กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--ธนชาติ
บริษัทเงินทุน ธนชาติ ประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทฯและบริษัทย่อยในไตรมาสที่ 2 ของปี 2548 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 781 ล้านบาท สำหรับในงวด 6 เดือนแรกของปี 2548 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,468 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 5.6% การเพิ่มขึ้นของกำไรมาจากการที่สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของบริษัทมีการขยายตัวอย่างมาก
นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเงินทุน ธนชาติ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ของปี 2548 ว่า บริษัทฯและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิเท่ากับ 781 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 20 ล้านบาท หรือลดลง 2.5% สำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2548 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,468 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 78 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.6% และมีกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 1.10 บาท
การเพิ่มขึ้นของกำไรมาจากการที่สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของบริษัทมีการขยายตัวอย่างมากถึง34.3% ซึ่งทำให้รายได้จากการให้เช่าซื้อรถยนต์เพิ่มขึ้นถึง 34.0% นอกจากนั้นแล้วผลประกอบการของธนาคารธนชาต ก็ยังมีกำไรที่ยังคงเติบโตดี แม้ว่าจะเป็นช่วงที่ธนาคารมีการขยายสาขาอย่างมากซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง
สำหรับสินทรัพย์รวมของบริษัทฯและบริษัทย่อย ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ของปี 2548 เท่ากับ 207,275 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2547 จำนวน 22,231 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.0% โดยส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของยอดลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น 14,037 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15.8%
อนึ่งเมื่อกลางเดือนกรกฎาคม 2548 ที่ผ่านมา บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดอันดับเครดิตบริษัทเงินทุน ธนชาติ และหุ้นกู้ไม่มีประกันมูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท ที่ระดับ “A” พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตองค์กรและตั๋วแลกเงิน 1,200 ล้านบาท ของธนาคารธนชาต ที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” เช่นเดียวกัน
โดยอันดับของ บริษัทเงินทุน ธนชาติ อยู่บนพื้นฐานของความสามารถของคณะผู้บริหารของบริษัท ตลอดจนการมีฐานะทางการตลาดในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ที่แข็งแกร่ง ระบบบริหารความเสี่ยงที่ดี ผลประกอบการทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และฐานรายได้ที่กระจายตัวไปยังค่าธรรมเนียมและบริการ การจัดอันดับยังพิจารณาถึงแนวโน้มธุรกิจสินเชื่อรายย่อยที่ยังมีโอกาสขยายตัวได้และแนวโน้มของตลาดหลักทรัพย์ในระยะปานกลางที่สัมพันธ์กับภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิตสะท้อนถึงความคาดหมายที่บริษัทจะมีผลประกอบการทางการเงินระยะปานกลางตามที่ได้คาดการณ์ไว้ การปรับโครงสร้างองค์กรเป็น Holding Company คาดว่าจะดำเนินไปด้วยความราบรื่น ในขณะที่ระบบบริหารความเสี่ยงของบริษัทที่เป็นที่ยอมรับและฐานเงินทุนที่เพียงพอจะช่วยลดความเสี่ยงของบริษัทได้ในอนาคต
ส่วนอันดับเครดิตของธนาคารธนชาตสะท้อนสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ตลอดจนผู้บริหารที่มีความสามารถและประสบการณ์ในธุรกิจหลักในอนาคตของธนาคารคือสินเชื่อเช่าซื้อ นอกจากนี้เครดิตดังกล่าวยังพิจารณาถึงแนวโน้มของการเติบโตของสินทรัพย์และเงินฝากของธนาคารภายหลังการปรับโครงสร้างธุรกิจของกลุ่มธนชาตและการขยายสาขาของธนาคารในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ในขณะที่แนวโน้มเครดิตให้ความสำคัญกับบทบาทที่ธนาคารได้รับในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจหลักทางด้านธนาคารพาณิชย์และการเงินของกลุ่ม นอกจากนี้ยังคำนึงถึงตำแหน่งการตลาดที่แข็งแกร่งและความคาดหวังที่บริษัทแม่จะถ่ายโอนธุรกิจหลักของกลุ่มคือสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์สู่ธนาคารได้อย่างราบรื่น โดยคาดว่าอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยที่สูงขึ้นและความสามารถในการเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมของธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อน่าจะช่วยบรรเทาภาวะต้นทุนทางการเงินของธนาคารในช่วงขยายเครือข่าย นอกจากนี้แนวโน้มดังกล่าวยังมาจากความคาดหวังที่ตลาดสินเชื่อเช่าซื้อยังคงเติบโตต่อไปในอีก 2-3 ปีข้างหน้าด้วย
เผยแพร่ข่าวโดย กลุ่มธนชาต
ข้อมูลเพิ่มเติม ศตวรรษ เสือแก้ว
0-2658-1444 ต่อ 3021--จบ--
- ๑๐:๔๙ กลุ่มธนชาต เครือเอ็ม บี เค และบริษัทพันธมิตร ร่วมสนับสนุนเงินแก่มูลนิธิรามาธิบดีฯ 10.44 ล้านบาท เพื่อสมทบทุนโครงการอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีและย่านนวัตกรรมโยธี
- ๒๔ พ.ย. เอ็ม บี เค จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567
- ๒๔ พ.ย. กลุ่มธนชาต เครือเอ็ม บี เค และ ทีเอ็มบีธนชาต ร่วมสนับสนุนเงินแก่มูลนิธิรามาธิบดีฯ 7.87 ล้านบาท เพื่อสมทบทุนโครงการอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีและย่านนวัตกรรมโยธี