ดร.สิริชัยชาญ ฟักจำรูญ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กล่าวว่า หลังจากการประชุมครั้งที่แล้ว สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ได้ส่งแบบการก่อสร้างไปยังสำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร เพื่อดำเนินการปรับแบบให้มีความเหมาะสมแล้วส่งต่อให้คณะกรรมการเกาะรัตนโกสินทร์ไปพิจารณานั้น คณะกรรมการฯ ได้ขอให้ส่งเอกสารเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจาณาซึ่งจากการประชุมในครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้กำชับให้ทางสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ประสานความร่วมมือกับกรมศิลปากร ในการปรับรูปแบบให้มีความชัดเจนก่อนเสนอต่อคณะกรรมการเกาะรัตนโกสินทร์อีกครั้ง โดยไม่ให้คณะกรรมการฯมองว่าเป็นการสร้างโรงอาหาร แต่ให้มองว่าเป็นการซ่อมแซมมากกว่า เพราะท างสบศ.จะไม่มีการขุดเจาะหรือทำการใดๆในพื้นที่โบราณสถานอย่างแน่นอน อีกทั้งยังได้มีการปรับแบบหลังคาลง ๑๕ เซนติเมตรแล้ว เพื่อให้เห็นว่าไม่ได้มีการบดบังทัศนียภาพของวัดพระแก้วแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ทางสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์มีความจำเป็นจริงๆที่จะต้องซ่อมแซมโรงอาหารดังกล่าว เพราะขณะนี้ไม่มีพื้นที่เพียงพอที่จะให้นักศึกษาและครูอาจารย์ กว่า ๑,๓๐๐ คน ได้ทำกิจกรรมและรับประทานอาหาร ทั้งนี้ ในส่วนของการย้ายสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ไปอยู่ อ.ศาลายา จ.นครปฐม ทั้งคณะศิลปนาฏดุริยางค์ และคณะศิลปศึกษานั้น ทางสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์จะมีการเตรียมข้อมูลเพื่อตั้งของบประมาณในปี ๒๕๕๗ ในการสร้างอาคารเรียนเพื่อรองรับนักศึกษาทั้ง ๒ คณะ และมีแผนย้ายสำนักงานอธิการบดีไปอยู่ภายในปี ๒๕๕๖ เพราะตอนนี้ได้สร้างตึกรองรับเสร็จแล้ว
ด้าน ดร. โสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากร ได้งบบูรณะวัดบวรสถานสุทธาวาส หรือวัดพระแก้ววังหน้า รวมทั้งสิ้น ๓๐ ล้านบาท เพื่อนำมาบูรณะตัวอุโบสถ และงบต่อเนื่องในปี ๒๕๕๖ อีก ๒๐ ล้านบาท ในการปรับปรุงภาพจิตรกรรมฝาผนัง รวมทั้งภูมมิทัศน์โดยรอบ ขณะเดียวกัน เมื่อสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ได้ย้ายไปอยู่ อ.ศาลายา จ.นครปฐมแล้ว พื้นที่ในส่วนนี้ก็จะต้องมีการปรับเป็นภูมิทัศน์ทั้งหมดเพิ่มเติมอีกด้วย