นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม และ ๖ มีนาคม ๒๕๕๕ เห็นชอบในหลักการเกี่ยวกับกรอบอัตราเงินช่วยเหลือเยียวยา จำนวน ๒,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท และกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้ความช่วยเหลือ โดยมอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ รับลงทะเบียนและเป็นหน่วยเบิกจ่ายมอบเงินเยียวยาแก่ผู้เสียหายจากความรุนแรงทางการเมืองตามหลักมนุษยธรรม ซึ่งกระทรวงฯได้เปิดรับลงทะเบียนผู้ขอรับเงินเยียวยา ตั้งแต่วันที่ ๘ มีนาคม ถึง ๑๒ เมษายน ๒๕๕๕ มีผู้ลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาทั้งสิ้น ๕,๘๘๕ ราย ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม่ได้อยู่ในกลุ่มผู้เสียหายตามหลักเกณฑ์ จำนวน ๑,๐๐๓ ราย จึงได้ส่งให้คณะอนุกรรมการด้านการเยียวยาทางแพ่งและการฟื้นฟูด้วยวิธีการอื่นดำเนินการพิจารณาต่อไป ลงทะเบียนซ้ำซ้อน จำนวน ๙๔๕ ราย และอยู่ระหว่างตรวจสอบสิทธิและหลักฐาน จำนวน ๒,๓๖๖ราย ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิขอรับเงินเยียวยาไปแล้ว จำนวน ๑,๕๗๑ ราย โดยกระทรวงฯ ได้จัดพิธีมอบเงินเยียวยาแก่ผู้เสียหายจากความรุนแรงทางการเมืองตามหลักมนุษยธรรม ไปแล้ว ๒ ครั้ง รวมทั้งสิ้นจำนวน ๗๗๑ ราย
นายสันติ กล่าวต่อว่า วันนี้กระทรวงฯได้ทำการมอบเงินเยียวยาแก่ผู้เสียหายจากความรุนแรงทางการเมืองตามหลักมนุษยธรรม เป็นครั้งที่ ๓ โดยมีผู้ผ่านสิทธิรับเงินเยียวยาครั้งที่ ๓ จำนวน ๕๒๓ ราย แยกเป็น ๗ ประเภท ได้แก่ ผู้เสียชีวิต จำนวน ๒๐ ราย , ทุพพลภาพ ๕ ราย , ผู้สูญเสียอวัยวะสำคัญ จำนวน ๒ ราย , ผู้สูญเสียอวัยวะไม่สำคัญ จำนวน ๒ ราย , ผู้บาดเจ็บสาหัส จำนวน ๑๑ ราย , ผู้บาดเจ็บ จำนวน ๑๓๗ ราย และผู้บาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน ๓๕๖ ราย รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น๓๕๖,๘๘๔,๗๑๒ บาท ทั้งนี้ สำหรับผู้ลงทะเบียนที่ไม่มีรายชื่อในประกาศครั้งนี้เนื่องจาก (๑) อยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ ๓ ประเด็นในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง ได้แก่ การเคยได้รับเงินช่วยเหลือหรือชดเชยอื่นๆจากภาครัฐ / ไม่เป็นบุคคลที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาหรือดำเนินคดีโดยหน่วยงานของรัฐ / ได้ยื่นฟ้องทางแพ่งต่อหน่วยงานภาครัฐ (๒) อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะทำงานช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรม (๓) อยู่ในขั้นตอนนำเรื่องเสนอคณะอนุกรรมการด้านการเยียวยาทางแพ่งและการฟื้นฟูด้วยวิธีการอื่นพิจารณา และ (๔) เอกสารประกอบไม่ครบถ้วน ซึ่งทางกระทรวงฯได้ดำเนินการขอเอกสารเพิ่มเติมแล้ว
ทั้งนี้ “สำหรับท่านที่ไม่สามารถมารับเงินได้ด้วยตนเองให้ติดต่อขอรับเงินเยียวยาฯ ภายใน ๑๕ วันทำการ ในวันและเวลาราชการ ๐๘.๓๐ — ๑๖.๓๐ น. ที่ส่วนการคลังอาคาร ๕ ชั้น ๒ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (สะพานขาว) หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ประชาบดี โทร ๑๓๐๐ ทั่วประเทศ” นายสันติ กล่าว.