นายพิชัย นีรนาทโกมล ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัทคอมพิวเตอร์ ซิสเท็ม คอนเน็คชั่น อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด หรือ ซีเอสซี กล่าวถึงผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2555 ว่าเป็นที่น่าพอใจ บริษัทฯ มียอดขาย 1,400 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายรวมทั้งสิ้นในปีนี้ไว้ที่ 3,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วกว่า 90% โดยปีนี้ ถือได้ว่าเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของซีเอสซี บริษัทฯ กำลังรีแบรนด์ดิ้ง เพื่อปรับภาพลักษณ์ของบริษัทฯ ให้ดูทันสมัย ตอกย้ำความมั่นใจของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น และยังเพื่อเป็นการฉลองการก้าวเข้าสู่ปีที่ 30 ของการก่อตั้งบริษัทฯ ในปีหน้า
“การแข่งขันในปัจจุบันมีความเข้มข้นสูงมาก ซีเอสซีจึงเน้นใช้กลยุทธ์ที่สามารถรักษาความมั่นใจและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นหลัก ในด้านสินค้า ที่ผ่านมา ซีเอสซีเลือกขายคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก เฉพาะที่เป็นอินเตอร์แบรนด์ภายในร้านเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น เอซุส เอเซอร์ เอชพี ซัมซุง เดลล์ โตชิบา เลอโนโว ทั้งยังกำหนดราคาสินค้าที่ดีกว่าคู่แข่ง มีสินค้ามากรุ่น เพื่อตอบรับความต้องการและพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า พนักงานขายของบริษัทฯ จะได้รับการเทรนเรื่องสินค้าอยู่ตลอด เพื่อให้สามารถให้คำแนะนำแก่ลูกค้า”
“เราต้องการเติบโตแบบก้าวกระโดด พร้อมเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้น จึงดำเนินกลยุทธ์ในหลายด้าน พร้อมกัน โดยเริ่มจากการรีแบรนด์ดิ้ง ปรับภายลักษณ์ร้านค้าสาขาทั่วประเทศ ขยายสาขาอีก 100 สาขา ควบคู่กับการเปิดศูนย์บริการประจำภาค พร้อมกับเพิ่มไลน์สินค้าโทรศัพท์มือถือเข้าในร้านสาขา โดยบริษัทฯ เตรียมงบประมาณในการดำเนินการครั้งนี้ราว 100 ล้านบาท”
นายพิชัยได้กล่าวถึงการเพิ่มไลน์สินค้าโทรศัพท์มือถือเข้าในร้านว่า บริษัทฯ ได้เริ่มลองขายสินค้าแล้วแล้วในช่วงสองไตรมาสที่ผ่านมา และเริ่มได้รับการตอบรับจากลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯ เน้นขายสินค้าอินเตอร์แบรนด์ อาทิ ซัมซุง โนเกีย เอชทีซี และแบล็คเบอร์รี่ ทั้งฟีเจอร์โฟนและสมาร์ทโฟน บริษัทฯ มองว่าโทรศัพท์มือถือยังมีโอกาสในการทำตลาดอยู่อีกมาก ความต้องการของผู้บริโภคยังเติบโตต่อเนื่อง บริษัทฯ เองยังมีแผนจะออกเฮาส์แบรนด์ของตัวเอง ทั้งที่เป็นฟีเจอร์โฟนและสมาร์ทโฟน ซึ่งมีแผนจะออกมาทำตลาดได้ในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า
“ในด้านการขยายสาขา ปัจจุบัน ซีเอสซีมีร้านค้าสาขา 31 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่ในไอทีมอลล์ในกรุงเทพมหานคร และมีสาขากระจายอยู่ทั่วทุกภาคในจังหวัดใหญ่ บริษัทฯ ได้กำหนดนโยบายว่า ภายในรัศมี 100 กิโลเมตรของลูกค้าจะ ต้องมีสาขาซีเอสซีอย่างน้อย 1 สาขา เตรียมเปิดอีก 100 สาขาในสิ้นปีนี้ ทั้งยังจะเปิดศูนย์บริการประจำภาค เพื่อให้บริการด้านการซ่อมแซมสินค้า กระจายสินค้า และเป็นสำนักงานบริหารงานในภาคต่างๆ ซึ่งในภาคเหนือจะอยู่ที่จังหวัดลำปาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ที่จังหวัดขอนแก่น ภาคตะวันออก อยู่ที่ศรีราชา ภาคตะวันตก อยู่ในขั้นตอนเลือกสถานที่ระหว่างจังหวัดกาญจนบุรีและราชบุรี ส่วนภาคใต้ อยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ดังนั้นซีเอสซีจะสามารถเข้าถึงลูกค้าในต่างจังหวัดได้มากยิ่งขึ้น”
“ซีเอสซีเชื่อว่าการเดินหน้ารุกตลาดในครั้งนี้ พร้อมกับการนำโทรศัพท์มือถือเข้ามาเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าจะช่วยให้ซีเอสซีก้าวขึ้นเป็นที่หนึ่งในตลาดได้ภายในอีกสามปี ทั้งในด้านยอดขายและจำนวนหน้าร้าน” นายพิชัย สรุป