“ซานิ” ยัน “ปลื้มจิตร์” แค่พี่น้อง เผยโสดสนิทยังไม่พร้อมมีใคร

แน่นอนภาพนี้ทำเอาสาวๆ อกหักกันทั้งประเทศ รวมถึงหนุ่มๆ ก็ออกอาการเซ็งไปตามๆ กัน บ่นเสียดายของพร้อมซดแห้วกันยกใหญ่ สงสัยกันอย่างนี้ต้องให้ “ซานิ” ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับภาพนี้ซะแล้ว

“หนูรู้จักกับพี่หน่องมา 5-6 ปี รู้จักกันนานแล้ว ตั้งแต่ก่อนหนูเป็นเอเอฟแล้ว แต่ไม่มีคนรู้ คือเมื่อก่อนหนูทำงานร้องเพลงตามผับ พี่หน่องเค้าก็มาเที่ยวกับเพื่อนที่ผับ ก็ได้เจอกันรู้จักกันเพราะเพื่อนรุ่นพี่เรารู้จักกัน ก็เฮฮาตามประสาพี่น้องไม่ได้มีอะไร จากนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีกนาน

แล้วตอนหนูเรียนหนังสือ หนูก็เป็นนักกีฬาวอลเล่ย์บอล ชอบเล่น ชอบดูกีฬาวอลเล่ย์ แล้วมีอยู่วันหนึ่งหนูเปิดทีวีดูการแข่งวอลเล่ย์ที่พี่หน่องแข่ง ก็รู้สึกอยากไปดู อยากไปเชียร์ ก็เลยชวนเพื่อนว่า เราไปดูวอลเล่ย์กัน หนูไปดู ก็ได้เจอพี่หน่อง ก็เฮฮากัน ที่จริงเบอร์โทรศัพท์ของพี่หน่อง ตัวหนูก็ไม่มีเบอร์นะ เพราะว่านานมากแล้วที่เราไม่ได้ติดต่อกัน พอได้กลับมาเจอกัน ด้วยความคิดถึงวันนั้นเราไม่ได้คุยกันอะไรมากมาย เราก็เลยนัดแฮงเอ้าท์กันทีหลัง

แล้วก็นัดกัน ไปกินข้าวกัน ก็ไปกินข้าวกันจริงๆ นี่แหละก็คือไม่โกหกว่าไปกินกันสองคน คุยเล่นกันเรื่องเดิมๆ คุยกันแล้วถ่ายรูปเล่นกัน ก็ลงรูปไปขำๆ ไม่ได้คิดอะไร ก็ไม่คิดว่าคนจะคิดไง เราไม่ได้คิดอะไร บริสุทธิ์ใจที่จะเจอกันที่จะคุยกัน

หนูอยากบอกแฟนคลับของพี่หน่องว่าใจเย็นๆ นะคะอย่าฆ่าหนูนะ (หัวเราะ) ไม่ได้มีอะไรเลย เราเป็นพี่น้องกันจริงๆ ฉะนั้นแฟนคลับพี่หน่องไม่ต้องเครียดนะคะ หนูรู้จักกับพี่เค้า หนูก็ปลื้มพี่เค้านะ พี่เค้าเป็นคนนิสัยดี ชอบผลงานการเล่นวอลเล่ย์ที่เค้าทำเพื่อประเทศชาติ เค้าทำให้คนไทยทั้งประเทศ แล้วใครจะไม่รักเค้า ทุกคนรักเค้า หนูก็เป็นคนหนึ่งที่หนูรักเค้า เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวหนูไม่แย่งใคร (หัวเราะ)

ตอนนี้หนูโสดมาก โสดมากจริงๆ คือหนูไม่ได้คิดว่าจะเปิดใจกับใครด้วย เพราะว่าพอหนูมาคิดเรื่องบ้าน คิดเรื่องงาน มันหมดเวลาที่จะคิดเรื่องอื่นแล้ว หนูไม่อยากคบใครแล้วตัวหนูไปเป็นภาระของเค้า เพราะตัวเราก็มีปัญหาที่ต้องคิดเยอะอยู่แล้ว หนูต้องทำงานไม่ได้มีเวลาให้ใคร ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้หนูยอมอยู่คนเดียวไปช่วงนึงก่อนดีกว่า จนหนูรู้สึกว่าอายุเยอะแล้ว ต้องมีแฟนแล้ว ถึงตรงนั้นค่อยว่ากัน แต่ตอนนี้หนูยังรู้สึกว่าคนที่หนูยังต้องทำอะไรให้ คือพ่อแม่ หลายคนถามว่าหนูโสดแล้วทำไมไม่มองใคร คือหนูไม่ได้มองใครจริงๆ เพราะมันไม่ได้มีเวลาขนาดนั้น ขนาดเวลาที่จะคุยโทรศัพท์ยังไม่มีเลย ฉะนั้นขอทำงานก่อนดีกว่าค่ะ”