จากความสำเร็จนี้ ตอกย้ำแนวความคิดที่คุณยงยุทธเชื่อตลอดมาว่า การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ นอกจากความจำเป็นที่จะต้องสร้างให้ตลาดเชื่อมั่นในคุณภาพที่ดีที่สุดแล้ว ผู้พัฒนาโครงการยังต้องสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อด้วยว่าโครงการนั้นๆจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคตได้ ทั้งนี้ คุณยงยุทธย้ำเสมอว่า หลักการสำคัญในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ และหลักการในการเลือกซื้อลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆนั้นเป็นหลักการเดียวกัน โดยให้ระลึกไว้เสมอว่า “เพราะ Real Estate คือ Yield และ Yield คือ Real Estate” ดังนั้น โครงการที่ถูกพัฒนามาตอบโจทย์ต่างๆเหล่านี้ได้ ก็สามารถรับประกันได้ว่าเป็นโครงการที่จะสามารถทำรายได้จากการซื้อขายได้อย่างไม่ต้องสงสัย
คุณยงยุทธเผยว่า ผู้พัฒนาโครงการที่ไม่ลงไปแข่งในตลาดใหญ่ระดับ Mass Market จะต้องพัฒนาโครงการที่มีเอกลักษณ์ แตกต่าง มีฐานการตลาดของกลุ่มผู้ซื้อที่มีความต้องการชัดเจน เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของตลาดอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย ทิศทางการตลาดของโครงการที่พักอาศัยแนวราบ ในยุคปัจจุบัน ตลาดมีความต้องการโปรดักท์ที่มีเอกลักษณ์พิเศษที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของผู้บริโภคที่ชัดเจน โปรดักท์ที่ตอบสนองความต้องการของตลาด ในทิศทางนี้ จึงไม่จำเป็นจะต้องเป็นโครงการขนาดใหญ่และราคาไม่จำเป็นที่จะต้องสูงลิบลิ่ว หากแต่จะต้องมีรูปแบบ เรื่องราวในงานออกแบบที่โดดเด่น มีการออกแบบฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของครอบครัวสมัยใหม่ ที่นับวันจะมีขนาดที่เล็กลง มีความอิสระคล่องตัวเพิ่มมากขึ้น แนวทางของผู้ซื้อในยุคปัจจุบันจะมองหาโครงการที่แสดงออกถึงสถานะและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ซื้อได้ และในทางกลับกัน ขนาดของโครงการที่มีจำนวนบ้านน้อยหลังนั้น กลับจะได้ความสนใจมากกว่า เพราะทำให้ผู้ซื้อรู้สึกถึงความ Exclusive อีกทั้งยังสร้างให้เกิดเป็นสังคมชุมชนขนาดย่อม (community) ของกลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์และรสนิยมในแบบเดียวกัน แต่ทั้งหมดทั้งสิ้นที่กล่าวมานั้น คุณยงยุทธ เผยว่า ปัจจัยสำคัญที่สุด ยังคงเป็นเรื่องของสถานที่ตั้งของโครงการ ที่จะต้องตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกสบายในการเดินทาง การใช้ชีวิต ไม่ไกลเมือง และมีมูลค่าของที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปเพื่อผลตอบแทนของผู้ที่ตัดสินใจซื้อเพื่อลงทุนด้วย
จากแนวทางการตลาดของโครงการบ้านเดี่ยวที่กล่าวมาแล้วนั้น ทำให้คุณยงยุทธเดินหน้าพร้อมปล่อยโครงการของบริษัทอควาเรียสฯ ชิ้นต่อไปอันเป็นที่น่าจับตามองที่สุดโครงการหนึ่งแห่งปี โดยคว้าเอาตัว ดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิกชื่อดังของเมืองไทยที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติในเรื่องของงานดีไซน์เพื่อมาสร้างสรรค์โครงการบ้านเดี่ยว ชื่อโครงการคือ 15 Gate (ฟิฟทีนเกต)มูลค่าโครงการอยู่ที่ 300 ล้านบาท ในทำเลทองติดกับโครงการ Design Community ชื่อดังอย่าง Crystal Design Centre (CDC) ซึ่งเป็นทำเลที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในการสร้างที่พักอาศัยแนวราบมากที่สุดในขณะนี้ แนวทางในการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวแห่งใหม่ของอควาเรียส เอสเตทโครงการจะแล้วเสร็จในช่วง เดือนกรกฎาคม 2013 โครงการนี้ นอกจากความชัดเจนในเรื่องของงานดีไซน์จากการได้สถาปนิกชื่อดังอย่างดวงฤทธิ์ บุนนาคมาออกแบบแล้ว คุณยงยุทธ ยังคงเน้นไปที่คุณภาพของการก่อสร้างและการดูแลเอาใจใส่ทุกฟังก์ชั่นรายละเอียดของการใช้ชีวิตอันเป็นเอกลักษณ์ การพัฒนาโครงการที่สำคัญของบริษัทอควาเรียสด้วยฝีมือที่คว้ารางวัลระดับนานาชาติมาแล้วอีกด้วย
จากไอเดียการผสานเอางานดีไซน์แบบเนี้ยบไร้ที่ติของดีไซน์เนอร์ที่ผ่านงาน Design Hotels ระดับนานาชาติมาแล้วหลายแห่งอย่างดวงฤทธิ์ บุนนาค กับผลงานคุณภาพระดับรางวัลของบริษัทอควาเรียส เอสเตท ที่พิถีพิถันทุกรายละเอียดในที่อยู่อาศัย ซึ่งพิสูจน์ผลงานมาแล้วโดยเฉพาะกับผลงานบ่อน้ำร้อนออนเซ็นแห่งแรกในเมืองไทยของโครงการเอควา เรสซิเดนซ์ และผลงาน Semi-Outdoor Space ที่ทางบริษัทอควาเรียสได้คิดและสร้างชื่อมาจนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญให้กับโครงการที่ผ่านมาของ IDEO ในเครือบริษัทอนันดา ดีเวลลอปเมนท์มาแล้วนั้น ทำให้โครงการบ้านเดี่ยวของอควาเรียส โครงการใหม่แห่งนี้ เป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง และโดยเฉพาะคุณยงยุทธ เผยให้ฟังว่า เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดบ้านเดี่ยวที่ต้องการสังคมแบบ Exclusive และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อควาเรียส จึงจะพัฒนาโครงการนี้ให้มีจำนวนจำกัดเพียง 15 หลังเท่านั้น เพราะต้องการให้เป็นโครงการที่มีสิ่งแวดล้อมของสังคมที่พิเศษจริงๆ