อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทยพร้อมเติบโตจาก OEM สู่ ODM โครงการ Fashion Network สร้างเครือข่ายแฟชั่นไทยก้าวไกลสู่สากล โชว์ผลสำเร็จแบรนด์ไทยติดอันดับแบรนด์โลกในงาน ‘BIFF&BIL 2012’

จันทร์ ๐๒ กรกฎาคม ๒๐๑๒ ๑๐:๔๘
เปิดตัว 9 แบรนด์แฟชั่นไทยสู่ตลาดโลกผ่านโครงการ Fashion Network ในงาน ‘BIFF&BIL 2012’ มุ่งเจาะตลาดสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะ ระบุเป็นผลสำเร็จของการพัฒนาธุรกิจจาก OEM สู่ ODM นายสุกิจ คงปิยาจารย์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย เปิดเผยว่า “กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ได้ให้การสนับสนุนงบประมาณสำหรับการพัฒนาแฟชั่นเครื่องนุ่งห่มไทยสู่ตลาดการค้าสากลภายใต้โครงการพิเศษสร้างเครือข่ายแฟชั่น (Fashion Network) ซึ่งเริ่มต้นในปี 2554 โดยเน้นไปที่ตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดใหญ่สำหรับสินค้าแฟชั่นและเครื่องนุ่งห่มไทย วัตถุประสงค์สำคัญเพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการตลาด และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ผู้ผลิต และส่งออกเครื่องนุ่งห่มไทยไปตลาดสหรัฐอเมริกา เป็นการยกระดับการพัฒนาธุรกิจจาก OEM (Original Equipment Manufacturer : การรับจ้างผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ตามแบบที่ลูกค้ากำหนด) สู่การผลิตแบบ ODM (Original Design Manufacturer : การผลิตที่มีการพัฒนาดีไซน์ รูปแบบสินค้าได้เอง)

ปัจจุบันแบรนด์แฟชั่นเครื่องนุ่งห่มไทยหลักที่ส่งออกไปยังตลาดสหรัฐ ฯ ญี่ปุ่น และกลุ่มประเทศในยุโรป นั้นมีหลากหลายแบรนด์ที่ได้รับความนิยม ทั้งนี้ตลอดช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ผลสำเร็จของโครงการสามารถผลักดันแบรนด์สินค้าไทยสู่ตลาดสหรัฐอเมริกาได้มากขึ้น มูลค่าการส่งออกเครื่องนุ่งห่มไทยในตลาดสหรัฐฯ ปี 2554 มีจำนวน 1,142 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยกรมส่งเสริมการส่งออกได้คาดการณ์มูลค่าการส่งออกเครื่องนุ่งห่มในปี 2555 ไว้ประมาณ 3,439 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้มีผู้ประกอบการให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการเพิ่มเติมในปีนี้จากเดิม 6 บริษัท เป็น 9 บริษัทผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของตนเอง ได้แก่ MILLIONS OF COLORS (เสื้อผ้าเด็ก ( , INPHORM (เสื้อผ้าสตรีแนวกีฬา ( , SWITCH (เสื้อผ้าสตรี) , ANDREW & AUDREY (เสื้อผ้าเด็ก) , MALI KIDS (เสื้อผ้าเด็ก) , Aulle (เสื้อผ้าสตรี) , Khaki Bros. (เสื้อผ้าผู้ชาย) , Workshop (เสื้อผ้าสตรี) , Explendid (เสื้อผ้าผู้ชาย)

“ในปีที่ผ่านมาผู้เข้าร่วมโครงการในรุ่นที่ 1 และ 2 ได้เข้าร่วมแสดงสินค้าในงาน BIFF & BIL 2011 ซึ่งปัจจุบันบริษัทที่เข้าโครงการดังกล่าวนี้มีความสำเร็จค่อนข้างสูง โดยสามารถนำแบรนด์สินค้าไทยที่ได้รับการพัฒนาเข้าไปวางจำหน่ายในหลายมลรัฐของประเทศสหรัฐอเมริกา และมีแนวโน้มในการขยายฐานไปยังรัฐอื่นๆเพิ่มเติมอีกด้วย” นายสุกิจ กล่าว

สำหรับการพัฒนาสินค้าผ้าผืนและเส้นด้าย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอุตสาหกรรมกลางน้ำ ประกอบด้วย กลุ่มอุตสาหกรรมฟอกย้อมและตกแต่งสิ่งทอไทย กลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอไทย กลุ่มอุตสาหกรรมทอผ้าไทย มีการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ผ่านการวิจัยและพัฒนาเพื่อลดปัญหาโลกร้อนด้วยการพัฒนาสิ่งทอและผ้าผืนต่าง ๆ จากวัสดุธรรมชาติ เน้นความเป็น Eco — Green มากขึ้น โดยกรมส่งเสริมการส่งออกได้สนับสนุนโครงการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมดังกล่าวร่วมกับประเทศอิตาลี

ภายในงานยังมีนิทรรศการ Japan Connect การจัดแสดงผ้าผืน และเสื้อผ้าสำเร็จรูป ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากประเทศญี่ปุ่น โครงการนี้เกิดขึ้นจากกรอบความร่วมมือตามความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด ด้าน Fashion trend และด้านเทคนิคการตัดเย็บและการทำแพทเทิร์น มาเป็นผู้ร่วมอบรมให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการไทยซึ่งมีผู้สนใจร่วมโครงการจาก 3 ภาคอุตสาหกรรมได้แก่ โรงงานทอผ้าผืน โรงงานฟอกย้อม และโรงงานตัดเย็บ (กลุ่มการ์เมนท์ งโดยผู้ประกอบการจะได้ร่วมกันทำงานเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่ามีทิศทางและตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายสอดคล้องกับลักษณะการทำงานแบบญี่ปุ่น

ในส่วนของอุตสาหกรรมฟอกย้อมและตกแต่งสิ่งทอ มีการนำเสนอนวัตกรรม เช่น การพิมพ์ผ้าในระบบ Inkjet Printing, Coating and Lamination ซึ่งเป็นผลจากการพัฒนาร่วมกับประเทศญี่ปุ่นในโครงการพัฒนาผ้าผืนรูปแบบใหม่ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยเน้นตลาดญี่ปุ่นเป็นหลัก และเตรียมขยายไปสู่ตลาดในแถบยุโรป ซึ่งสำหรับมูลค่าการส่งออกสินค้าผ้าผืนและเส้นด้าย กรมส่งเสริมการส่งออกได้คาดการณ์มูลค่าส่งออกปี 2555 ไว้ประมาณ 3,020 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยตลาดส่งออกสำคัญคือ เวียดนาม จีน บังคลาเทศ และญี่ปุ่น

กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างชาติและผู้ที่สนใจเข้าร่วมชมงานแสดงสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังใหญ่ที่สุดในอาเซียน “งานแสดงสินค้าแฟชั่นและงานแสดงสินค้าเครื่องหนังปี 2555” (The Bangkok International Fashion Fair and Bangkok International Leather Fair 2012 : BIFF&BIL 2012) โดยงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน - 1 กรกฎาคม 2555 ณ ห้องชาเลนเจอร์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี (วันเจรจาธุรกิจ: 27-29 มิถุนายน 2555 เวลา 10.00 — 18.00 น. และวันจำหน่ายปลีก (สำหรับบุคคลทั่วไป) 30 มิถุนายน — 1 กรกฎาคม 2555 เวลา 10.00 — 21.00 น.) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กรมส่งเสริมการส่งอออก โทร 0-2507-8370, 0-2507-8369, 0-2507-8367, 0-2507-8368 สายด่วนกรมส่งเสริมการส่งออก 1169 หรือเว็บไซต์ www.biffandbil.com

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๐:๓๔ ดรีมมี่ ร่วมด้วยช่วยฟื้นฟูผู้ประสบภัยหลังน้ำลด สมทบทุน-มอบสินค้าอุปโภคบริโภค และของใช้จำเป็น รวมมูลค่ากว่า 300,000
๐๕ พ.ย. กทม. เฝ้าระวังฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง เข้มตรวจสอบความแข็งแรงอาคารและป้ายโฆษณา
๐๙:๓๗ EXIM BANK แถลงผลการดำเนินงานเดือนมกราคม-กันยายน 2567 ปลดล็อกศักยภาพผู้ประกอบการไทยสู่เวทีโลก สร้างโลกเติบโตยั่งยืน
๐๙:๑๐ ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น ร่วมออกบูธในงาน Pet Fair Southeast Asia 2024 นำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง
๐๙:๒๗ มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป กระตุ้นความเร้าใจเต็มสูบ กับ BMW 220i Gran Coupe M Sport ฟรีชุดแต่ง M Performance มูลค่าเกือบ 100,000 บาท จัดให้ในราคาพิเศษ 1.99 ล้านบาท เฉพาะที่โชว์รูม BMW Millennium
๐๙:๓๖ CMC ตอกย้ำความสำเร็จส่งท้ายปี ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 46 ยอดจอง 145 ยูนิต มูลค่า 320 ล้านบาท
๐๙:๕๑ โพชงพลัส เครื่องดื่มสมุนไพร คว้ารางวัล BUSINESS PRODUCT OF THE YEAR AWARDS 2024
๐๙:๓๒ หุ้นกู้ RT ครั้งที่ 1/67 วันแรกกระแสตอบรับดี นักลงทุนสถาบัน-รายใหญ่ จองซื้อคึกคัก
๐๙:๔๘ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ เปิดปรากฏการณ์ช้อป 'GREEN RETAIL STORE' สาขาสระบุรี แห่งที่ 33 ชู 'Zero Energy Building'
๐๙:๔๑ 8 หน่วยงานเซ็น MOU เพื่อดำเนินการร่วมกันด้านพลังงาน คมนาคม และสภาพภูมิอากาศ ภายใต้โครงการ TGC EMC ของเยอรมนี