ไทย-เกาหลีจับมือจัดเวทีเตรียมความพร้อมก่อนจัดตั้งการสำรองน้ำมัน 90 วัน มั่นใจช่วยเสริมสร้างความมั่นคงพลังงานไทย

อังคาร ๒๔ กรกฎาคม ๒๐๑๒ ๑๗:๓๘
กระทรวงพลังงานร่วมกับสาธารณรัฐเกาหลีจัดเวทีสัมมนา หัวข้อเรื่อง “Energy Forum on Oil Risk Management” ณ โรงแรมสวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด กรุงเทพมหานคร เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านการเตรียมความพร้อมในการสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ เสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ และก่อให้เกิดความร่วมมืออันดีระหว่างไทยกับสาธารณรัฐเกาหลี

นายคุรุจิต นาครทรรพ โฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กพช. มีมติเห็นชอบให้มีการสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ของประเทศเพิ่มเป็น 90 วัน ทั้งน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป โดยจะให้ภาคเอกชนสำรองเพิ่มเป็น 6% คิดเป็นปริมาณสำรอง 43 วัน ส่วนที่เหลือรัฐบาลจะต้องลงทุน เพื่อให้สำรองน้ำมันครบเป็น 90 วัน ซึ่งถือเป็นนโยบายที่มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ที่ประเทศไทย ต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันดิบ กว่าร้อยละ 85 ของการจัดหา จึงมีความเสี่ยงที่อาจจะประสบกับกับภัยสงครามและภัยธรรมชาติ ซึ่งจะทำให้เกิดการหยุดชะงักของการจัดหาน้ำมันให้เพียงพอต่อความต้องการ (Oil Supply Disruption)

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานได้เล็งเห็นความสำคัญของการเตรียมความพร้อม เพื่อรองรับสภาวะวิกฤตด้านน้ำมันที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา จึงมีความจำเป็นที่จะต้องศึกษารูปแบบและแนวทางการสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ของประเทศอื่นๆ ที่มีประสบการณ์และความพร้อมด้านการสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ ซึ่งในการสัมมนาในครั้งนี้ ประเทศไทยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากองค์การน้ำมันแห่งชาติสาธารณรัฐเกาหลี และกระทรวงเศรษฐกิจความรู้สาธารณรัฐเกาหลี ในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์

เนื่องจาก สาธารณรัฐเกาหลีเป็นประเทศที่ต้องนำเข้าพลังงานในปริมาณที่สูงเหมือนประเทศไทย และเห็นความสำคัญของการจัดตั้งการสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์มาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 20 ปี จึงได้มีการพัฒนาการเก็บสำรองน้ำมันทั้งแบบ บนบก ใต้ดิน และลอยในทะเล ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการเก็บสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ที่น่าสนใจ รวมถึงมีการจัดตั้งองค์กรการสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์อย่างเป็นระบบ (Korean National Oil Corporation; KNOC) ซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของประเทศไทยที่อยู่ระหว่างการยกร่างกฎระเบียบ และคัดเลือกเทคโนโลยีการสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ที่เหมาะสมต่อสภาพเศรษฐกิจ สังคม และภูมิศาสตร์ของประเทศไทย

การจัดสัมมนาในครั้งนี้ นอกจากประเทศไทยจะได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับทางเลือกที่เป็นไปได้และการบริหารจัดการความเสี่ยงของการจัดหาน้ำมันให้เพียงพอต่อความต้องการของชาติแล้ว ผู้เข้าร่วมสัมมนายังได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญทั้งภาครัฐ และเอกชน จากสาธารณรัฐเกาหลีและประเทศไทย เกี่ยวกับทิศทางในการพัฒนาระบบการสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ในอนาคตอีกด้วย ซึ่งคาดว่าเวทีนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถ พร้อมทั้งองค์ความรู้ ในการพัฒนาและเตรียมความพร้อมด้านน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นายคุรุจิต กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ