จิระ มะลิกุล เผยว่า “เราทำเพลงนี้ขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 7 ปี จีทีเอช ที่ทำงานกันมา การทำหนังของเราทุกเรื่อง ไม่แตกต่างกับขั้นตอนการมีความรักเลย หนังทุกเรื่อง ผ่านความผิดหวัง ผ่านความเสียใจที่ต้องใช้ความอดทน ผจญกับขั้นตอนของการทำงาน ที่ทำให้เราท้อแท้ แต่เรายังไม่เคยท้อถอย จนมาถึงทุกวันนี้ 7 ปี มันทำให้เรามีรางวัล ไม่ใช่รางวัลจากสถาบัน แต่เป็นรางวัลในใจที่เราผ่านมันมาได้ และไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเราจะมีความรักกี่ครั้ง หรือ จีทีเอช จะหมุนไปอีกกี่ 7 ปี เราจะไม่ลืมว่า ในการมีชีวิต ในการทำงาน ในการมีความรักของเรา เราจะสู้ อดทน และไม่ลืมคำว่าเสียใจ และเพลงนี้ก็ยังเป็นเพลงประกอบหนัง รัก 7 ปี ดี 7 หน
ซึ่งเพลงนี้พูดถึงความหมายของหนังทั้ง 3 เรื่อง ซึ่งเป็นนิยามความรักของคน 3 วัย ในช่วง วัยรุ่น 14 วัยทำงาน 21-28 และในช่วงวัย 40 แล้วในที่สุดคือไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนไป มันจะมีบางอย่างที่แทบจะเหมือนกันในการมีความรักของคนทุกวัย นั่นคือความรักมักมาพร้อมความผิดหวังและเสียใจ ไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหน ก็ไม่พ้นคำว่าเสียใจ เพราะความไม่สมหวังในความรักเป็นขั้นตอนหนึ่งของการมีความรัก ส่วนคนที่ประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิตคู่ทั้งหลาย คือคนที่สามารถจะ อดทน กล้าหาญ เผชิญความผิดหวัง ความเสียใจ ในการใช้ชีวิตในช่วงของความรักมาได้
ซึ่งเพลงนี้ เราอยากลองทำเพลงเท่ห์ๆแบบเพลงโซลดูบ้าง เพลงเลยจะมีจังหวะสนุก มีความหมาย มีความรู้สึกเข้ากับหนังทั้ง 3 เรื่องมาก โดยมีคุณเอ-วัฒนกร มาทำดนตรีให้ เพลงนี้ใช้เครื่องดนตรีแค่ 3 ชิ้น คือ กลอง เบส คีย์บอร์ด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในเพลงนี้คือเสียงร้องของ ดา เอ็นโดรฟิน แค่เสียงดาแบบไม่มีดนตรีก็เพราะแล้ว เมื่อใช้เสียงของดาเป็นตัวนำ วิธีการร้องที่โชว์พลังเสียง รวมกับเครื่องดนตรี 3 ชิ้น นั้น ดาถือเป็นนักร้องเพลงโซลที่ยอดเยี่ยมมาก และในเมืองไทยก็ยังไม่ค่อยมีใครทำเพลงแนวนี้มากนัก ใครได้ฟังเพลงนี้แล้ว คงเรียก ดา ว่าเป็นเทพธิดาแห่งเพลงโซล ได้เลย ส่วนเนื้อร้องเราได้ คุณกบ-ขจรเดช (Big Ass) มาแต่งเนื้อร้อง ซึ่งถือเป็นเกียรติมากที่คุณกบชอบหนังเรื่องนี้แล้วแต่งเพลงให้เรา คุณกบได้ดูหนังทั้ง 3 เรื่องแล้วอินมาก อินกับเรื่องของการเปลี่ยนแปลง และใช้ตัวเนื้อเรื่องเป็นหลักในการเขียนเป็นเนื้อเพลงนี้ขึ้นมา ตัวละครในหนังรักมักจะผิดหวัง ซึ่ง ความผิดหวัง และ ความเสียใจ ในเรื่องของความรัก จริงๆแล้วมันเป็นเมนคอร์สของความรักเลยครับ”