สธ.ประเดิมภารกิจดูแลสุขภาพคนเมืองปีแรก ตั้งเป้าปั้น อสม.นครบาล ให้ได้ อย่างน้อย 5,000 คน

จันทร์ ๒๓ กรกฎาคม ๒๐๑๒ ๑๖:๒๐
นายแพทย์สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพกล่าวระหว่างพิธีเปิดโครงการพัฒนาขีดความสามารถ อสม.นครบาล และเครือข่ายภาคประชาชน เพื่อการส่งเสริมสุขภาพ การคุ้มครองภัยสุขภาพ ในการจัดการสุขภาพชุมชนเมืองในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ณ ห้องประชุมมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยาว่า “อสม.นครบาล”หรืออาสาสมัครสาธารณสุขนครบาล เป็นนโยบายของนายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีแนวคิดที่จะพัฒนาและสร้างอาสาสมัครสาธารณสุขรูปแบบใหม่ เพื่อเป็นตัวแทนภาคประชาชนและเป็นที่พึ่งด้านสุขภาพของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร ทำหน้าที่เช่นเดียวกับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ซึ่งมีจำนวนกว่า 1 ล้านคน

ความจำเป็นที่ต้องมีการสร้างและพัฒนา อสม.นครบาล มาดูแลสุขภาพประชาชนในเขตเมือง เนื่องจากประสบการณ์ที่ได้รับจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมา การดูแลสุขภาพประชาชนในเขตเมืองเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะสภาพสังคมของกรุงเทพมหานครเป็นชนิดต่างคนต่างอยู่ ถึงแม้จะเป็นแหล่งรวมของระบบบริการสุขภาพในระดับสูงที่มีประสิทธิภาพก็ตาม แต่บริการขั้นพื้นฐานหรือระบบบริการปฐมภูมิของเมืองหลวงพัฒนาไม่ทันการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการสุขภาพ การจัดการด้านสุขภาพชุมชนในเมืองหลวงจึงมีความยากลำบากมากกว่าชุมชนในต่างจังหวัดหรือคนในภูธรมาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จึงได้มอบหมายให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ดำเนินกลยุทธ์ อสม.นครบาลขึ้น เพื่อลดอัตราป่วย ตาย และผลกระทบจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคมะเร็ง รวมทั้งการดูแลคนในเมืองหลวงให้มีที่พึ่งด้านสุขภาพ ทั้งในภาวะปกติและในขณะที่เกิดภัยพิบัติ โดยให้ อสม.นครบาลทำงานประสานกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั้งสังกัดกระทรวงสาธารณสุข กทม.และภาครัฐอื่นๆ

อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวอีกว่าที่ผ่านมา อสม.ของประเทศไทยได้รับความสนใจและการยอมรับจากองค์การอนามัยโลกว่า มีศักยภาพและช่วยให้งานสาธารณสุขของประเทศไทยมีความเข้มแข็ง มีหลายประเทศที่ให้ความสนใจมาศึกษาดูงาน อสม.ของไทย รวมทั้งประเทศอินโดนีเซียก็มาขอดูงาน อสม.ของไทยด้วย

การดำเนินโครงการในปีนี้นับเป็นปีแรก กระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งเป้าพัฒนา อสม.นครบาล ให้ได้จำนวน 5,000 คนจาก 50 เขต เพื่อเสริมความเข้มแข็งของระบบการดูแลสุขภาพ ป้องกันการเจ็บป่วย ของประชาชนในเขตเมือง โดยแบ่งการจัดอบรม อสม.นครบาลออกเป็น 5 รุ่น รุ่นละ1,000 คน ซึ่งทาง สบส.จะสนับสนุนด้านวิชาการและการพัฒนาศักยภาพ อสม.นครบาล ให้มีความรู้ความชำนาญมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความรู้เรื่องโรคภัยต่างๆ การช่วยเหลือขั้นต้นเมื่อเจ็บป่วย ความรู้เรื่องการใช้ยา การป้องกันอุบัติภัยต่างๆ ทั้งอุบัติเหตุ เช่น ไฟไหม้ และเรื่องของอุทกภัย ซึ่งเป็นงานด้านสุขภาพทั้งในภาวะปกติและในภาวะฉุกเฉิน

สำหรับ โรคมือ เท้า ปาก ที่มีการระบาดในขณะนี้ ถือเป็นภารกิจเร่งด่วนที่ทางอสม.นครบาลได้เข้ามามีส่วนร่วมในการเข้าไปดูในชุมชนที่ตนเองรับผิดชอบอย่างแข็งขัน โดยจะมีการลงพื้นที่เข้าไปให้ความรู้เกี่ยวกับโรค มือ เท้า ปาก แนะนำการล้างมืออย่างถูกวิธี การดูแลสุขภาพเด็กเล็กเพื่อป้องกันการติดเชื้อโรคมือเท้าปาก ส่วนเด็กที่ติดเชื้อโรคมือเท้าปากก็ต้องหยุดเรียนจนกว่าจะหาย ไม่ให้ออกไปวิ่งเล่นเหมือนเด็กปกติ เพราะอาจทำให้การติดเชื้อเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งจะมีการทำงานร่วมกันระหว่างในส่วนของสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร กรมควบคุมโรค และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เนื่องจาก อสม.เป็นส่วนหนึ่งในระบบสาธารณสุข จึงต้องมีการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆอย่างใกล้ชิด ในการดูแลชุมชนแต่ละพื้นที่ ที่อสม.รับผิดชอบอยู่

นอกจากนี้ยังมีภารกิจหลักที่ อสม. นครบาลต้องทำเป็นอันดับแรกๆ คือ การส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค โดยเฉพาะอนามัยแม่และเด็ก โรคติดต่อต่างๆที่ยังเป็นปัญหาอยู่ในชุมชนของกทม. โดยเฉพาะชุมชนแออัดและเรื่องผู้สูงอายุ โดยเฉพาะช่วงนี้เข้าหน้าฝนแล้วจะมีโรคไข้หวัดก็ต้องดูแลด้วย

ส่วนกิจกรรมเรียนรู้ที่ได้นำมาจัดในการฝึกอบรมครั้งนี้ ประกอบด้วย 11 ฐานได้แก่ ฐานระบบบริการสุขภาพและหลักประกันสุขภาพ ฐานการแก้ไขปัญหายาเสพติด ฐานนวัตกรรมการรับมือภัยพิบัติ ฐานการจัดการสาธารณภัย ฐานอาหารปลอดภัยและการคุ้มครองผู้บริโภค ฐานยาเพื่อชีวิต ฐานสุขภาพจิต ฐานสุขภาพดีวิถีชีวิตไทย ฐานการช่วยเหลือในภาวะฉุกเฉิน ฐานภูมิปัญญาท้องถิ่นในการดูแลสุขภาพ และฐานการพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพและการบริหารเครือข่าย โดยให้ อสม.นครบาลเรียนรู้กับอสม.และเครือข่ายในพื้นที่ชุมชน จำนวน 10 ชุมชน ของจังหวัดนครนายก ซึ่งจะเป็นวิธีการเพิ่มพูนความรู้ให้อสม.นครบาลให้เหมาะสมกับบริบทยิ่งขึ้น และจะเพิ่มการอบรมในพื้นที่อื่นในปีต่อไปอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าว

ด้านนางกรระวี ตันตระกูล ประธาน อสม.นครบาลกล่าวเสริมว่าภารกิจสำคัญของ อสม.นครบาลตอนนี้คือการทำความเข้าใจให้พี่น้องประชาชนผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพ 6 ล้านคน ได้เข้าถึงบริการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและเครือข่ายปฐมภูมิได้อย่างถูกต้อง ภายใต้สโลแกน “ประสานราษฎร์ เชื่อมรัฐ ขจัดภัยสุขภาพ พัฒนาคุณภาพชีวิตคนกรุงเทพฯ “ รวมทั้งการเชื่อมเครือข่าย อสม.ในระดับต่างๆเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซี่ยน อย่างเช่น ระดับประเทศ ก็จะมีอสม.ที่เม็กซิโก ซิดนีย์ โตเกียว อียิปต์ ที่เป็นเครือข่าย และมีอสม.เรือนจำ และอสส.ที่เป็นอาสาสมัครกรุงเทพมหานคร รวมถึงการเชื่อมเครือข่ายกับหน่วยแพทย์ฉุกเฉินด้วย

การดูแลโรค มือ เท้า ปาก ของประชาชนใน กทม. ตอนนี้ อสม.นครบาลจะทำงานกันเป็นทีม ในการเข้าไปดูแลในพื้นที่ ที่รับผิดชอบอยู่ เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนในชุมชน รวมถึงพี่เลี้ยงในศูนย์บริการชุมชนทั้ง 68 ศูนย์ เพื่อให้นำองค์ความรู้ไปถ่ายทอดให้กับชุมชน เพื่อเฝ้าระวังคนในครอบครัวของตนเองด้วย ตรงนี้เป็นภารกิจของอสม.นครบาลโดยตรงในการดูแลสุขภาพภาคประชาชน โดยจะเน้นการทำงานที่เป็นจิตอาสาเป็นหลัก และจะยึดหลักสืบสานพระปณิธานขององค์สมเด็จย่าในการดูแลประชาชนประธาน อสม.นครบาลกล่าว...

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๔๗ เอ. เจ. พลาสท์ คว้า 2 รางวัลใหญ่ จาก SET Awards 2024 และได้รับการประเมิน CGR ดีเลิศ ระดับ 5 ดาว
๑๖:๑๓ เปิดมาตรการ พักหนี้ ลดดอกเบี้ย ช่วยเหลือ SMEs ถูกน้ำท่วมในงาน มันนี่ เอ็กซ์โป 2024 เชียงใหม่
๑๖:๓๙ หน้าหนาวมาเยือน! กรมอนามัยเตือนดูแลสุขภาพให้พร้อม เด็กเล็ก-ผู้สูงอายุเสี่ยงเจ็บป่วยง่าย
๑๖:๕๗ เปิดรันเวย์อวดผลงานไอเดียสร้างสรรค์ของ 5 ผู้ชนะรางวัลทุนการศึกษา จากโครงการ Jaspal Group Scholarship Program
๑๖:๐๘ กิฟฟารีน แนะนำไอเทมเด็ด กิฟฟารีน เอช เอ็ม บี พลัส วิตามินดี 3 สำหรับช่วยดูแลมวลกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
๑๕:๐๑ ไขข้อสงสัย สินเชื่อรถแลกเงินคืออะไร
๑๕:๓๘ ซื้อมอเตอร์ไซค์ ออกรถใหม่ มีขั้นตอนอย่างไร ต้องเตรียมอะไรบ้าง
๑๕:๐๕ ยางขอบ 17 ยี่ห้อไหนดีที่ขับขี่สนุก และยังคงนุ่มสบาย
๑๔:๕๖ heygoody คว้าแชมป์จากเวที Thailand Influencer Awards 2024 ตอกย้ำความเข้าใจลูกค้า Introvert
๑๔:๐๓ เมืองไทยประกันชีวิต คว้า 4 รางวัลใหญ่ระดับสากล ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล และเป็นองค์กรสถานประกอบการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการ