นางสาวสมพิศ เจริญเกียรติกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารความเสี่ยง ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยถึงผลการจัดทำดัชนีธุรกิจกรุงไทย หรือ Krung Thai Business Index (KTBI) ประจำไตรมาสที่ 2/2555 ซึ่งได้จากการสำรวจความเชื่อมั่นของลูกค้านักธุรกิจทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ว่า ดัชนี KTBI อยู่ที่ระดับ 55.58 สูงกว่าระดับปกติที่ 50 ค่อนข้างมาก แต่ลดลงจากระดับ 55.73 ในไตรมาสก่อน ทั้งนี้เนื่องจากนักธุรกิจมีความกังวลเพิ่มมากขึ้นต่อวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปที่อาจจะลุกลามและรุนแรงมากกว่าที่คาดการณ์ จนส่งผลกระทบต่อการส่งออก โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องนุ่งห่ม ยางพารา และเครื่องใช้ไฟฟ้า อันจะส่งผลต่อเนื่องให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำกว่าที่ประมาณการไว้
นอกจากนี้ มีบางธุรกิจที่ความเชื่อมั่นลดลงจากไตรมาสก่อน โดยเฉพาะธุรกิจเกษตร เนื่องจากราคาพืชผลสำคัญส่วนใหญ่ยังคงหดตัว ขณะที่ธุรกิจอุตสาหกรรม มีความกังวลต่อผลกระทบด้านการส่งออกและการเพิ่มขึ้นของต้นทุนแรงงาน
นางสาวสมพิศ กล่าวต่อไปว่า แม้ว่าโดยภาพรวมแล้ว ดัชนีธุรกิจกรุงไทยในไตรมาส 2 สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักธุรกิจต่อภาวะเศรษฐกิจและการดำเนินธุรกิจที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ในครึ่งปีหลัง ความเสี่ยงจากปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้น และลุกลามไปยังสเปนและอิตาลี ที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ในอันดับต้น ๆ ประกอบกับปัจจัยเสี่ยงในประเทศ โดยเฉพาะต้นทุนด้านพลังงานและค่าแรงที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น กดดันต่อการดำเนินธุรกิจ ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงควรเตรียมความพร้อม เพื่อลดผลกระทบ เช่น กระจายความเสี่ยง โดยเพิ่มความหลากหลายของตลาดส่งออก และมุ่งไปที่ตลาดที่มีศักยภาพ เช่น อาเซียน ตะวันออกกลาง ละตินอเมริกา และออสเตรเลีย ใช้สิทธิประโยชน์จากกรอบการค้าเสรีที่ทำไว้กับประเทศต่าง ๆ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ตลอดจนสร้างนวัตกรรมและมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า เพื่อให้สามารถแข่งขันได้