กรุงเทพฯ--25 ม.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บมจ. เคพีเอ็น ออโตโมทีฟ เตรียมเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นลำดับที่สองของปี และของหมวดยานยนต์ หลังระดมทุนกว่า 300 ล้านบาท รองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรม
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อนุมัติรับหุ้นสามัญจำนวน 100,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5.00 บาท ของบริษัท เคพีเอ็น ออโตโมทีฟ จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในกลุ่มวัตถุดิบและสินค้าอุตสาหกรรม หมวดยานยนต์ และเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. 48 เป็นต้นไป ใช้ชื่อย่อว่า “KPN”
“KPN เป็นบริษัทจดทะเบียนลำดับที่ 2 ของปีนี้ ซึ่งทั้ง 2 บริษัทจดทะเบียนที่เข้าใหม่เป็นบริษัทที่อยู่ในหมวดยานยนต์เช่นเดียวกัน สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของอุตสาหกรรม และความน่าสนใจของตลาดทุนในฐานะแหล่งระดมทุนที่รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ของประเทศ ในขณะเดียวกัน การเข้ามาจดทะเบียนของธุรกิจในหมวดนี้เพิ่มมากขึ้น จะทำให้ผู้ลงทุนมีทางเลือกที่จะลงทุนในสินค้าคุณภาพมากขึ้นด้วย ปัจจุบันมูลค่าตลาดรวมของหมวดยานยนต์คิดเป็นประมาณ 41,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.86 ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม” นางสาวโสภาวดีกล่าว
บมจ. เคพีเอ็น ออโตโมทีฟ (KPN) มีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว 500,000,000 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 77,358,626 หุ้น หุ้นสามัญเพิ่มทุน 22,641,374 หุ้น รวม 100,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5.00 บาท
ในระหว่างวันที่ 17 — 19 ม.ค. 48 KPN ได้เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก จำนวน 22.5 ล้านหุ้นราคาหุ้นละ 15 บาท มีอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E Ratio)ที่ 10.35 เท่า เปรียบเทียบกับค่า P/E Ratio ของหุ้นในหมวดยานยนต์ ซึ่งมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 13.98 เท่า
นอกจากนี้KPN ได้เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ผู้บริหาร คณะกรรมการ และพนักงาน จำนวน 141,374 หุ้น ราคาหุ้นละ 12.75 บาท และมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (green shoe option) จำนวน 3,358,626 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 14.6 ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายในครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยรักษาเสถียรภาพของระดับราคาหุ้น โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายที่จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนผ่านไอพีโอราว 320 ล้านบาท ไปซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ เพื่อขยายกำลังการผลิตในธุรกิจผลิตชิ้นส่วนทุบขึ้นรูป และธุรกิจผลิตชิ้นส่วนพลาสติก ชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงินบางส่วน รวมถึงสำรองไว้เป็นเงินทุนหมุนเวียน นอกจากนี้ ยังมีโครงการขยายสาขาเคพีเอ็น พลัสในปี 2548 และ 49 สำหรับนโยบายจ่ายเงินปันผล KPN มีนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีและสำรองตามกฎหมาย
KPN และบริษัทย่อย (บมจ.เค พี เอ็น พลาสติค บจ.เคพีเอ็น-เอสที ลอจีสติคส์ บจ.เคพีเอ็น-เอสที คลังสินค้า และบจ.เคพี เอ็น พลัส) ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ ได้แก่ การผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนโลหะทุบขึ้นรูป และชิ้นส่วนพลาสติก เพื่อใช้เป็นส่วนประกอบรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ในครัวเรือน รวมไปถึงธุรกิจแฟรนไชส์ค้าอะไหล่และอุปกรณ์ตกแต่งรถจักรยานยนต์ ธุรกิจคลังสินค้าและกระจายสินค้าครบวงจร มีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ ครอบครัวณรงค์เดช ถือหุ้นในสัดส่วนรวม 60.27% ของทุนเรียกชำระแล้วหลังไอพีโอ
ผู้สนใจข้อมูลเพิ่มเติมของบมจ.เคพีเอ็น ออโตโมทีฟ สามารถดูได้ที่เว็บไซต์ของบริษัทที่www.kpnautomotive.com หรือ เว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ www.set.or.th และเว็บไซต์ บ.เซ็ทเทรด ดอท คอม ที่ www.settrade.com
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036/
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 — 2037 /
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049--จบ--