นายพิชัย นีรนาทโกมล ประธานกรรมการบริหาร ซีเอสซี เปิดเผยว่า บริษัทฯ กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 30 ตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้ จึงเป็นโอกาสดีที่จะทำการรีแบรนด์ เพื่อปรับภาพลักษณ์ของบริษัทฯ ให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการตอกย้ำถึงความสำเร็จตลอด 3 ทศวรรษ โดยบริษัทฯ เตรียมทุ่มงบ 100 ล้านบาท เพื่อปรับโฉมหน้าร้านที่มีอยู่ และขยายสาขาใหม่ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังเริ่มเดินเครื่องทำการตลาดสินค้าโทรศัพท์มือถืออย่างจริงจัง และเตรียมเปิดเฮาส์แบรนด์ของซีเอสซีเองในปลายปีนี้
“เรานำจุดแข็งด้านต่างๆ มารวมกัน และกำหนดคำขวัญใหม่ของซีเอสซีขึ้นมาว่า “IT Unlimit” เพื่อสื่อไปยังลูกค้าทุกกลุ่มว่า ที่ร้านซีเอสซี ลูกค้าจะพบกับทุกความต้องการ เพราะไม่มีข้อจำกัดในเรื่องไอที สำหรับซีเอสซี”
นายพิชัย กล่าวต่อว่า “ซีเอสซีอยู่ในวงการไอทีมานานกว่า 29 ปี ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ในเรื่องคุณภาพสินค้า เพราะเราเน้นขายสินค้าอินเตอร์แบรนด์เท่านั้น รวมถึงเรื่องราคาสินค้าที่ดี จำนวนรุ่นสินค้าที่มีหลากหลายให้เลือก และทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ เพราะได้รับการฝึกอบรมในด้านต่างๆ อาทิ Intel Guru หรือ Microsoft Expert อยู่เป็นประจำ จึงสามารถให้คำแนะนำแก่ลูกค้าว่าสินค้ารุ่นใดเหมาะกับความต้องการใช้งานของลูกค้าได้เป็นอย่างดี”
“เดิมทีซีเอสซีโฟกัสเน้นขายคอมพิวเตอร์ ในลักษณะค้าส่งและโปรเจ็ค แต่ปัจจุบันได้เพิ่มสัดส่วนในการค้าปลีกหรือ รีเทล เพื่อเข้าสู่ตลาดแมสมากยิ่งขึ้น และได้เพิ่มไลน์สินค้าโทรศัพท์มือถือเข้าในร้าน โดยเริ่มมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว เพราะเรามองเห็นโอกาสทางการตลาดของธุรกิจโมบายที่ยังเติบโตได้อีกมากในอนาคต แต่ต้องยอมรับว่า ซีเอสซียังใหม่กับธุรกิจนี้ และธรรมชาติของลูกค้าที่มองหาโทรศัพท์มือถือจะไม่ค่อยนิยมเดินเข้ามาหาสินค้าในร้านไอที ดังนั้นซีเอสซีจึงได้ผนึกกำลังกับพันธมิตร บลิส-เทล ที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจโทรศัพท์มือถือมาอย่างยาวนาน”
ซีเอสซีได้บรรลุข้อตกลงในการเข้าบริหารหน้าร้านโมบายแทนบลิส-เทลเดิม ทั้ง 65 สาขา ซึ่งจะเปลี่ยนชื่อร้านเป็นร้านซีเอสซีทั้งหมดในปีนี้ และจะเน้นขายโทรศัพท์มือถือระดับอินเตอร์แบรนด์และอุปกรณ์กลุ่มโมบาย ข้อตกลงนี้ ไม่เพียงจะทำให้ซีเอสซีมีหน้าร้านในทำเลที่ดีตามห้างไอทีและห้างสรรพสินค้าชั้นนำในกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้น และสามารถขยายตัวไปตามห้างสรรพสินค้า โมเดิร์นเทรด และห้างไอที ในต่างจังหวัดไปพร้อมๆ กัน แต่ซีเอสซียังได้ระบบการบริหารร้าน และทีมงานมากความรู้และประสบการณ์ ที่อยู่ในวงการโมบายมาไม่ต่ำกว่า 20 ปี เข้ามาเสริมทัพ ซึ่งจะช่วยเราอย่างมากในการบริการลูกค้า และการทำงานในส่วน back office
ขณะเดียวกัน ซีเอสซีเองก็เร่งเปิดสาขาใหม่อีกกว่า 30 แห่งตามหัวเมืองใหญ่ เช่น อุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น เชียงใหม่ ลำปาง ระยอง นครศรีธรรมราช ภูเก็ต เป็นต้น ควบคู่กับการเปิดศูนย์บริการประจำภาค ดังนั้นซีเอสซีจะสามารถเข้าถึงลูกค้าครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ด้วยจำนวนสาขาทั้งสิ้น 130 แห่งภายในสิ้นปีนี้
สำหรับศูนย์บริการประจำภาคนั้น จะรับผิดชอบด้านการกระจายสินค้าทั้งคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กและโทรศัพท์มือถือ และให้บริการหลังการขาย รวมถึงการซ่อมแซมสินค้า ทั้งยังเป็นสำนักงานบริหารงานในภาคต่างๆ โดยภาคเหนืออยู่ที่จังหวัดลำปาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ที่จังหวัดขอนแก่น ภาคตะวันออกอยู่ที่ศรีราชา ภาคใต้อยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่วนภาคตะวันตกอยู่ในขั้นตอนเลือกสถานที่ระหว่างจังหวัดกาญจนบุรีและราชบุรี
ในเรื่องโทรศัพท์มือถือเฮาส์แบรนด์ของซีเอสซี นายพิชัย เปิดเผยว่า “ในขณะนี้ ซีเอสซีกำลังออกแบบสินค้าอยู่ ซึ่งมีทั้งฟีเจอร์โฟนและสมาร์ทโฟน จะใช้ชื่อแบรนด์ CSC โดยที่ฟีเจอร์โฟนราคาจะไม่เกิน 1,500 บาท ส่วนสมาร์ทโฟน ราคาอยู่ที่ 2,000 — 6,000 บาท สินค้าทั้งหมดคาดว่าจะเปิดตัวได้ในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ มือถือแบรนด์ CSC จะเน้นจับกลุ่มลูกค้าระดับกลางลงไป และจะวางขายทั่วประเทศ” นายพิชัย กล่าว
ด้านนายราเชนทร์ อ่วมแก้ว กรรมการผู้จัดการ ซีเอสซี กล่าวว่า “ในปีนี้ ซีเอสซีตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 3,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 90% ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้า และในปีหน้า ตั้งใจจะเพิ่มการเติบโตเป็นเท่าตัว โดยเล็งยอดขายไว้ที่ 5,000 — 6,000 ล้านบาท และจะขยายทีมงานมากขึ้นอีก 30% เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มโทรศัพท์มือถือ ที่จะนำทีมงานของบลิส-เทลเข้ามาผนึกกำลัง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการให้บริการลูกค้าได้เป็นอย่างดี ส่วนในเรื่องของสินค้า ซีเอสซียังคงขายสินค้าอินเตอร์แบรนด์เท่านั้น โดยในส่วนคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก จะเน้นแบรนด์ เอซุส เอเซอร์ เอชพี ซัมซุง เดลล์ โตชิบา และเลอโนโว ในส่วนโทรศัพท์มือถือ จะมีทั้งฟีเจอร์โฟนและสมาร์ทโฟนของแบรนด์หลักๆ ได้แก่ ซัมซุง โนเกีย เอชทีซี แบล็คเบอรี่ โมโตโรล่า ออปโป้“
“บริษัทฯ ยังตั้งงบการตลาดในปีหน้าไว้ทีราว 50 — 60 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 20 ล้านบาทในปีนี้ เพื่อทำโปรโมชั่น และการสื่อสารไปยังให้ลูกค้าทั่วประเทศ เพิ่มกระแสการรับรู้และการตอบรับในแบรนด์ซีเอสซีได้อย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน ซีเอสซี อยู่ในท็อป 3 ของธุรกิจร้านรีเทลสินค้าไอที ซึ่งเราตั้งใจจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาด และก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งภายในสามปี ทั้งในด้านยอดขายและจำนวนหน้าร้าน”
“นอกจากนี้ ซีเอสซียังได้จัดงาน “CSC ก้าวเข้าสู่ปีที่ 30”ขึ้น โดยนำสินค้าคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กแบรนด์ดังมาลดมาราคาพิเศษ เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้า เนื่องในโอกาสก้าวเข้าสู่ปีที่ 30 ของบริษัทฯ ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 16 — 26 สิงหาคมนี้ ตั้งแต่ 11.00 — 20.00 น. ที่พันธุ์ทิพย์ประตูน้ำและพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน โดยในงาน ซีเอสซีได้เตรียมโปรโมชั่นไว้มากมาย ตั้งแต่การแลกรับของพรีเมียมสินค้าไอทีทันที เมื่อนำใบปลิวประชาสัมพันธ์งานไปแสดงกับเจ้าหน้าที่ซีเอสซีภายในงาน การประมูลสินค้าดังราคาต่ำกว่าราคาตลาด ทั้งโน้ตบุ๊ก และโทรศัพท์มือถือไม่ว่าจะเป็น Samsung Galaxy S3, HTC One X หรือ Nokia Lumia 900 รวมถึงโปรโมชั่นสุดพิเศษ ซื้อโน้ตบุ๊กแถมมือถือ พร้อมซิม” นายราเชนทร์ กล่าวทิ้งท้าย