นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.มิลล์คอนสตีล อินดัสทรีส์ (MILL) กล่าวว่าผลประกอบการของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะสามารถทำได้ทะลุ 17,000 ล้านบาท ได้แบบไม่ต้องกังกล ทั้งนี้เป็นผลมาจากโครงการ Green MILL สามารถเดินเครื่องการผลิตในเชิงพาณิชย์ได้เร็วกว่ากำหนด โดยได้เริ่มเดินเครื่องผลิตตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งจะรับรู้รายได้เต็มที่ตั้งแต่ไตรมาส 2/2555 นี้ ดังนั้นจะทำให้ผลประกอบการของมิลล์คอนฯ จะขยายตัวอย่างโดดเด่นตั้งแต่ไตรมาสที่ 2/2555 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ โครงการ Green MILL เป็นโครงการสำหรับผลิตเหล็กและเตาหลอมประสิทธิภาพสูง ที่ทันสมัยและดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Green Mill สามารถดำเนินการผลิตแบบเชิงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งโครงการดังกล่าวจะทำให้ผลการดำเนินงานของมิลล์คอนสตีลฯ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ เพราะเป็นโครงการผลิตเหล็กเกรดพิเศษ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันให้อัตรากำไรขั้นต้น (Margin)ไต่ระดับเพิ่มขึ้นไปแตะถึง 15% ได้ จากเหล็กทั่วไปที่มีอัตรากำไรขั้นต้นประมาณ 3-5% อีกทั้งได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ เป็นเวลา 8 ปี
"หลังจากโครงการกรีนมิลล์เดินเครื่องผลิตและจำหน่ายได้แล้ว นอกจากจะทำให้รายได้ของมิลล์คอนฯ ขยายตัวอย่างก้าวกระโดดยังส่งผลให้คู่แข่งทางการค้า หันมาจับมือร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจอีกหลายราย ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีทั้งด้านการค้าและการร่วมพัฒนาวงการเหล็กของไทยให้เติบโตยิ่งขึ้น และสำหรับภาพรวมความต้องการใช้เหล็กในปีนี้ จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามการขยายตัวของเศรษฐ ที่มีการคาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP ในปีนี้จะเติบโตได้ 5-6%"
กลุ่มบริษัท มิลล์คอนฯ คือหนึ่งในผู้ผลิตและผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กชั้นนำของไทย และเป็นศูนย์บริการด้านผลติภัณฑ์เหล็กแบบครบวงจร โดยมีผลิตดภัณฑ์นานาชนิดที่เหมาะกับความต้องการที่หลากหลาย อาทิ เหล็กเส้นกลม (Round Bars) เหล็กเส้นข้ออ้อย (Deformed Bars) เหล็กตัวซี (Lip Channel Steel) และผลิตภัณฑ์เหล็กอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมจากทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับโครงการ Green Mill คือหนึ่งในความภาคภูมิใจของกลุ่มบริษัทฯ ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดระยอง มีกำลังผลิต 500,000 ตันต่อปี โดยเป็นโรงงานสำหรับผลิตเหล็กคุณภาพสูงพิเศษ (low, medium, and high carbon steel) ด้วยเศษเหล็ก โดยใช้เทคโนโลยี สำหรับอุตสาหกรรมอันทันสมัยจากประเทศอิตาลี คือ เตาหลอมอาร์คไฟฟ้า (Electronic Arc Furnace : EAF) ซึ่งสามารถหลอมเศษเหล็กเหลือใช้เพื่อผลิตเหล็กแท่งยาว (Billet) ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์เหล็กประเภทต่างๆ ด้วยเทคโนโลยี Electric Arc Technology (FASRACTM) และ Vacuum Degassing Technology (VD) อันเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดพลังงานและลดมลภาวะ อีกทั้งเนื้อเหล็กที่ได้จากกระบวนการการผลิตจะมีคุณภาพพิเศษ โดยมีความบริสุทธิ์และมีเนื้อเรียบกว่าเนื้อเหล็กที่ผลิตโดยเทคโนโลยีทั่วไป
นอกจากนี้โครงการ Green Mill ยังมีการติดตั้งเครื่องบำบัดไอเสียและฝุ่นด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด (Fume Treatment Plant and Quenching Tower) ซึ่งนับเป็นโครงการแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะช่วยกรองอากาศเสียและฝุ่นที่เกิดจากกระบวนการการผลิต โดยสามารถรับประกันได้ว่าคุณภาพอากาศที่ได้อยู่เหนือระดับมาตรฐานของการควบคุมคุณภาพสากล
“Green Mill Project มีวัตถุประสงค์เพื่อผลิต Billet ทั้งระดับ commercial grade ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเหล็กเส้น เหล็กข้ออ้อย และ Billet ระดับ special grade เพื่อสร้างสินค้าที่เป็น high value added ซึ่งนอกจากอัตราการทำกำไรที่จะเพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังจะก่อให้เกิดประโยชน์กับกลุ่มธุรกิจของมิลล์คอนสตีลอย่างมาก คือช่วยป้องกันความเสี่ยงในการขาดแคลนวัตถุดิบและเป็นการลดต้นทุนการผลิต, ขยายผลิตภัณฑ์สินค้าได้หลากหลายมากขึ้น ตรงตามความต้องการลูกค้า และสามารถแข่งขันได้ในอนาคต”นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.มิลล์คอนสตีลอินดัสทรีส์ กล่าวในที่สุด