นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ผู้นำในการให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารโทรคมนาคมอย่างครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดสำนักงานตัวแทนในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยได้มอบหมายให้ คุณราล์ฟ ฮันเดอร์ทมาร์ก เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ ในฐานะ Country Manager ดูแลตลาดในกัมพูชา ทั้งนี้ สำนักงานดังกล่าวจะเป็นศูนย์กลางติดต่อประสานงานในระดับพันธมิตรทางธุรกิจ ไม่ได้ทำการตลาดกับผู้ใช้บริการปลายทางโดยตรง โดย AIT จะใช้องค์ความรู้จากประสบการณ์อันยาวนานของทีมงาน และผลงานที่ได้ให้บริการด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารโทรคมนาคมกับองค์กรใหญ่ๆ สร้างเครือข่ายระบบไอทีที่เป็นประโยชน์กับประเทศไทยมามากมายแล้วเป็นจุดขายในการหาพันธมิตรในกัมพูชา ซึ่งการออกมาลงทุนดำเนินธุรกิจในต่างประเทศครั้งนี้ เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของบริษัทฯ ที่ต้องการขยายธุรกิจ ในตลาดอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 นี้
“ในฐานะที่ AIT เป็นพันธมิตรทางธุรกิจระดับ Gold Partner กับ CISCO ซึ่งเป็นผู้นำทางด้านอุปกรณ์เครือข่าย (Networking Solutions) ระดับโลก เราจึงเน้นที่จะให้การสนับสนุนพันธมิตรธุรกิจของ CISCO ในประเทศกัมพูชา ที่จะช่วยให้พันธมิตรขยายธุรกิจด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละรายได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และสร้างการเติบโตทางธุรกิจ ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น" นายศิริพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ AIT ไม่เพียงแต่เป็นผู้สนับสนุนอุปกรณ์ต่างๆ เท่านั้น แต่ยังพร้อมสนับสนุนบุคลากรระดับวิศวกร ที่มีความเชี่ยวชาญ ผ่านการฝึกอบรมและได้รับการรับรองจาก CISCO ให้เข้าไปช่วยดูแลให้คำแนะนำพันธมิตร เกี่ยวกับการติดตั้ง การใช้งาน การให้บริการ รวมถึงการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของ AIT ที่ว่า ‘ความสำเร็จของท่าน คือความสำเร็จของเรา’
นายศิริพงษ์กล่าวด้วยว่า ด้วยประสบการณ์ของ AIT และผลงานตลอดระยะเวลา 20 ปี ในการเป็น ผู้ให้บริการออกแบบและวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารโทรคมนาคมให้กับองค์กรขนาดใหญ่ ของไทย เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า เราจะสามารถตอบสนองตลาดกัมพูชาซึ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารโทรคมนาคมได้ โดยเชื่อว่าการเติบโตทางด้านนี้ในกัมพูชา จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับประเทศอื่นๆ ในโลก โดยเฉพาะในหน่วยงานภาครัฐ ภาคสถาบันการเงิน และภาคสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้ระบบเครือข่ายที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพเพื่อให้บริการสาธารณะ และเพื่อรองรับ การลงทุนทั้งของนักธุรกิจในประเทศเองและชาวต่างชาติ
ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ AIT กล่าวอีกว่า การเปิดสำนักงานในกัมพูชา ถือเป็นส่วนหนึ่งของพันธสัญญาที่ให้ไว้กับผู้ถือหุ้นและพนักงานของบริษัทฯ ว่าหากธุรกิจ AIT ในไทยมีอัตรา การเติบโตที่ดีและมั่นคงแล้ว เราจะขยายไปสู่ตลาดระดับภูมิภาคอาเซียนด้วย อันแสดงความพร้อมที่ AIT จะก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจด้านการให้บริการวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารโทรคมนาคม ด้วยประสิทธิภาพสูงสุด มีความเชื่อถือได้ ใช้งานง่าย อีกทั้งยังสามารถตอบโจทย์ผู้ใช้ได้อย่างครบวงจร
“ในช่วง 2 ทศวรรษแรกในการดำเนินธุรกิจของ AIT เรามุ่งทำตลาดในประเทศไทยก่อน เพราะเป็นตลาด ที่มีศักยภาพการเติบโตสูงอยู่แล้ว และ AIT ก็สามารถทำผลงานได้ดี มีผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นมาโดยตลอด จนทำให้ AIT เป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ได้รับการยอมรับจากนักลงทุน ว่ามีการเติบโตที่ได้ทั้งรายได้ กำไร และจ่ายเงินปันผลในอัตราสูงอย่างสม่ำเสมอ” นายศิริพงษ์กล่าวและว่า การเปิดสำนักงานในกัมพูชาครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจทั้งของตนเองและพนักงาน ที่ได้ช่วยกันทำให้บริษัทฯ ก้าวสู่การเป็นบริษัทในระดับภูมิภาค พร้อมๆ กับการก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 ซึ่งจะเกื้อหนุนให้ธุรกิจของ AIT เติบโตและมีรายได้ที่มั่นคงยิ่งขึ้นในอนาคต