“ในการที่จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้ากลุ่มนี้ทางโครงการจำเป็นต้องวางแผนโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่างๆอย่างดีที่สุด เหมือนเช่นโครงการขนาดใหญ่ 70 ไร่ที่หาดในทอนหรือ Xana Beach Club สุดชิคเป็นต้น อย่างโครงการหลังนี้ก็เปิดมาหลายเดือนแล้วซึ่งเป็นกิจการของอังสนารีสอร์ตที่ประกอบด้วยที่พักอาศัย บริการด้านอาหารและสระว่ายน้ำติดหน้าหาดพร้อมให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนในบรรยากาศสบายๆในบรรยากาศสากล
คุณณัฎฐา กล่าวเพิ่มเติมว่า “นักลงทุนในภูเก็ตที่ระงับโครงการต่างๆไว้ตั้งแต่ปี 2551 ขณะนี้เริ่มหยิบเอาโครงการนั้นขึ้นมาทำใหม่แล้วเพื่อเติมเต็มดีมานด์ของลูกค้าทั้งกลุ่มเดิมและกลุ่มใหม่ ตลาดกลับมาดูคึกคักขึ้นอีกครั้ง และนอกจากจะมีผู้ซื้อจากตะวันออกกลางแล้วก็ยังมีนักลงทุนจากแอฟริกาใต้ที่หลั่งไหลกันมายังภูเก็ตเพื่อลงทุนในโครงการที่พักอาศัยด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีโครงการโรงแรมหลายแห่งที่มีการเปลี่ยนมือกันเกิดขึ้น ยกตัวอย่างเช่นนักลงทุนจากสิงคโปร์ในรูปบริษัทย่อยของ L.C. Development จากสิงคโปร์ก็เพิ่งจะซื้อกิจการ เอวาซอนภูเก็ต และ Bon Island Resort เดิมไปเมื่อไม่นานมานี้ หรือจะเป็น เมอเวนพิครีสอร์ตกะรนบีช ที่ทาง Kingdom Hotel Investments ขายให้กับ ทีเอ โกลบอล บีเอชดี จากมาเลเซียไปในราคา 90.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐก็ด้วยเช่นกัน”
“ในช่วงเดือนพฤศจิกายนของปีนี้เครือโรงแรม ACCOR Group สัญชาติฝรั่งเศสจะเปิดโรงแรมแห่งใหม่ที่หาดในทอนโดยใช้ชื่อว่า ACCOR's Pullman เป็นโรงแรมขนาด 277 ห้องพักและมีห้องบอลรูมขนาดใหญ่สำหรับแขก 250 ท่านจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับตลาด MICE และจะมีโรงแรมแห่งใหม่อีกแห่งหนึ่งก็คือ นิกกี้บีชโฮเต็ลแอนด์สปา ซึ่งจะเป็นที่หาดลายันใกล้กับย่านลากูน่าที่คึกคักด้วย” คุณณัฎฐาเสริมในตอนท้าย