อินเทล แล็ปย้อนเวลาสู่อนาคต งานฉลองหนึ่งทศวรรษแห่งการวิจัยเพื่อเชื่อมโยงเข้ากับวิถีชีวิตมนุษย์ พร้อมประกาศเปิดตัวศูนย์วิจัยเพื่อการศึกษาร่วมกันแห่งล่าสุด

ศุกร์ ๒๙ มิถุนายน ๒๐๑๒ ๑๖:๒๐
- อินเทล แล็ปเปิดตัวศูนยวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอินเทล (Intel Science and Technology Center- ISTC) ที่ลงทุนไปกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

- ศูนย์วิจัยแห่งที่ 7 นี้ตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เมืองเออร์ไวร์ สหรัฐฯ และเน้นการทำวิจัยเกี่ยวกับโซเชียล คอมพิวติ้ง (Social Computing) ร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำอีกหลายแห่ง

- ขณะนี้มีผลงานวิจัยกว่า 20 ผลงานจากทั่วโลกที่นำเสนอเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ในอีก 10 ปีข้างหน้า นับตั้งแต่งานวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีอัจฉริยะสำหรับเมืองบ้านและออฟฟิศไปจนถึงวิธีการช้อปปิ้ง สื่อสารถึงกัน และการขับรถ เป็นต้น

- อินเทล แล็ป จัดแสดงนิทรรศการ Hall of Fameเนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี โดยนำเสนอผลงานทางเทคโนโลยีที่คิดค้นโดยอินเทล แล็ป ตลอดหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา และได้ถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตของคนทั่วโลกในปัจจุบัน

อินเทล แล็ปเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนและนักวิเคราะห์ร่วมงานฉลองครบรอบ 10 ปีของศูนย์วิจัยอินเทล (Research at Intel) โดยมี จัสติน แรทเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของอินเทล คอร์ปอเรชั่น ทำพิธีเปิดนิทรรศการ ““Facets of Future Life”ที่จัดแสดงผลงานวิจัยอันล้ำสมัยซึ่งอยู่ระหว่างการค้นคว้าเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีแห่งอนาคต

พร้อมกันนี้ แรทเนอร์ยังได้ประกาศเปิดตัวศูนยวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอินเทลIntel Science Technology Center (ISTC) แห่งที่ 7 ซึ่งมุ่งเน้นการทำวิจัยเกี่ยวกับโซเชียล คอมพิวติ้ง และนับเป็นครั้งแรกที่อินเทลได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเพื่อศึกษาด้านการออกแบบที่เกี่ยวข้องกับประสบการณ์ของผู้คนอีกด้วย

ศูนย์วิจัย ISTC -Social ของอินเทลแห่งนี้ ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ที่เมืองเออร์ไวน์ โดยเป็นศูนย์วิจัยที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวของกลุ่มพันธมิตรด้านการวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ ประกอบด้วย คอร์แนล สถาบันเทคโนโลยีจอร์เจีย มหาวิทยาลัยอินเดียน่า และมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก งบประมาณจำนวน 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯที่นำมาใช้ในการก่อตั้งศูนย์วิจัยแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนงบประมาณ 5 ปี จำนวน 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งได้ประกาศครั้งแรกไปเมื่อเดือนมกราคม 2554 เช่นเดียวกับศูนย์วิจัย ISTC อีก 6 แห่งที่จัดตั้งไปแล้ว ซึ่งเน้นวิจัยเกี่ยวกับข้อมูลขนาดใหญ่, คลาวด์ คอมพิวติ้ง, เอ็มเบดเด็ด คอมพิวติ้ง, วิชวล คอมพิวติ้ง,secure computing และ pervasive computingศูนย์วิจัยเพื่อศึกษาโซเชียล คอมพิวติ้ง แห่งนี้ ได้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างมิติใหม้ในการใช้คอมพิวเตอร์ และนำเสนอผลงานวิจัยที่เป็นประโยชน์จากกลุ่มนักสังคมวิทยาและนักพัฒนาเทคโนโลยี

แรทเนอร์กล่าวว่า “เพื่อให้สอคคล้องกับความเป็นผู้นำของอินเทลด้านการคิดค้นนวัตกรรม เราได้จัดตั้งชุมชนนักวิจัยของอินเทล ซึ่งประกอบด้วยบุคคลากรและนักวิจัยที่มาจากหลากหลายสาขาวิชา เพื่อช่วยลดช่องว่างระหว่างการเรียนรู้ทางด้านเทคนิคและสังคมไว้ด้วยกันทำให้นักวิจัยสามารถพัฒนาผลงานวิจัยของตนเองให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ดังจะเห็นได้จากการนำแนวทางการศึกษาที่เน้นการนำประสบการณ์จริง (experience-drivenapproach) มาใช้สร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ที่เคยประสบความสำเร็จในอดีต จนถึงเทคโนโลยีที่กำลังมีการพัฒนาในอินเทล แล็ป ปัจจุบัน งานวิจัยของอินเทล แล็ปในอดีตได้รับการพัฒนาให้กลายเป็นสิ่งของที่เป็นประโยชนต่อชิวิตประจำวันของเรา และยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต”

ศูนย์วิจัย ISTC Social จะเน้นการวิจัยที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิตอล มิเดีย ที่จัดเป็นปรากฏการณ์ทางด้านสังคมและวัฒนธรรม หรือที่ในแวดวงการศึกษาเรียกว่า “คลื่นลูกที่ 3” แห่งโซเชียล คอมพิวติ้ง ซึ่งวิถีชีวิตบนโลกดิจิตอลและโซเชียลจะเข้ามาเชื่อมโยงกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนนำไปสู่โอกาสในการพัฒนานวัตกรรมในด้านต่างๆ ว่ามีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรผ่านการเชื่อมโยงของข้อมูล โดยนักวิจัยสามารถนำอุปกรณ์ดิจิตอลชนิดต่างๆ มาใช้เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่โลกของเราได้ เป้าหมายของการก่อตั้งศูนย์วิจัย ISTC-Social คือความเป็นผู้นำในการศึกษาวิธีการที่มนุษย์สามารถนำเครือข่ายขนาดใหญ่การติดต่อผ่านอุปกรณ์โมบายล์ และคลาว์ดคอมพิวติ้งมาใช้ในการสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น

นิทรรศการ "Facets of Future Life"

การจัดแสดงผลงานวิจัยภายในงาน Research at Intelถูกแบ่งออกเป็นโซนอินเตอร์ แอคทีฟทั้งหมด 4 โซนที่นำหลากหลายสาขาวิจัยมาเชื่อมต่อกันภายใต้คอนเซ็ปท์ “ศูนย์การใช้ชีวิตแบบยั่งยืน” (Sustainable Living Center) ที่นำเสนอเมืองอัจฉริยะ รวมไปถึงบ้านและออฟฟิศแห่งอนาคต แต่ละโซนประกอบด้วย :

ชีวิตของฉัน ( My Life):จัดแสดงเทคโนโลยีที่นำการเคลื่อนไหวและประหยัดพลังงานมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตภายในบ้าน เช่นตัวเซนเซอร์ภายในบ้านเพื่อยกระดับการรักษาความปลอดภัยแทนการใช้กุญแจ ไปจนถึง “กระจกวิเศษ” (Magic Mirror) ที่กลายเป็นห้องแต่งตัวแบบเสมือนจริงด้วยการนำเทคโนโลยีมาสร้างหุ่นอวาตาร์ 3 มิติที่มีรูปร่างและเคลื่อนไหวได้เสมือนจริง รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเล่น มีเดียคอนเท้นท์ต่างๆได้บนพื้นที่เรียบ บนผนัง หรือเคาน์เตอร์ภายในบ้าน

รถของฉัน (My Car):นำเสนอนวัตกรรมที่เชื่อมต่อผู้คน ข้อมูลเกี่ยวกับไฮเวย์ และ ข้อมูลการเดินทางเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น โดยหนึ่งในผลงานที่ถูกนำมาจัดแสดงคือระบบสัญญาณไฟต้นแบบที่ใช้ประโยชน์จากซอฟต์แวร์และ Intel? architecture ในการจับภาพ (imaging) ฉายแสง (illuminating) และการคำนวณ (computation)ช่วยให้คนขับรถมองเห็นสัญญาณไฟแม้ในเวลาที่ฝนตกหนัก

งานของฉัน (My Job): เพิ่มประสิทธิภาพในการประชุม พร้อมกับบริการคลาว์ดเซอร์วิสที่มีคุณภาพ รวมถึงระบบการวิเคราะห์แบบเสมือนจริงที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานอย่างสิ้นเชิง ตัวอย่างที่นำมาจัดแสดงเช่นเทคโนโลยีผู้ช่วยการประชุมแบบอัจฉริยะ (Smart Meeting Assistant) ที่ผสานเทคโนโลยีจากหลากหลายแขนงช่วยให้ผู้ใช้สามารถถอดเทป ทำคำบรรยาย และแปลระหว่างการประชุมกลุ่มแบบเรียล ไทม์ นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดง เทคโนโลยีการมองเห็น (visualization) อีก 3 แบบ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการจัดการ“ข้อมูลขนาดใหญ่” ด้วยการทำ Data Visualization และ ใช้ประโยชน์จากสูตรอัลกอรธึมมาเพื่อหารูปแบบและความสัมพันธ์(ของข้อมูลเพื่อ) ต่อยอดการเรียนรู้และสนับสนุนวิธีการตัดสินใจ

เทคโนโลยีที่จำเป็น (Tech Essentials): รากฐานของนวัตกรรมที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์แห่งอนาคตและเว็บไซต์ โดยผู้ใช้สามารถสัมผัสได้ถึงเทคโนโลยีแห่งอนาคต โซนนี้จะมีการจัดแสดงเทคโนโลยีต่างๆสำหรับการเพื่อใช้ในการทำงาน วิชวล คอมพิวติ้ง รวมถึงเทคโนโลยีเด่นอื่นๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยศูนย์วิจัย ISTC โดยเทคโนโลยีเหล่านี้จะคำนึงถึงคุณสมบัติ high fidelity, ขนาด และการใช้งานแบบเรียล ไทม์ รวมถึงพัฒนาแคแรกเตอร์แบบเสมือนจริงเพื่อสะท้อนพฤติกรรมของมนุษย์ นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาบราวเซอร์แบบ 3 มิติที่นำเทคโนโลยีที่ชื่อ “River Trail” มาใช้รวมกับเทคนิคที่ช่วยป้องกันข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บนคลาวด์ด้วยระบบจดจำใบหน้าและเซิร์ฟเวอร์อัจฉริยะที่ใช่สตรีม หรือ แชร์วิดีโอไปยังอุปกรณ์หลายๆเครื่องได้ในเวลาเดียวกัน และสามารถสตรีมวิดีโอให้เข้ากับอุปกรณ์ที่รองรับได้อีกด้วย

การใช้ชีวิตแบบยั่งยื่น (Sustainable Living) :นำเทคโนโลยีและบริการที่ช่วยให้ผู้ใช้งานและผู้ให้บริการ ผู้ควบคุม และอุปการณ์ต่างๆเชื่อมต่อกันได้อย่างไม่ติดขัดภายใต้สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย อินเทล แล็ป ได้พัฒนาเซนเซอร์, ซอฟต์แวร์ แอกกรีเกเตอร์(software aggregator) ซึ่งช่วยจัดระเบียบซอฟต์แวร์ชนิดต่างๆ, แอคซูเอเตอร์(actuators)และ อินเตอร์เฟส ที่เมื่อใช้งานร่วมกันสามารถแก้ไขปัญหาต่างได้ เทคโนโลยีที่นำมาจัดแสดง เช่น เทคโนโลยีที่ช่วยจัดการและควบคุมการใช้พลังงาภายในบ้าน เทคโนโลยีที่ช่วยสร้างออฟฟิศอัจฉริยะ รวมถึงเทคโนโลยีเซนเซอร์ที่อินเทลพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจร คุณภาพน้ำและอากาศ หรือแม้กระทั่ง electric charging station infrastructure

ฉลองครบรอบ 10 ปีแห่งการวิจัยสู่ Hall of Fame

ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา นักวิจัยประจำอินเทล แล็ปได้พัฒนาเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ที่ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนและเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้งานคอมพิวเตอร์มากมาย ในปีพ.ศ.2544 อินเทล ได้จัดตั้งอินเทลแล็ปขึ้น และในปีพ.ศ. 2546 ได้จัดงานงานResearch at Intelเป็นครั้งแรกเพื่อจัดแสดงผลงานทางวิจัยที่หลากหลายซึ่งอยู่ระหว่างการค้นคว้าวิจัยจากทั่วโลก ซึ่งจะครบรอบปีที่ 10 ในปีนี้ ทั้งนี้เพื่อร่วมฉลองการก่อตั้งอินเทล แล็ป จึงได้มีการจัดนิทรรศการแสดงผลงานเทคโนโลยี 10 ชิ้น ที่ถูกจินตนาการและพัฒนาโดยนักวิจัยของอินเทล แล็ป จนกลายมาเป็นผลิตภัณฑ์ของอินเทล อาทิ เทคโนโลยี ThunderboltTM,โปรเซสเซอร์Intel? AtomTM, เทคโนโลยีIntel? Wireless Displayและอีกมากมายที่นำไปสู่การสรรค์สร้างและเปิดประสบการณ์ พร้อมเพิ่มสมรรถนะภาพของผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ทุกชนิด

อินเทลเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมการประมวลผลรวมทั้งการออกแบบ และสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่เป็นพื้นฐานการพัฒนาอุปกรณ์ประมวลผลระดับโลก ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอินเทล สามารถเข้าชมได้ที่www.intel.com/pressroom , www.intel.com/th, blogs.intel.com, ทวิตเตอร์ @Intelthailand และ เฟสบุ๊ค IntelThailand

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ