อุตฯ หนุนอุปกรณ์แพทย์ไทยพร้อม ปรับมาตรฐาน พุ่งเป้าสู่สากล

ศุกร์ ๒๗ กรกฎาคม ๒๐๑๒ ๑๕:๓๕
สศอ. หนุนพัฒนาศักยภาพ เน้นใช้วัตถุดิบในประเทศ เตรียมผลักดันอุตสาหกรรมวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ยกระดับพร้อมรับประชาคมอาเซียน

นายโสภณ ผลประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กล่าวว่า สศอ.ได้ดำเนินการผลักดันยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีความสำคัญและมีโอกาสที่จะพัฒนาให้เป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการแข่งขันสู่ตลาดโลก พร้อมทั้งรองรับกับความต้องการในประเทศที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงเป้าหมายของการก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพของเอเชียและรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่จะเกิดขึ้นในปี 2558 และถือเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของการส่งออกให้กับอุตสาหกรรมในอนาคตได้อีกด้วย ที่ผ่านมาจึงได้มีการจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการผลักดันยุทธศาสตร์พัฒนาอุตสาหกรรมวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนรวมถึงหน่วยงานทางการแพทย์ทั้งสิ้น 11 หน่วยงาน

โดยมีการวางเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต Medical and Health Industry ที่สำคัญของอาเซียนภายในปี 2020 โดยได้กำหนดยุทธศาสตร์หลักเพื่อมุ่งหวังในการก้าวสู่ความเป็นผู้นำไว้ดังนี้ คือ 1. การสร้างความร่วมมือและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ เพื่อสร้างความร่วมมือเชิงบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน 2. การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์ดูแลสุขภาพ 3. การตลาดและการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคผ่านการส่งเสริม เผยแพร่และสร้างองค์ความรู้ 4. การพัฒนาบุคลากรและส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา 5.การใช้มาตรการด้านการเงิน การคลังและการจัดซื้อของภาครัฐ เช่น การปรับปรุงโครงสร้างภาษีให้เอื้อต่อการแข่งขัน การเร่งรัดปรับปรุงขั้นตอนการออกสิทธิบัตร และ 6. การสร้างความเชื่อมั่นและการส่งเสริมการลงทุน ผ่านการศึกษาโอกาสทางธุรกิจ พร้อมทั้งส่งเสริมและชักชวนนักลงทุน

ในปี 2555 สศอ.ได้จัดทำโครงการนำร่องขึ้น 3 โครงการ โดยโครงการแรกเป็นการพัฒนาคลัสเตอร์อุตสาหกรรมวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์และสุขภาพด้านการเพิ่ม Productivity และพัฒนามาตรฐาน ISO 13485 ที่เป็นการดำเนินงานอย่างเป็นระบบครบวงจร ซึ่งได้ให้สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) เป็นที่ปรึกษาโครงการ มีโรงงานนำร่องที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 49 ราย โรงงานที่เข้าร่วมพัฒนา Productivity ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นกว่าร้อยละ 15 จำนวน 17 ราย และพัฒนามาตรฐาน ISO 13485 จำนวน 32 ราย ในส่วนของการพัฒนามาตรฐาน ISO 13485 นั้น ถือเป็นมาตรฐานระบบการบริหารจัดการสำหรับอุตสาหกรรมด้านอุปกรณ์การแพทย์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล สอดรับกับการที่ประเทศไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่การค้ากับประชาคมอาเซียน (AEC) เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันในตลาดอาเซียนและตลาดสากลได้อย่างมีคุณภาพ ในขณะนี้มีทีมที่ปรึกษาได้เข้าไปให้คำแนะนำด้านการสร้างประสิทธิภาพที่จะเกิดแก่อุตสาหกรรมวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้ถึงขีดสุด ทั้งการบริหารจัดการ/การผลิตที่จะดีขึ้น พัฒนาระบบ Logistics ช่วยให้ลดต้นทุนการผลิตลง ลดการใช้พลังงาน ช่วยจัดการสิ่งแวดล้อมและของเสียในกระบวนการผลิต รวมถึงการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยบริหารจัดการ รวมถึงพัฒนาให้อุตสาหกรรมวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ของประเทศไทยให้ได้มาตรฐาน ISO 13485 เทียบเท่าสู่ระดับสากล

ส่วนของโครงการที่สอง คือโครงการวิจัยพัฒนาและออกแบบวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์และสุขภาพ มุ่งหวังให้ผู้ประกอบการสามารถผลิตวัสดุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีที่สูงขึ้นและสามารถพัฒนานวัตกรรมด้านการออกแบบให้มีความทันสมัยเหมาะสมแก่ผู้ใช้มากขึ้น ต่อยอดความสำเร็จไปสู่คุณภาพที่ได้รับการยอมรับทั้งในวงการแพทย์และได้มาตรฐานระดับสากล โดยเฉพาะ 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. กลุ่มเทคโนโลยีผ่าตัดแผลเล็ก 2. กลุ่มตรวจวินิจฉัยด้ายการเทคโนโลยีแพทย์ทางไกล 3. กลุ่มวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ทั่วไป และ 4. กลุ่มอุปกรณ์เพื่อการป้องกันและช่วยเหลือ ที่จะมีการดำเนินงานทั้งการวิจัยพัฒนาและออกแบบวัสดุอุปกรณ์(R&D/Design) ผ่านการทดสอบทางคลินิก (Clinical Trial) เพื่อให้ได้ผลการทดสอบทางการแพทย์นำไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ การพัฒนาวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้ได้มาตรฐานสากล (CE Mark/UL) รวมไปถึงการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการทางการแพทย์ ซึ่งต้องยอมรับว่าผู้ประกอบการยังขาดความรู้ความเข้าใจในการผลิตและพัฒนาวัสดุและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ทำให้ไม่สามารถออกวางจำหน่ายสู่ตลาด หรือผู้ประกอบการบางรายเสียค่าใช้จ่ายไปเป็นจำนวนมากกับการทดสอบที่เกินความจำเป็น ทำให้ต้นทุนการผลิตพุ่งสูงขึ้นจนไม่สามารถแข่งขันกับตลาดได้

สำหรับโครงการศึกษาวิจัยโอกาสทางธุรกิจและการเพิ่ม Value Creation เป็นการพัฒนาฐานข้อมูลเชิงลึกแก่อุตสาหกรรมวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ตั้งแต่การผลิตต้นทางจนถึงการจัดจำหน่ายให้กับผู้ใช้ในประเทศ นำไปสู่ทิศทางการพัฒนาในอนาคต ช่วยแสวงหาช่องทางและโอกาสใหม่ๆ ตลอดจนพิจารณาการพัฒนาระบบปัจจัยพื้นฐานอื่นๆ ในการรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมทั้งด้านระบบข้อมูล ระบบ Logistics และบุคลากร ที่ผ่านมาพบว่าอุปกรณ์ที่ผลิตส่วนใหญ่ยังใช้เทคโนโลยีไม่สูงนัก โดยเน้นการผลิตที่ใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในประเทศ เช่น ยาง พลาสติก แต่กลับมีการนำเข้าผลิตภัณฑ์วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้เทคโนโลยีและมีมูลค่าสูงจากต่างประเทศ ทาง สศอ. จึงได้ประสานความร่วมมือไปกับทุกภาคส่วน เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับอุตสาหกรรมวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพราะประเทศไทยมีฐานการผลิตที่เกี่ยวเนื่องและมีความเข้มแข็ง เช่น อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมพลาสติก อุตสาหกรรมเคมี เป็นต้น พร้อมทั้งหน่วยงานวิจัยและภาคการศึกษาที่เข้ามารองรับ อันจะทำให้เกิดการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในการกำหนดนโยบายและมาตรการต่างๆ ในการส่งเสริมพัฒนาอุตสาหกรรมวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ ไปสู่การผลิตวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มี Value Creation ที่สูงขึ้นได้

“จากยุทธศาสตร์ที่ได้มีการขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ออกไป ทำให้เกิดการตื่นตัวในภาคอุตสาหกรรม ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสถานพยาบาลทั่วประเทศ ทาง สศอ. กำลังดำเนินการจัดทำแผนงานโครงการรองรับยุทธศาสตร์ที่กำหนดขึ้นในทุกๆ ด้าน เช่น การพัฒนามาตรฐานและห้องปฏิบัติการทดสอบ การสร้างเครือข่ายร่วมพัฒนาแนวทางการเลือกซื้อวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ของสถานพยาบาลต่างๆ การปรับปรุงเพิ่มเติมบัญชีรายการเครื่องมือแพทย์ เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมในประเทศให้พัฒนาก้าวสู่ตลาดในระดับสากล” นายโสภณ กล่าว

ติดต่อ:

ฝ่ายประชาสัมพันธ์

085 020 2056

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘ เม.ย. ARDA จับมือ ฟาร์ม เอ็กซ์โป และพันธมิตร เปิดศึก AGRITHON by ARDA Season 2 เฟ้นหาสุดยอดไอเดียปลุกพลังนวัตกรรมเกษตรไทย ชิงทุนวิจัยรวมกว่า 100
๑๘ เม.ย. กรุงศรี ฉลอง 80 ปี ดูหนัง 80 บาท ที่ Major Cineplex เมื่อชำระด้วยบัตรกรุงศรี เดบิตและบัตร Krungsri Boarding
๑๘ เม.ย. แบรนด์ซุปไก่สกัด รณรงค์ขับขี่ปลอดภัยในโครงการ สมองล้าอย่าขับ พักดื่มแบรนด์ จับมือ ตำรวจทางหลวง และ ตำรวจจราจร
๑๘ เม.ย. ซัมซุงจัดใหญ่! เป็นเจ้าของ ตู้เย็น Side by Side รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมรับสิทธิพิเศษแบบจุใจ ได้แล้ววันนี้
๑๘ เม.ย. ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดกนง.มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนเมษายนนี้
๑๘ เม.ย. EXIM BANK ร่วมกับกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs รับมือนโยบายภาษีแบบตอบโต้ของสหรัฐฯ
๑๘ เม.ย. ปักหมุด! เตรียมจัดงาน PET Expo Thailand 2025 จัดยิ่งใหญ่ครบรอบ 25 ปี
๑๘ เม.ย. ลดคลายร้อน ช้อปแลคตาซอย 1,000 ลด 100 พร้อมชวนร่วมสนุกถ่ายภาพคู่แลคตาซอย ลุ้น 10 รางวัล
๑๘ เม.ย. DITP ประชุมผู้จัดแสดงสินค้า เตรียมความพร้อมสู่เวที THAIFEX - ANUGA ASIA 2025
๑๘ เม.ย. โรงแรมเครือดุสิตธานี เปิดตัวโปรพิเศษต้อนรับซัมเมอร์ 'A Night on Us' เติมเต็มวันพักผ่อนอย่างมีความสุขกับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตธานีทั่วโลก