้ได้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งจะทำให้ KBS มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นประมาณ 7-10% และจะผลักดันให้กำไรสุทธิของ KBS เพิ่มมากขึ้น 25-30% โดยจะเริ่มเห็นภาพของรายได้และกำไรสุทธิขยายตัวตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป

"รายได้ที่เกิดจากโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล คิดเป็นสัดส่วนที่ไม่มากนัก หากเปรียบเทียบกับฐานรายได้ของ KBS ในปัจจุบันซึ่งมาจากการขายน้ำตาลเป็นหลัก แต่ที่จะเห็นภาพชัดคือในส่วนของการกำไรที่จะเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น โดยคาดว่าจะผลักดันให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 25-30% อย่างไรก็ตาม KBS ไม่ได้คาดหวังที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากไฟฟ้าให้มากกว่านี้ เพราะวัตถุประสงค์หลักของโครงการดังกล่าวคือต้องการใช้ประโยชน์จากกากอ้อยที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงที่สุด โดยธุรกิจหลักของ KBS ก็ยังคงมาจากการขายน้ำตาล"

นายอิสสระ ยังได้กล่าวถึงแนวโน้มรายได้ของ KBS ในปี 2555 นี้ คาดว่าจะทำได้ใกล้เคียงปีก่อนที่ประมาณ 6,150 ล้านบาท จากปริมาณการหีบอ้อยที่ 2.5 ล้านตัน ส่วนปี 2556 ตั้งเป้าอ้อยเข้าหีบประมาณ 2.8 ล้านตัน หลังปริมาณพื้นที่ปลูกอ้อยปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้ขายน้ำตาลล่วงหน้าไปแล้วกว่า 53% ทำให้คาดว่ารายได้และกำไรจะเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีนี้ประมาณ 10% นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ปรับแผนหันมาผลิตน้ำตาลทรายขาวซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าน้ำตาลทรายดิบมากขึ้นเพื่อช่วยสนับสนุนรายได้และกำไรของบริษัทในอนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๘:๓๓ อีวีเซเว่น ผนึก ไลน์แมน (ประเทศไทย) ปฏิวัติวงการขนส่งผ่านแอปฯ เปิดโครงการใหม่ สร้างโอกาสทางอาชีพคนขับรถแท็กซี่ไฟฟ้า
๐๘:๔๓ สุขภาพดีอย่างยั่งยืน คือเป้าหมายสำคัญในอนาคต เตรียมพบกับ มหกรรมสุขภาพและความงาม วันที่ 24-27 เมษายน 2568 เซ็นทรัล พระราม
๐๘:๓๓ โตชิบาพร้อมสู้ศึกหน้าร้อน! เปิดตัวแคมเปญใหม่ พร้อมส่งโปรโมชันใหญ่ หวังดึงยอดขาย
๐๘:๐๐ MCC จัดงานสัมมนาใหญ่ประจำปี MCC Executive Tech Talk 2025 นำเสนอเทคโนโลยีและกลยุทธ์ใหม่ รุกตลาดไทยอย่างยั่งยืน
๐๘:๑๑ โตชิบาคว้ารางวัลสุดยอดนวัตกรรมสินค้าแห่งปี ตอกย้ำผู้นำเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
๐๘:๕๒ B2S Book Awards 2025 งานประกาศรางวัล Book BookFluencerอย่างยิ่งใหญ่
๐๘:๐๐ กรมทรัพยากรน้ำ มอบน้ำดื่ม หนุนปฏิบัติการภารกิจกู้ภัยตึก สตง.ถล่ม จากเหตุแผ่นดินไหว
๐๘:๒๐ Gracie Abrams ยิ้มหวานอารมณ์ดี เซอร์วิสแฟนๆ ทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในงานแถลงข่าวที่สิงคโปร์ อุ่นเครื่องก่อนแฟนๆ ชาวไทยได้เจอตัวจริงในคอนเสิร์ต 19 เม.ย.
๑๗:๓๑ โหน-ธนากร สลัดภาพพระเอก จับไมค์ร้องเพลง เปิดตัวซิงเกิลแรก รอบเดียวพอ (Enough) ดีใจ!! ได้ เอก Season Five
๑๗:๕๖ Chilling Sunday ถ่ายทอดเรื่องราวรักคลุมเครือ!! ผ่านซิงเกิลที่ 5 ถ้าเธอยังไม่ลืมเขา จากอัลบั้ม Across