ฟินันซ่า ออกกองทุนตราสารหนี้ roll over เน้นลงทุนต่อเนื่องทุก 3 เดือน ประมาณการผลตอบแทนรอบแรก 3.25% ต่อปี

จันทร์ ๒๓ กรกฎาคม ๒๐๑๒ ๐๙:๐๕
นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ฟินันซ่า จำกัด เผยแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มชะลอตัวลงตามที่ไอเอ็มเอฟ (IMF) คาดการณ์ล่าสุดในกลางเดือน ก.ค. 55 ที่ผ่านมาในขณะที่ธนาคารกลางหลายประเทศต่างเริ่มลดดอกเบี้ย เช่น ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในหนึ่งเดือน แต่เศรษฐกิจประเทศไทยกลับแตกต่างจากประเทศอื่น ๆ เพราะมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจและกิจกรรมการผลิตจากการฟื้นตัวของภาคการผลิตที่ดีขึ้นจากเหตุการณ์น้ำท่วมในปลายปีทีผ่านมา และสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ไทยเร่งตัวขึ้นมาก การออกหุ้นกู้ภาคเอกชนไทยก็เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน เกิดแรงกดดันให้ต้นทุนการเงินเริ่มปรับสูงขึ้น ในภาวะดังกล่าวนี้ที่มีความแตกต่างกันระหว่างเศรษฐกิจภายนอกและภายในประเทศ จึงมีความเป็นไปได้ที่ ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะหนึ่งเพื่อรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและไทยให้เห็นทิศทางที่ชัดเจน ดังนั้น การลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นจึงเป็นเรื่องที่เหมาะกับสถานการณ์ที่ทิศทางดอกเบี้ยยังไม่ชัดเจน เพราะถ้าลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นจนครบกำหนดแล้ว ปรากฏว่าธนาคารแห่งประเทศไทยขึ้นดอกเบี้ย ผู้ลงทุนสามารถลงทุนในกองทุนตราสารหนี้กองใหม่ต่อโดยไม่เสียโอกาสจากภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น และถ้าธนาคารแห่งประเทศไทยลดดอกเบี้ยนโยบาย ผู้ลงทุน ก็สามารถปรับแผนการลงทุนใหม่ให้เหมาะกับสถานการณ์เช่นกัน กองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัส โรล โอเวอร์ 3เดือน3 (FAM FIPR 3M3) จะเปิดเสนอขายตั้งแต่ 23-27 กรกฎาคมนี้ ด้วยประมาณการผลตอบแทนที่ 3.25% ต่อปีสำหรับการลงทุน 3 เดือน โดยเป็นกองทุนโรลโอเวอร์ที่ครบกำหนดแล้วและเปิดขายรอบถัดไป โดยสามารถลงทุนขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท นักลงทุนสามารถใช้ช่องทางการลงทุนใหม่ล่าสุดของบริษัทโดยซื้อกองทุนผ่านระบบอินเตอร์เนตได้ที่ศูนย์บริการเคทีซี ทัช 14 สาขา สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02 352-4050

FAM FIPR 3M3 เป็น specific fund หรือกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน มีนโยบายที่จะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งหนี้ที่มีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยและเงินต้น โดยกองทุนจะพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงิน และ/หรือ เงินฝาก ของภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) โดยในครั้งนี้เราจะลงทุนใน

เงินฝากธนาคารต่างประเทศ สกุลเงิน USD หรือ CNY กับธนาคาร BOC, Macao, ธนาคาร CIMB, Niaga, Indonesia หรือเงินฝากสกุลเงิน AED ธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank, UAE (F1)* ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ** เงินฝาก AED ธนาคาร Union National Bank,UAE(P-1) )* หรือ เงินฝากธนาคารและ/หรือตั๋วเงินและ/หรือหุ้นกู้** ตราสารหนี้ บมจ.ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) (BBB) ตั๋วเงิน หรือ ตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ BBB+ขึ้นไป*** ตั๋วเงินคลัง หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย

เราจะเปิดให้มีการซื้อและขายคืนหน่วยลงทุน ทุก ๆ 3 เดือนโดยประมาณ นับตั้งแต่วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม กองทุนนี้เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้นในตราสารหนี้ภาครัฐและภาคเอกชนและ/หรือ เงินฝาก ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และมีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากธนาคาร ในระยะเวลานานประมาณ 3 เดือนสำหรับการลงทุนแต่ละรอบ กองทุนมีการลงทุนในต่างประเทศซึ่งเราจะทำการการป้องความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน

สำหรับรอบการลงทุนของการสั่งซื้อหน่วยลงทุนครั้งที่ 1

อัตราผลตอบแทนโดยประมาณเท่ากับ 3.25% ต่อปี ซึ่งคำนวณจากการลงทุน สำหรับรอบระยะเวลาประมาณ 3 เดือน

ตราสารที่ลงทุน*** ผลตอบแทนของตราสารในรูปสกุลเงินบาทโดยประมาณ (ต่อปี) สัดส่วนการลงทุนโดยประมาณ ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนในรูปสกุลเงินบาทโดยประมาณ (ต่อปี) ระยะเวลาการลงทุนโดยประมาณ

เงินฝากธนาคารต่างประเทศ สกุลเงินUSD หรือ CNY กับธนาคาร BOC, Macao, ธนาคาร CIMB,Niaga,Indonesia หรือเงินฝากสกุลเงิน AED ธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank, UAE (F1)* ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ** 3.40%* 24.00% 0.81% 3 เดือน

เงินฝากAED ธนาคาร Union National Bank,UAE(P-1) )* หรือ เงินฝากธนาคารและ/หรือตั๋วเงินและ/หรือหุ้นกู้** 3.40% 20.00% 0.68% 3 เดือน

ตราสารหนี้ บมจ.ดั๊บเบิ้ล เอ (1991)(BBB) 4.10% 22.00% 0.90% 3 เดือน

ตั๋วเงิน หรือ ตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือBBB+ขึ้นไป*** 3.40% 33.50% 1.13% 3 เดือน

ตั๋วเงินคลัง หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 2.99% 0.50% 0.01% 3 เดือน

ประมาณการค่าใช้จ่ายกองทุน (ต่อปี) (0.28%)

อัตรารับซื้อคืนโดยประมาณ (ต่อปี) 3.25%

- หมายเหตุ: * โดยอัตราผลตอบแทนที่เสนอโดยผู้ออกตราสารและมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน USDหรือ CNY หรือ AED เป็นเงินบาทแล้ว(ข้อมูล ณ วันที่ 17 กรกฎาคม2555) ** เงินฝากธนาคารออมสิน หรือ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ตั๋วเงิน หรือ หุ้นกู้ ธนาคารเกียรตินาคิน, ธนาคารไอซีบีซี(ไทย), ธนาคารทิสโก้, ธนาคารทหารไทย,ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย, ธนาคารกรุงไทย, บริษัททุนธนชาต, ธนาคารแลนด์แอนด์เฮาส์ เป็นต้น (ข้อมูล ณ วันที่ 17 กรกฎาคม 2555 )

- ***ตราสารหนี้หรือหุ้นกู้ เช่น หุ้นกู้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา,ธนาคารกรุงไทย, บมจ.บัตรกรุงไทย (BBB+), บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง (BBB+), บมจ.แสนสิริ (BBB+), บมจ. เอสซี เอสเซท (BBB+) , บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล(A), บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (A), บมจ.เอเชียน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลล็อปเมนต์(A), บมจ.ศุภาลัย (A-), บมจ.ภัทรลีสซิ่ง (A-), บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (A-),

- บมจ.อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ลิส(A+), บมจ.พฤกษา เรียวเอสเตท(A), บมจ.ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น(A), บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ(A-) ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade)

- หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป หรือผลการประมูลของตราสารไม่เป็นไปตามที่กำหนด ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่ประมาณการไว้

- ทั้งนี้ ตราสารที่ลงทุน สัดส่วนการลงทุน และประมาณการค่าใช้จ่าย อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ หากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป หรือตามที่บริษัทจัดการเห็นสมควร

- กองทุนจะถือทรัพย์สินที่ลงทุนตลอดรอบการลงทุนแต่ละรอบ 3 เดือนโดยประมาณ

- หากผู้ถือหน่วยไม่ส่งคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนมาภายในวันและเวลาที่กำหนดในการเปิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุน บริษัทจัดการจะถือว่าผู้ถือหน่วยลงทุนประสงค์ที่จะลงทุนต่อไปในรอบการลงทุนถัดไป

- บริษัทจัดการสงวนสิทธิที่จะเปลี่ยนแปลงตราสารที่ลงทุน สัดส่วนการลงทุนและประมาณการค่าใช้จ่าย สำหรับการลงทุนในแต่ละรอบทุก 3 เดือนโดยประมาณ โดยไม่ถือเป็นการแก้ไขโครงการ โดยจะแจ้งรายละเอียดการลงทุนดังกล่าว ในหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปและหรือเว็บไซด์ของบริษัทจัดการ ให้ผู้ลงทุนทราบล่วงหน้า

- การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

- การลงทุนในหน่วยลงทุนมิใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงของการลงทุน ผู้ลงทุนควรลงทุนในกองทุนเมื่อเห็นว่าการลงทุนในกองทุนนี้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การลงทุนของตนและผู้ลงทุนยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนได้

- ในกรณีที่มีเหตุการณ์ไม่ปกติ ผู้ลงทุนอาจได้รับชำระเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนล่าช้ากว่าระยะเวลาที่กำหนดไว้ในหนังสือชี้ชวน

- ในกรณีที่กองทุนนี้ไม่สามารถดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องได้ ผู้ลงทุนอาจไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ตามที่มีคำสั่งไว้ เนื่องจากกองทุนนี้ลงทุนในต่างประเทศบางส่วน จึงมีความเสี่ยงที่ทางการของต่างประเทศอาจออกมาตรการในภาวะที่เกิดวิกฤตการณ์ไม่ปกติ ทำให้กองทุนไม่สามารถนำเงินกลับเข้ามาในประเทศ ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ลงทุนไม่ได้รับคืนเงินตามระยะเวลาที่กำหนด

- กองทุนนี้มีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาถึงปัจจัยต่างๆ ที่อาจมีผลกระทบอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

- กองทุนจะทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน (Fully Hedged)

- ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนให้เข้าใจและควรเก็บหนังสือชี้ชวนไว้เป็นข้อมูลเพื่อใช้อ้างอิงในอนาคต และเมื่อมีข้อสงสัย ให้สอบถามผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนให้เข้าใจก่อนซื้อหน่วยลงทุน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO