นายโสภณ ผลประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ภาพรวมดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (มูลค่าเพิ่ม) (Manufacturing Production Index - MPI) ไตรมาสที่ 2 เดือนมิถุนายน 2555 ติดลบร้อยละ 1.61 และอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ร้อยละ 69.2 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2554 ผลมาจากภาคอุตสาหกรรมฟื้นตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการดำเนินฟื้นฟู เยียวยานิคมอุตสาหกรรม เขตประกอบการอุตสาหกรรมและสวนอุตสาหกรรม 7 แห่ง ที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดปทุมธานี ขณะนี้มีโรงงานประกอบกิจการแล้ว 658 ราย คิดเป็นร้อยละ 78.43 ของโรงงานทั้งหมด 839 ราย (ข้อมูล ณ มิถุนายน 2555)
ส่วนการดำเนินการฟื้นฟูโรงงานขนาดใหญ่ และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ประสบอุทกภัย ซึ่งตั้งอยู่นอกเขตนิคมอุตสาหกรรม ขณะนี้มีโรงงาน ในกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าว เปิดดำเนินการแล้ว 7,783 ราย คิดเป็นร้อยละ 98.61 ของสถานประกอบการทั้งหมด 7,893 ราย (ข้อมูล ณ มิถุนายน 2555)
สำหรับภาพรวมดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (มูลค่าเพิ่ม) (Manufacturing Production Index - MPI)เดือนมิถุนายน 2555 มีอัตรา 182.39 กลับมาติดลบร้อยละ 9.6 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหลังจากขยายตัวเป็นบวกในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากอุตสาหกรรม Hard disk drive และแผงวงจรไฟฟ้า โดยสาเหตุเกิดจากปัจจัยทางเทคนิค ในส่วนของฐานการคำนวณที่สูงมากใน 2 อุตสาหกรรม คือ Hard disk drive และแผงวงจรไฟฟ้า ซึ่งในเดือน มิถุนายน 2554 ทั้ง 2 อุตสาหกรรมฟื้นตัวกลับมาได้หลังเหตุการณ์สึนามิที่ญี่ปุ่น ทำให้มีการเร่งผลิตเป็นอย่างมาก ประกอบกับอุตสาหกรรม Hard disk drive และแผงวงจรไฟฟ้า มีสัดส่วนเกือบร้อยละ 15 ใน MPI ดังนั้นเมื่อ 2 อุตสาหกรรมนี้มีการเปลี่ยนแปลงจึงส่งผลต่อ MPI ค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ดี เดือนมิถุนายน 2555 การนำเข้าสินค้าวัตถุดิบ (ไม่รวมทองคำ) หดตัวร้อยละ 12.1 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน และการนำเข้าสินค้าทุนขยายตัวร้อยละ 9.9 จากการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบ ที่หดตัว อาจะสะท้อนการลดลงของการผลิตในอนาคต ทั้งนี้ ทาง สศอ. จะได้ติดตามใกล้ชิดต่อไป โดยคาดการณ์การขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม ปี 2555 โดย GDP อุตสาหกรรมจะขยายตัว 4.5 — 5.5 และ MPI จะขยายตัวร้อยละ 6 — 7 โดยมีปัจจัยบวกคือการทยอยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคอุตสาหกรรมที่จะเร่งตัวกลับมา เพื่อชดเชยในช่วงน้ำท่วม การขยายตัวเพิ่มขึ้นเศรษฐกิจในประเทศจากการดำเนินนโยบายของรัฐ เช่น นโยบายรถคันแรก นโยบายจำนำสินค้าเกษตร (ข้าว ยางพารา) ค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท การลงทุนทดแทนความเสียหายจากน้ำท่วมและในโครงการเพื่อป้องกันน้ำท่วม
ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กล่าวถึงแนวโน้มภาวะอุตสาหกรรมดือนกรกฎาคม 2555 ว่า การที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ได้ประเมินภาวะเศรษฐกิจโลกในปี 2555 จะเติบโตร้อยละ 3.5 ซึ่งชะลอตัวจากที่เคยประเมินไว้ เมื่อเมษายนที่ผ่านมา ที่มีอัตราร้อยละ 3.6 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งถึงภาคอุตสาหกรรมไทยมีแนวโน้มชะลอตัว เนื่องจากเศรษฐกิจอยู่ในภาวะเสี่ยงสูงขึ้นจากปัญหาวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปยืดเยื้อ ส่งผลต่ออุตสาหกรรมที่พึ่งตลาดยุโรป ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 11 ของการส่งออกทั้งหมด
นอกจากนี้ตลาดส่งออกจีนที่มีสัดส่วนร้อยละ 12 ที่เป็นตลาดสำคัญตลาดหนึ่งของไทย อาจจะขยายตัวลดลงทำให้อุปสงค์ของจีนเริ่มชะลอ จากการส่งออกไปยุโรป ที่จีนส่งออกสินค้าไปยุโรปถึงร้อยละ 19 อาจทำให้ความต้องการนำเข้าของจีนลดลงได้เช่นกัน
ติดต่อ:
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
085 020 2056