Movie: คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์

อังคาร ๑๐ กรกฎาคม ๒๐๑๒ ๑๔:๔๓
กำหนดฉาย 9 สิงหาคม 2555

แนวภาพยนตร์ โรแมนติค-คอเมดี้

สร้าง-จัดจำหน่าย สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล

บริษัทดำเนินงานสร้าง บริษัท บาแรมยู จำกัด

บริษัท เลเซอร์แคท

อำนวยการสร้าง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ

เขียนบท-กำกับภาพยนตร์ วรเวช ดานุวงศ์

ควบคุมการสร้าง ปรัชญา ปิ่นแก้ว , สุกัญญา วงศ์สถาปัตย์ .วรเวช ดานุวงศ์

ร่วมควบคุมงานสร้าง ศิตา วอสเบียน

ฟิล์มแลบส์ สยามพัฒนาฟิล์ม

กำกับภาพ ไพบูลย์ ภู่ประดับ

ออกแบบงานสร้าง วุฒินันท์ ดุริยประณีต

กำกับศิลป์ วุฒินันท์ ดุริยประณีต

ลำดับภาพ สุภาพร เลิศฐิติวีรกานต์ ,สนั่น มูลวิรัตน์

ประสานงานสร้าง สุภาพร เลิศฐิติวีรกานต์

ออกแบบเครื่องแต่งกาย วรธน กฤษณะกลิน

แต่งหน้า เบ็ญจวรรณ สกุลพงศ์ชัย

ทำผม ภัทรภร ปวรวรชัย

ดนตรีประกอบ ออกแบบเสียง อภิสาร บริบาลบุรีภัณฑ์

บันทึกเสียง ห้องบันทึกเสียงรามอินทรา

ทีมนักแสดง วรเวช ดานุวงศ์ , อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา , กวี ตันจรารักษ์

นีรนาท วิคทอเรีย โคทส์ , ขวัญจิต ศรีประจันต์, นนทิยา จิวบางป่า ,

ธนศักดิ์ อุ่นอ่อน ,ณัฐวุฒิ ศรีหมอก , ณภัทร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา ,

ทศพล ศรีสุคนธรัตน์ , สันทิฏฐ์ คงนันทะ,ธราธร มาฆะศิรานนท์

มีอะไรในคืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์

บางทีอาจจะเป็นเพราะสนามแม่เหล็กของพรหมลิขิต ที่ดึงเรามาเจอกันผิดเวลา

บางทีอาจจะเป็นเพราะเราต้องรอถามตัวเองว่าเขาใช่หรือไม่

บางทีอาจจะเป็นเพราะเราต้องการหาคนที่จะมี “จังหวะ” ตรงกับหัวใจ

บางทีอาจจะเป็นมนต์เสน่ห์ใน...“คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์”

ชวด ( รับบทโดย แดน วรเวช ดานุวงศ์ ) หนุ่มครีเอทีฟ-โปรดิวเซอร์ประจำรายการ เรียลลิตี้ 24ชั่วโมง ตามติดชีวิตซุป’ตาร์ “หมาแพนดี้” รายการทีวีที่หวังว่าจะมาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ชนิดรายการหมีแพนด้าต้องชิดซ้าย ชวดตกหลุมรัก ต้นหลิว (รับบทโดยนุช นีรนาท วิคทอเรีย โคทส์) พิธีกรสาวสวยทรงเสน่ห์จากรายการ “ที่ซ่อนผี” ที่ดึงดูดให้หนุ่มๆทั้งประเทศต้องหยุดที่หน้าจอจนรายการเรตติ้งกระฉูด เขาหลงต้นหลิวอย่างหัวปักหัวปำ จนตัดสินใจแล้วว่าชีวิตนี้ขอลองดีสักหน่อยเลยตั้งใจจะจีบต้นหลิวอย่างจริงจัง แต่คนที่แค่เห็นหน้าสาวก็ขาสั่นอย่างชวดครั้งนี้ดูจะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าเขาไม่ได้รับการช่วยเหลือจาก เพ็ญ (รับบทโดย แพทตี้ อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา) สาวพีอาร์สวยใสหัวใจโชเชียล

เพื่อนสนิทซี้ย่ำปึ๊กของต้นหลิว ที่ชวดบังเอิญเจอและตัดสินใจว่านี่แหละคนที่จะมาช่วยเขาตัดถนนสร้างทางด่วนตรงสู่หัวใจ

ต้นหลิว เพ็ญยอมช่วยเหลือชวดด้วยความจำยอมเพราะโดนตื้อไม่หยุด ทางด้านเพ็ญเองก็มีแฟนแล้วคือ ปกป้อง (รับบทโดย บีม กวี ตันจรารักษ์ ) คุณหมอหนุ่มสุดเพอร์เฟ็คทั้งหล่อทั้งรวย ที่ดูแลเพ็ญเป็นอย่างดีสมชื่อปกป้อง จนเหมือน “พ่อ” ซะมากกว่าแฟน คอยคุมทุกอย่างในชีวิตเพ็ญให้เป๊ะๆ จนบางครั้งเพ็ญก็ไม่เป็นตัวของตัวเอง แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลกทำให้พวกเขามาพัวพันกัน ที่นำไปสู่การค้นพบคำตอบของ “ความรัก” ผ่านบทพิสูจน์ของหัวใจที่จะเกิดขึ้น ภายใน 3 วัน 2คืน ช่วงเวลาต้องมนต์สั้นๆ ที่เรียกว่า “คืนวันเสาร์...ถึงเช้าวันจันทร์”

“ก่อนจะเป็นคืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์”

ความฝันครั้งใหม่ของแดน วรเวช ดานุวงศ์

หากเอ่ยถึงชื่อ “แดน วรเวช ดานุวงศ์” แล้วล่ะก็คนส่วนใหญ่คงจะตอบว่าเขาคือ นักร้อง- นักแสดง ที่ประสบความสำเร็จ แต่แดนยังไม่หยุดตัวเองไว้แค่นั้น เขายังทำตามความฝันที่ไม่มีที่สิ้นสุดของเขาต่อไปด้วยการพาตัวเองไปทดลองทำสิ่งใหม่ๆตลอดเวลา จนได้โชว์ความสามารถในหลายๆด้านให้คนได้ยอมรับว่าเขาคนนี้มี “ของ”เยอะ และการเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ครั้งนี้ก็เป็นความฝันล่าสุดที่เขาตั้งใจจะทำมันให้เป็นจริง

“ความฝันครั้งนี้ ใช้เวลาบ่มเพาะอยู่นานเลยครับ กว่าผมจะสามารถมายืนในจุดนี้ได้ ความคิดในการอยากมาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ของผม เริ่มต้นเมื่อ 3-4 ปีก่อน มันก็เกิดจากการที่เราดูหนังเรื่องโน้นเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่าทำไมมันไม่ได้ดั่งใจเราเลยนะ เราก็มาคิดว่าอย่างนั้นก็ทำเองซะเลยสิ แต่จะให้เริ่มทำเลยผมก็ยังไม่มีประสบการณ์มากพอ จึงต้องไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์กันก่อนจากการกำกับมิวสิควีดีโอ ,กำกับหนังสั้น จนผมรู้สึกว่าพร้อมแล้วจึงเริ่มที่จะลงมือทำ ผมอยากทำหนังที่พูดถึงรูปแบบความสัมพันธ์ของคนสมัยใหม่ที่อาจจะตั้งคำถามทิ้งไว้ในใจให้ใครหลายคน เป็นความสัมพันธ์ที่หลายคนอาจจะเคยเจอ เรื่องของการตกหลุมรักใครสักคน ความรักที่ต้องเลือกระหว่างคนที่เรารู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ใช่สำหรับเรา กับคนที่เราสบายใจเมื่อยามอยู่ใกล้ๆ หรือการที่เราอยากจะปฏิเสธใครบางคนแต่ก็ยากที่จะห้ามใจเพราะว่าสิ่งที่เขาทำให้เรามันทำให้เรายิ้มได้ บอกเล่าเรื่องผ่านช่วงเวลาปาฏิหาริย์ ที่จะสะกิดให้เราได้คิดว่าเราจะตกหลุมรักใครสักคนได้ไหมในในช่วงเวลาแค่ข้ามคืน ภาพยนตร์เรื่องนี้แหละครับที่ผมตั้งใจทำออกมาโดยหวังว่าทุกคนที่เดินออกจากโรงภาพยนตร์จะมีรอยยิ้มบนใบหน้ามีความสุขไปกับมันและสามารถเติมพลังชีวิตให้กับคุณได้บ้างไม่มากก็น้อย”

การออกตามหาคนที่จะมา “เชื่อใจ”

จุดเริ่มต้นของการเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ แน่นอนว่าเส้นทางก็ย่อมแตกต่างกันไป แต่สำหรับ แดน วรเวช นักร้องนักแสดงชื่อดังขวัญใจวัยรุ่นคนนี้ หลายคนอาจจะมองว่าต้องได้มาง่ายๆเพราะมีมีชื่อเสียงอยู่เป็นทุนเดิมแต่ความจริงแล้วกว่าเขาจะมาถึงจุดนี้มันไม่ง่ายเลย

“จริงๆแล้วผมก็ไม่ได้เป็นคนโชคดีเลยนะครับออกจะดวงกุดมากกว่า แต่ทุกครั้งที่เริ่มต้นฝันที่จะทำอะไรบางอย่าง ผมไม่เคยนั่งนิ่งในเมื่อโอกาสไม่มาหาผม ผมก็เลยวิ่งเข้าหาโอกาสซะเอง การเป็น “แดน” บางคนอาจจะบอกว่ามันง่าย ที่จะทำอะไรก็ทำได้ จริงๆมันไม่ใช่เลย มันเป็นดาบสองคมมาก การเป็นแดนมันทำให้ทุกคนคิดว่า เราคงทำได้แค่ร้องเพลงไป เราต้องพิสูจน์หนักกว่าคนอื่นหลายๆเท่า เช่นถ้าเป็นคนอื่นไปเสนองาน เขาอาจจะคิดว่าโอเคล่ะ แต่อย่างเราเนี่ยเขาจะเหมือนว่ามีกำแพงอะไรบางอย่างอยู่ก่อนว่า เอ้ย ! มันจะทำได้จริงเหรอ ผมก็เลยต้องสู้กับมันหนักหน่อย ให้เขารู้ครับว่าทำได้จริงๆครับ”

หลังจากที่แดนทำงานเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่างๆพร้อมลุยแล้วก็ถึงเวลาที่เขาจะเริ่มต้นความฝันครั้งใหม่ของเขา โดยเขาเลือกที่จะนำบทร่างแรกไปเสนอคนที่เขาคิดว่าจะเป็นคนที่เชื่อใจว่าเขา “ทำได้” ซึ่งความคิดของเขานั้นก็ไปโดนใจ ปรัชญา ปิ่นแก้ว โปรดิวเซอร์-ผู้กำกับร้อยล้าน จนยอมทุ่มสุดตัวเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ และยังยกนิ้ว

การันตีถึงความสามารถในอีกมุมที่หลายคนอาจจะยังไม่ได้สัมผัสและพร้อมผลักดันผู้กำกับหน้าใหม่คนนี้ไว้ว่า

“ผมรู้จักแดนมานานแล้วครับ ผมเห็นเขาเป็นคนที่เป็นคนทำงานเอง คิดเอง เป็นคนมีไอเดียเยอะ พอได้คุยกัน

ก็ได้รู้ว่าเขามีมากกว่าที่เราคิดอีก โดยเฉพาะเรื่องภาพยนตร์ เขาเป็นคนที่ดูหนังเยอะ เข้าใจหนัง แล้วก็มองหนังวิเคราะห์หนังออกแล้วแดนเขามีไอเดียที่อยากจะทำหนัง ผมก็ยินดีที่จะช่วยเหลือ เขาให้ไอเดียหนังรักที่เขาอยากจะทำขึ้นมาผมก็ชอบตั้งแต่ชื่อเรื่องแล้ว พอเขาเขียนบทมา ผมอ่านบทแล้วก็ตกใจว่าทำไมเขาเขียนได้ขนาดนี้ แดนเขียนคนเดียวด้วย ตรงนี้ผมยอมรับว่าเซอร์ไพรส์มากครับกับการเขียนบทของเขา ผมจึงติดต่อกับทางสหมงคลฟิล์ม นัดให้แดนเขาเข้ามาคุยบทกับ เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ ซึ่งพอเสี่ยได้คุยก็ถูกใจชื่อมากย้ำเลยว่าห้ามเปลี่ยนและให้ไฟเขียวทำหนังเลย ซึ่งผมเชื่อว่าถ้าเขามาทำหนังเขาจะสร้างอะไรใหม่ๆให้กับวงการแน่นอนแต่อย่างไรก็ตามยังไงก็ต้องมาดูหนังพิสูจน์กันให้เห็นครับว่าฝีมือของเขานั้นเป็นอย่างไร”

กว่าจะเจอสิ่งที่ใช่ บางทีก็ต้องใช้เวลา

สิ่งที่สำคัญที่จะทำให้ภาพยนตร์ โรแมนติค คอเมดี้ เรื่องหนึ่งนั้นมีความแปลกใหม่ มีความน่าติดตามนั้นก็คือเรื่องบท เรื่องราวของความรักนั้นเป็นเรื่องที่คนเข้าถึงง่ายแต่จะทำให้ประทับใจนั้นยากบทของเรื่องนี้ก็เช่นกันกว่าจะมาเป็นรูปร่างที่สมบูรณ์ได้ แดน ต้องใช้เวลาในการขัดเกลาซ้ำแล้วซ้ำเล่านับสิบครั้งกว่าจะลงตัวได้ก็ใช้เวลากว่า 2 ปีเลยทีเดียว

“จุดเริ่มต้นหนังเรื่องนี้มันเกิดจาก ผมสนใจกับคำว่า “คืนวันเสาร์ ถึงเช้าวันจันทร์”ครับ ผมชอบชื่อเรื่องครับ ซึ่งผมได้มาจาก พี่เอโกะ (สุภาพร เลิศฐิติวีรกานต์ —ไลน์โปรดิวเซอร์ ผู้ประสานงานสร้าง ของภาพยนตร์เรื่องนี้)

เป็นคนบอกชื่อนี้มา เขามีแค่ชื่อเรื่องให้ผม แต่ผมติดใจเลยว่าชื่อเรื่องนี้น่าทำหนังนะ มันน่าจะดูมีอะไรในคำนั้น ผมนึกถึงช่วงเวลาอะไรบางอย่างที่เป็น ”ช่วงเวลาปาฏิหาริย์” ช่วงเวลาของความพิเศษครับ เพราะฉะนั้นในหนังผมก็จะสร้างหนังให้มันเป็นอะไรที่มันเหมือนการทัวร์ที่น่าจดจำ จนไปเล่าต่อให้คนอื่นฟังได้ไม่มีเบื่อ จากประเด็นนี้ก็คิดได้ไอเดียอีกหลายข้อ ข้อแรกว่าสังคมยุคนี้ว่าความรักที่จริงจังมันได้หายไปมาก สมัยนี้คนเรามีกิ๊กกันเยอะ ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นไป

เพราะเรายังไม่เจอคนที่ใช่พอรึเปล่า หรือเราแพ้ความใกล้ชิดเวลาอยู่กับอีกคน สอง ผมอยากพูดถึงกรอบ ตัวตนของคนเราน่ะครับ เราจะเสนอข้อเท็จจริงของคนเรา เวลาที่เราอยู่กับคนที่เรารู้สึกชอบ ถ้าเราชอบเขาเมื่อไหร่เราจะไม่มีทางเอาตัวตนของเราเผยออกมา เรามักจะไปเปิดเผยกับคนที่เราไม่ได้สนใจเขามากกว่า และสามประเด็นที่ว่าคนเราจะตกหลุมรักได้ไหมในช่วงเวลาเพียงข้ามคืน”

ใครเป็นใครใน “คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์”

ชวด

ครีเอทีฟรายการทีวี มีความคิดสร้างสรรค์อย่างแปลกๆไม่เหมือนใคร คิดเร็วทำเร็วจนบางครั้งดูเป็นคนประหลาด แต่จริงๆเป็นหนุ่มจิตใจดี มีสไตล์การใช้ชีวิตในแบบตนเอง แต่ค่อนข้างขี้อายไม่กล้าจีบต้นหลิวผู้หญิงที่ตัวเองแอบชอบ เพราะทุกครั้งที่เขาเผยความเป็นตัวเองออกไปผู้หญิงคนไหนต้องหนี ชวดจึงขอคำแนะนำจากเพ็ญเพื่อนสนิทของต้นหลิว จนเป็นที่มาของเรื่องราวยุ่งเหยิงอีรุงตุงฮา

รับบทโดย แดน วรเวช ดานุวงศ์

ความฝันแรกของแดนเริ่มต้นที่การอยากเป็น “นักฟุตบอลมืออาชีพ”แต่แล้วเส้นทางชีวิตก็เปลี่ยนผันมาสู่การร้องเพลง นอกจากเบื้องหน้าแล้วก็ยังทำงานเบื้องหลังในฐานะโปรดิวเซอร์,นักเขียน, นักแต่งเพลง,ไปจนถึงครีเอทีฟ,

มิวสิคไดเร็คเตอร์และโชว์ไดเร็คเตอร์ในงานคอนเสิร์ต , เขียนบทและเป็นถึงผู้จัดละครโทรทัศน์,ผู้กำกับมิวสิควิดีโอ และผู้กำกับภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์อย่าง“บันทึกกรรม”แดนเริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงจากการประกวดร้องเพลงในโครงการ พานาโซนิค สตาร์ ชาเลนจ์" ในปี พ.ศ. 2543 ได้ตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 2 ในการแข่งขันระดับประเทศ (ที่ 3 ของประเทศ) ได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินในสังกัด อาร์เอส โปรโมชั่น มาเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกวง D2B (ดีทูบี) ออกอัลบัมแรกปีพ.ศ.2544และประสบความสำเร็จอย่างมาก

แดน เคยมีผลงานทางด้านภาพยนตร์ ทั้งหมด 7 เรื่องได้แก่ "สังหรณ์" (2546), "แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า” "ห้าแพร่ง" (ตอน "ห้องเตียงรวม") ,"32 ธันวา" (2552), "ส.ค.ส. สวีทตี้ " (2554) ,"The Melody รักทำนองนี้ (2555) ,

"วาเลนไทน์ สวีทตี้ " (2555) และยังเคยทำงานพากย์ภาพยนตร์ต่างประเทศเรื่อง Green Lantern พากย์เป็น ฮัล จอร์แดน ในเสียงไทย ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมานานนับ 10 ปีในเส้นทางบันเทิงทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังทำให้เขามั่นใจแล้วว่าถึงเวลาสร้างหนังของตัวอีกสักที

เพ็ญ

สาวสวยน่ารักสดใส มั่นใจ ชีวิตเธอคือโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กที่ต้องอัพโหลดตลอดเวลา ชอบช็อปเสื้อผ้าแบรนด์เนมเป็นชีวิตจิตใจแต่ก็เฉพาะตอนมันเซลล์เท่านั้น ชีวิตของเพ็ญเหมือนจะเพอร์เฟ็ค ด้านการงานเธอก็เป็นพีอาร์-มาร์เก็ตติ้งที่ประสบความสำเร็จด้วยความคิดที่ทันสมัย ด้านความรักก็มีปกป้อง คุณหมอหนุ่มรูปหล่อคอยดูแล แต่เสียอย่างเดียวอยู่กับเขาเธอไม่เคยเป็นตัวของตัวเองเลยนี่สิ

รับบทโดย แพทตี้ อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา

สาวน้อยหน้าใสขวัญใจหนุ่มๆ แจ้งเกิดจากบทสมทบใน ภาพยนตร์ ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น ด้วยความน่ารักสดใส ร่าเริง เป็นธรรมชาติทำให้เธอกลายเป็นดาราดาวรุ่งในทันที จากการทำงานในแวดวงภาพยนตร์ทำให้แพทตี้มีความสนใจในเรื่องการสร้างหนังจนเข้าศึกษาต่อและเรียนจบจากสถาบันเอสเออี(ประเทศไทย) สาขาทำภาพยนตร์ดิจิทัล มาโดยเฉพาะ นอกจากนี้แพทตี้ยังได้ทำงานหลากหลายในแวดวงบันเทิง ทั้งแสดงมิวสิควีดีโอ ,ละครโทรทัศน์ ,พิธีกรรับเชิญ และยังเคยได้โชว์เสียงร้องน่ารักๆ ในเพลง ที่รัก ของ ปราโมทย์ ปาทาน อีกด้วย ในเรื่องนี้แพทตี้จะได้โชว์ความสามารถทางการแสดงมากขึ้นเพราะได้เป็นนางเอกหนังเต็มตัวครั้งแรกในชีวิต

ปกป้อง

คุณหมอรักษาโรคผิวหนัง แฟนหนุ่มหล่อของเพ็ญ ชายหนุ่มผู้เป็นทุกอย่างของเพ็ญ เป็นทั้งแฟน ทั้งเพื่อน ทั้งพี่ และ “พ่อ” เขาครอบงำทุกอย่างในชีวิตของเพ็ญด้วยความรักและหวังดี โดยที่เขาก็ไม่รู้ตัวเลยว่าที่ทำไปนั้นเป็นการบังคับแบบไม่ตั้งใจ แต่ปกป้องก็มีแง่มุมที่น่ารักและอบอุ่นที่เพ็ญชอบจนคบกันมานาน

รับบทโดย บีม กวี ตันจรารักษ์

นอกจากความสามารถในการร้องเพลงแล้ว บีมยังมีความสามารถในด้านการแสดง ผลงานด้านละครและภาพยนตร์ของเขาได้ผลตอบรับที่ดีไม่แพ้กัน ก่อนหน้านี้บีม แสดงหนังกับแดนมาแล้วหลายเรื่อง ตั้งแต่ "สังหรณ์", "แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า ,และล่าสุดกับ "ส.ค.ส. สวีทตี้ " และ "วาเลนไทน์ สวีทตี้ " นอกจากงานในแวดวงบันเทิงบีมยังมีความสามารถในอีกหลายด้าน เช่น ด้านงานเขียนเป็น คอลัมนิสต์ด้านการท่องเที่ยวของนิตยสารสุขภาพดี ในปี พ.ศ. 2552 บีมได้รับเลือกจากสมาคมไทยแนะแนวการศึกษานานาชาติให้เป็นคนแรกที่ได้รับรางวัลโล่พระราชทาน TIECA Bright Idol 2009 จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะที่เป็นศิลปินที่เป็นตัวอย่างที่ดีแก่เยาวชนในด้านการศึกษา ดังนั้นบทคุณหมอคนเก่งนี้จึงเป็นบทที่เหมาะสมกับเขาอย่างที่สุด

ต้นหลิว

พิธีกรสาวสวยสุดเซ็กซี่ หุ่นดี ฮอตที่สุดประจำ “ที่ซ่อนผี” รายการแนวทดสอบความกล้าออกล่าผีที่ดังเรทติ้งกระฉูด เพราะด้วยเสน่ห์ของพิธีกรที่สาวไหนยากจะทาบรัศมี เธอนิยมแฟชั่นแบรนด์เนม ต้องสวยอินเทรนด์ตลอดเวลา ด้วยภาพลักษณ์สวยสง่าทำให้ต้นหลิวดู “เข้าไม่ถึง” แต่ความจริงแล้วเธอเป็นคนที่เป็นมิตรและยินดีที่จะรู้จักกับคนใหม่ๆเสมอ

รับบทโดย นุช นีรนาท วิคทอเรีย โคทส์

นางแบบสาวสวยลูกครึ่งอังกฤษ ในวงการนางแบบนั้นสาวนุชเรียกได้ว่าสุดฮอตติดอันดับนางแบบงานชุกอันดับต้นๆ มีทั้งงานด้านเดินแบบและพรีเซนเตอร์โฆษณาหลายชิ้น นุชได้เข้าสู่แวดวงภาพยนตร์จากเรื่อง Roommate เพื่อนร่วมห้องต้องแอบรัก และยังได้โชว์เสียงเพราะๆ ในเพลง จำทำไม เพลงประกอบภาพยนตร์สุดฮิตไว้อีกด้วย

คุณยาย

คุณยายของชวด เป็นคนใจดี น่ารัก ขี้เล่น ใครอยู่ด้วยแล้วจะรู้สึกถึงความอบอุ่นของคุณยาย อาศัยอยู่คนเดียวที่บ้านต่างจังหวัด คิดถึงชวดที่เป็นหลานชายคนเดียวที่มาทำงานกรุงเทพมาก แม้ว่าจะมีการติดต่อกันตลอดเวลา แต่ก็อยากให้หลานชายกลับมาเยี่ยมบ้านบ้างสักครั้ง และหวังให้ชวดมีแฟนกับเขาเป็นตัวเป็นตนซะที

รับบทโดย ขวัญจิต ศรีประจันต์

ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงพื้นบ้าน-อีแซว) แม่ขวัญจิตเป็นศิลปินพื้นบ้านที่ได้รับการยกย่องว่าว่ามีความสามารถในการร้องและเล่นเพลงแบบหาตัวจับได้ยาก และเมื่อหันเข้าสู่วงการเพลงลูกทุ่ง ก็ได้รับความนิยมอย่างสูง มีผลงานเพลงดังมากมาย นอกจากนี้แม่ขวัญจิตยังมีผลงานบันเทิงหลากหลายรวมทั้งผลงานทางภาพยนตร์อีกด้วย

เกร็ดภาพยนตร์ เรื่องเล่าเมาท์หลังกอง

- บีม กวี ตันจรารักษ์ ในเรื่องนี้เจอบทหนักไม่ใช่เล่น เพราะมีฉากดราม่าฉากหนึ่ง เป็นคิวถ่ายกลางคืนที่บีมต้องถ่ายฉากขับรถซ้ำถ่ายทำกันอยู่จนเกือบเช้า กว่า 10 เทค และยังเป็นการถ่ายทำแบบ Long take ผิดปุ๊บเริ่มใหม่ปั๊บ แต่นักแสดง

ทุกคนและทีมงานก็เต็มที่จนผ่านมาได้ เท่านั้นยังไม่พอหมดฉากดราม่า ผู้กำกับขอต่อด้วยฉากตลกทันที! จนบีมขอยกฉายา “ผู้กำกับจอมโหดหน้าใหม่แห่งวงการ” ให้แดนไปเลย

- สาวสวย แพทตี้ อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา ในเรื่องนี้ยังเป็นการเปลี่ยนลุคที่ผู้ชมจะไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเพราะเธอจะโชว์ความสามารถทุ่มสุดตัวทั้งคอเมดี้ , ดราม่า จนไปถึงเป็นดารานักบู๊ ! ต้องเล่นจริงไม่ใช้สลิงไม่ใช้นักแสดงแทน เรียกว่าโดนผู้กำกับใส่ความสนุกลงไปในบทไม่ยั้งแถม ไม่ยอมปล่อยให้ผ่านแต่ละฉากไปง่ายๆ มีทั้งฉากต้องคลุกดินคลุกทรายสารพัด, เมาเหล้าจนอ้วก หรือแม้กระทั่งฉากหัวเราะ ก็ต้องหัวเราะให้ถูกใจ ถูกสั่งเทคใหม่จนกว่าผู้กำกับจะขำ!

- กำกับเด็ก กำกับหมา! แม้ว่าใครจะบอกว่าการกำกับเด็กและสัตว์นั้นเป็นเรื่องยาก แต่แดนก็ทำมาแล้วทั้งสองอย่างในเรื่องนี้ โดยเจ้าหมาแพนดี้ ผู้มีบทบาทสำคัญกับงานของตัวละครชวดในเรื่องนี้แดนเป็นคนไปคัดเลือกมาด้วยตัวเอง มีการออดิชั่นโชว์ความสามารถเช่นเดียวกับนักแสดงคน! จนได้เจ้าโชกุนหมาน้อยหน้าตายียวนกวนประสาทแต่น่ารัก ผู้มีผลงานโฆษณามาแล้วหลายชิ้น มารับบท ส่วนการกำกับเด็กนั้นก็ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะต้องสั่งให้น้องนักแสดงร้องไห้ ซึ่งกำกับได้ดีมากสั่งปุ๊บร้องปั๊บ แต่ตอนหยุด แดนต้องเข้าไปปลอบด้วยตัวเองถึงจะหยุดร้อง

- อุปสรรคอย่างหนึ่งเวลาออกกองถ่ายของแดน วรเวช ก็คือมักจะมีสัตว์ที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามาป่วนกอง เสมอ เช่น จักจั่นที่ร้องเสียงดังมากในฉากเกาะกูด ,มีงู อยู่ในบ้านร้างที่ใช้ถ่ายทำจนต้องให้ทีมงานไล่ไป, มีลิง มาแอบขโมยของกองกิน , วัวและสุนัขมา บุกเข้ากองถ่ายที่ปราณบุรี

- เสื้อผ้าที่แพทตี้ต้องใช้โยนในฉากช้อปปิ้ง นั้นรวมๆแล้วมีมูลค่ากว่า 2 หมื่นบาท ซึ่งก็ทำเอาทีมอาร์ตถึงกับเหงื่อตกเพราะถ้าทำสกปรกไปคงต้องจ่ายเงินชดใช้กัน

- ฉากตู้กดน้ำ แดนและแพทตี้ ต้องดื่มน้ำกระป๋องไปกว่า 20 กระป๋อง ! เพราะทุกครั้งเปิดกระป๋องต้องคอยลุ้นว่าน้ำจะพุ่งออกมาใส่หรือไม่ ทำให้ต้องถ่ายซ้ำหลายรอบกว่าจะได้ภาพที่สมบูรณ์

- ในภาพยนตร์จะมีตัวเลข ที่เกี่ยวข้องวันเกิด, ปีเกิดของแดน เช่น 84 16 27 มีทั้งเลขไทยและฝรั่ง อยู่ตามพื้นที่ต่างในฉาก และมีลูกเล่นความเป็นตัวแดนแอบใส่ไว้ในภาพยนตร์ให้แฟนๆลองค้นหากันสนุกๆ อีกด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ