นายกรรชิต สุขใจมิตร ผู้อำนวยการมูลนิธิกองทุนไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมกำลังเป็นปัญหาใหญ่ของโลก สิ่งที่มนุษย์เราทำได้ในขณะนี้คือการชะลอผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากสิ่งแวดล้อมเท่านั้น มูลนิธิกองทุนไทยจึงร่วมมือกับมูลนิธิสยามกัมมาจลและองค์กรภาคีด้านสิ่งแวดล้อม จัดโครงการ “ปลูกใจ รักษ์โลก” ครั้งที่ 1 ขึ้น เพราะปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ การเปลี่ยนพฤติกรรมเปลี่ยนจิตสำนึกของผู้ใหญ่ทำได้ยาก แต่ถ้าเราสร้างจิตสำนึกให้เด็ก ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นได้ในระยะยาว ที่สำคัญคือเรามองว่าสิ่งนี้น่าเป็น “ยุทธศาสตร์” สำคัญของสังคมในอนาคต หากให้เยาวชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว กล่าวคือ “เยาวชน” เป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืนในอนาคต และ “การทำกิจกรรมสิ่งแวดล้อม” ก็เป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการพัฒนาศักยภาพเยาวชนให้เติบโตเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ ตระหนักว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งในการรับผิดชอบชุมชน และสิ่งแวดล้อม มีทักษะและความสามารถ เป็นกำลังในการพัฒนาสังคมในอนาคต ซึ่งหลายโครงการหลายพื้นที่ เยาวชนเองก็มีส่วนร่วมเข้ามาดูแลสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว และที่สำคัญคือกิจกรรมนี้จะทำให้เยาวชนมี “แอ็กชั่น” ได้ทำกิจกรรมด้วยกัน มีการรวมกลุ่ม ได้เรียนรู้เรื่องใหม่ๆ รอบตัว ซึ่งในกระบวนการเหล่านี้ถือเป็นการหล่อหลอมให้เยาวชนสามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะความเป็นผู้นำต่อไปในอนาคต
โครงการ “ปลูกใจ รักษ์โลก” เปิดรับสมัครกลุ่มเยาวชนอายุระหว่าง 15 - 25 ปี ทั่วประเทศที่มีบทบาทในการทำกิจกรรม ฟื้นฟู ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ในชุมชนของตนเอง โดยมีที่ปรึกษาหรือมีพี่เลี้ยงที่เป็นครู อาจารย์ หรือเป็นผู้ใหญ่ในชุมชน คอยให้คำปรึกษาในการทำกิจกรรม ซึ่งจะคัดเลือกเพียง 20 โครงการเท่านั้น หากโครงการใดได้รับการคัดเลือก ก็ได้จะรับการอบรมพัฒนาศักยภาพ ภาวะผู้นำ การคิดวิเคราะห์ การใช้ ICT การบริหารจัดการโครงการและความรู้เรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อม และอื่นๆ หลังจากนั้นก็จะจัดสรรทุนสนับสนุนให้ไปดำเนินการกิจกรรม กลุ่มละไม่เกิน 30,000 บาท โดยมีระยะเวลาทำกิจกรรมประมาณ 8 - 10 เดือน เพื่อให้เยาวชนได้ลงมือทำกิจกรรมด้วยตัวเอง เป็นการฝึกให้เยาวชนเรียนรู้การทำงานร่วมกับชุมชน รู้จักการแก้ไขปัญหา ระหว่างการดำเนินโครงการ และเสริมสร้างศักยภาพเยาวชนผ่านการลงมือทำจริง และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ทำงานจากเพื่อนกลุ่มต่างๆ ที่ร่วมขบวนการพลเมืองเยาวชน รักษ์สิ่งแวดล้อม
นายกรรชิต กล่าวต่อ เราในฐานะผู้ใหญ่เห็นความสำคัญของกลุ่มเยาวชนที่มีไฟหัวใจอนุรักษ์อยู่แล้ว จึงอยากสนับสนุนโครงการดีๆ เช่นนี้ ให้เด็กได้มีพื้นที่ในการสร้างสรรค์กิจกรรม ให้พวกเขารู้ว่าคนกับสิ่งแวดล้อมต่างเกื้อกูลกัน และเยาวชนเป็นตัว “ขับเคลื่อน” สำคัญในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นรอบตัว ทั้งในบ้าน โรงเรียน และในชุมชนของตัวเอง ขณะเดียวกันกระบวนการทำงานของกลุ่มเยาวชนยังทำให้พวกเขาได้ได้เรียนรู้วิธีจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมรอบตัวอีกด้วย
“ปัจจุบันมีกลุ่มเยาวชนรวมตัวกันทำกิจกรรมในพื้นที่ค่อนข้างเยอะ แต่สำหรับโครงการ “ปลูกใจ รักษ์โลก” จะแตกต่างจากกิจกรรมอื่นคือ นอกจากโครงการจะสนับสนุนทุนในการดำเนินกิจกรรมแล้ว โครงการยังเชื่อมเครือข่ายการทำงานของกลุ่มเยาวชนให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อพวกเขาได้รับการพัฒนาศักยภาพและเข้าใจปัญหาสิ่งแวดล้อมชัดเจนขึ้น เข้าใจทักษะการทำงานเป็นทีม ภาวะความเป็นผู้นำ และการประสานงาน เพื่อเป็น “ฐานทุน” ให้พวกเขาเติบโตเป็น Active Citizen หรือพลเมืองที่มีคุณภาพของสังคมได้ในระยะยาว ยิ่งถ้าสามารถขยายโครงการออกไปได้มาก สังคมก็จะได้เยาวชนกลุ่มนี้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการทำงานต่อไปในวันข้างหน้าได้”
นางปิยาภรณ์ มัณฑะจิตร ผู้จัดการมูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เหตุที่ให้การสนับสนุนโครงการ เพราะมูลนิธิสยามกัมมาจลให้ความสำคัญกับการพัฒนาเยาวชน ซึ่งจะเติบโตเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ เชื่อว่าเยาวชนจะเรียนรู้ได้ดีจากการลงมือทำในสิ่งที่เยาวชนสนใจอยากจะทำกิจกรรมร่วมกับชุมชนของตนเอง สิ่งเหล่านี้ทำให้เยาวชนรู้จักตนเอง รู้จักชุมชน และใช้ศักยภาพของตนเองแก้ปัญหาชุมชนได้ อีกทั้งระหว่างการดำเนินโครงการยังมีครูฝึกปฏิบัติการจะช่วยกระตุ้นและพัฒนาศักยภาพของเด็ก ให้เด็กมีทักษะในการทำงานเป็นทีม มีความสามารถในการใช้สื่อเพื่อการสื่อสาร รู้จักคิดวิเคราะห์ตั้งคำถามจากสิ่งรอบตัว เกิดความใฝ่รู้ใฝ่เรียนตลอดชีวิต ซึ่งนำไปสู่การเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกและสังคมไทยในทุกๆ ด้าน อาทิ ด้านสังคมชุมชน วัฒนธรรม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม รวมถึงเป็นเครื่องมือให้เยาวชนได้เรียนรู้ตนเอง สังคม ชุมชน เกิดเป็นความเป็นพลเมืองและจิตอาสา จึงนับได้ว่า “ปลูกใจ รักษ์โลก” จะเป็นโอกาสสำคัญที่เยาวชนจะได้คิดและดำเนินโครงการด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อนำมาสู่การแก้ไขปัญหา และสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนของตนเองต่อไป
สำหรับกลุ่มเยาวชนที่สนใจสามารถส่งใบสมัครเพื่อขอรับทุนสนับสนุนการดำเนินการโครงการได้ โดยบอกเล่าถึงแรงบันดาลใจในการทำโครงการ พร้อมกับนำเสนอแนวคิดในการทำกิจกรรม ผ่านทางเอกสารตามแบบฟอร์มใบสมัครพร้อมรูปถ่ายและผลงานของกลุ่มเยาวชน ทั้งในรูปแบบงานเขียน หรือคลิปวิดีโอ (ความยาวไม่เกิน 10 นาที) แนะนำตัวและนำเสนอให้เห็นถึงความตั้งใจที่อยากจะทำโครงการเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ภายใน วันที่ 15 กันยายน 2555 ที่ E-mail : [email protected] หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่สุภษา ถิ่นจะนะ โทรศัพท์ 0 — 2314 — 4112 - 3 ต่อ 301, 302 , 085-325-5323 หรือที่ www.tff.or.th. และ www.scbfoundation.com