เครือข่ายครอบครัวฯรุกรัฐบาล เสนอ 5 ยุทธศาสตร์เร่งด่วน เป็น “วาระแห่งชาติ”

จันทร์ ๑๔ มีนาคม ๒๐๐๕ ๑๖:๒๘
กรุงเทพฯ--14 มี.ค.--สถาบันครอบครัวรักลูก
เครือข่ายครอบครัวฯรุกรัฐบาล เสนอ 5 ยุทธศาสตร์เร่งด่วน เป็น “วาระแห่งชาติ” เน้น”การเรียนรู้” พื้นที่สร้างสรรค์ คุมสื่อ บังคับกม.ลาคลอดจริงจัง จี้”นายกพบพ่อแม่”จึงคลิ๊ก
เครือข่ายองค์กรฯด้านครอบครัวข้อเสนอเชิงนโยบายและยุทธศาสตร์เร่งด่วนต่อรัฐบาลผ่านจาตุรนต์ เป้าหมายให้ครอบครัวมีสุข เป็นปึกแผ่น และมีโอกาสเรียนรู้ เสนอ 5 ยุทธศาสตร์เร่งด่วนเป็น “วาระแห่งชาติ” สร้างพื้นที่จัดการเรียนรู้ ให้ทุกชุมชน “ขยายพื้นที่สร้างสรรค์ จำกัดพื้นที่ไม่สร้างสรรค์” พัฒนาสื่อ จำกัดควบคุมสื่อเลว ปรับปรุงกฎหมาย,สวัสดิการ บังคับใช้กฎหมายลาคลอดจริงจัง จาตุรนต์รับยังไม่มีระบบและหน่วยงานทำเรื่องนี้โดยตรงต้องเอาประเด็น “ครอบครัว”เป็นตัวตั้ง วุฒิฯดำรง จี้เรื่อง “สื่อ”ต้องจริงจัง และสร้างโอกาสเรียนรู้ ดร.อมรวิชช์ ชี้ “นายกพบพ่อแม่”จึงจะคลิ๊ก
เมื่อวันที่ 11 มีนาที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมใหญ่ บ.รักลูกแฟมิลี่กรุ๊ป จำกัด นางสุภาวดี หาญเมธี ประธานสถาบันครอบครัวรักลูก และตัวแทนเครือข่ายองค์กรที่ทำงานด้านครอบครัวและเด็กอาทิ มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว, ศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย, มูลนิธิห่วงใยเยาวชน, สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว, สหทัยมูลนิธิ, มูลนิธิสุขภาพไทย ฯลฯ ยื่นข้อเสนอเชิงนโยบายและยุทธศาสตร์เร่งด่วนด้านครอบครัวในรอบ 4 ปีของรัฐบาลทักษิณ 2 ผ่านนายจาตุรนต์ ฉายแสง รองนายกรัฐมนตรี เสนอให้รัฐวางเป้าหมายให้ครอบครัวเป็นสุขเป็นปึกแผ่น และมีโอกาสเรียนรู้
เครือข่ายฯได้เสนอยุทธศาสตร์เร่งด่วน 5 ยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย
1.ให้เรื่องครอบครัวเป็น “วาระแห่งชาติ” ระดมทุกองค์กรของสังคม, ทุกส่วนทั้งภาครัฐทุกกระทรวง ทุกระดับจากส่วนกลางถึงจังหวัดและ ท้องถิ่น เอกชน และชุมชนท้องถิ่นตระหนักความสำคัญ,สำรวจและทบทวนเพื่อหาทางใช้กลไกของรัฐและสังคมมาร่วมกันส่งเสริมให้โอกาส และปกป้องคุ้มครองครอบครัวจริงจังเพื่อให้ครอบครัวสามารถดำรงรักษา และทำหน้าที่ของตนได้อย่างเต็มศักยภาพ
2.สร้างพื้นที่จัดการเรียนรู้ด้านครอบครัวให้เต็มประเทศ ใช้ทุกรูปแบบ ใช้ทุกกลไก โดยระดมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จัดเป็นภารกิจสร้างการเรียนรู้สู่ครอบครัวในทุก “ชุมชน” เด็กและเยาวชนทุกคนได้เรียนรู้ด้าน “ครอบครัวศึกษา” อย่างเหมาะสมกับวัย ในระบบและนอกระบบโรงเรียน คนหนุ่มสาว/คู่สมรสให้มีโอกาสเรียนรู้ผ่านกิจกรรมและสื่อต่างๆเพื่อเตรียมพร้อมก่อนตั้งครอบครัว พ่อแม่มีโอกาสเรียนรู้เพื่อพัฒนาลูก พัฒนาตนและความสัมพันธ์ ตามวัย ต่อเนื่อง ตลอดวงจรชีวิต มีเวทีให้ครอบครัวได้สื่อสารแลกเปลี่ยนกันในชุมชน
3.ให้มีพื้นที่สาธารณะ “คุณภาพ”สำหรับเด็กและครอบครัวในทุกชุมชน “ขยายพื้นที่สร้างสรรค์ จำกัดพื้นที่ไม่สร้างสรรค์” เพิ่มพื้นที่คุณภาพทางด้านกายภาพ เพิ่มสวนสาธารณะ สนามเด็กเล่นปลอดภัยในชุมชน เพิ่มลานกีฬา เพิ่มห้องสมุด เพิ่มพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ เพิ่มพื้นที่กิจกรรม(ที่ไม่ยึดติดทางกายภาพ)พัฒนากิจกรรมแก่เด็กและครอบครัวอย่างทั่วถึงทุกระดับ ไม่เฉพาะในเมือง ให้ครอบครัวกลุ่มต่างๆสามารถเข้าถึงได้โดยง่าย จัดระบบ “โซนนิ่ง” พื้นที่ไม่สร้างสรรค์อย่างจริงจังในทุกชุมชน
4. พัฒนาสื่อสร้างสรรค์ต่อครอบครัว จำกัดควบคุมสื่อที่ทำร้ายเด็กและครอบครัวอย่างจริงจัง ส่งเสริมการผลิตและเผยแพร่สื่อคุณภาพจริงจัง รณรงค์ใหญ่ในเรื่องครอบครัวผ่านสื่อมวลชนทั้งประเทศ จัด rating สื่อ เด็ดขาดในการกำจัดสื่อลามก สื่อรุนแรง หนุนกลไกภาคประชาคมในการเฝ้าระวังสื่อ
5. ปรับปรุงกฎหมายและระบบสวัสดิการเพื่อปกป้องและช่วยเหลือครอบครัวทุกกลุ่มให้เกิดผลบังคับใช้กฎหมายลาคลอดให้จริงจัง ลงโทษนายจ้างที่ฝ่าฝืน ใช้มาตรการทางภาษีจูงใจให้สถานประกอบการลงทุนในสวัสดิการครอบครัว ; ศูนย์เลี้ยงเด็ก วันหยุด วันลา ฯลฯ และเพิ่มความช่วยเหลือแก่ครอบครัวที่ยากลำบากพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว พ่อแม่ที่มีลูกพิการ พ่อแม่ที่ยากจนฯลฯอย่างเหมาะสมพอเพียง
สำหรับข้อเสนอดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า หากรัฐฯทอดทิ้งการพัฒนาครอบครัว พ่อแม่ย่อมขาดความสามารถในการดูแลเด็กและครอบครัวตนเอง รัฐบาลก็ไม่อาจหวังได้ว่าคนไทยจะสามารถยืนอยู่ได้อย่างเข้มแข็งในโลกแห่งการแข่งขัน เพราะสถานการณ์ครอบครัวไทยปัจจุบันมีปัญหาและมีแนวโน้มแย่ลงเรื่อยๆ ปัจจุบันครอบครัวเดี่ยวในสังคมไทยมี 55.5 % ครอบครัวขยายเหลือ 32.1 % (2545) อัตราจดทะเบียนสมรส ลดลง 8% ในเวลา 5 ปี การอยู่ร่วมกันโดยไม่จดทะเบียนสูงขึ้น อัตราการหย่าร้างสูงขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะเขตกรุงเทพและปริมณฑลครอบครัวไทยที่แตกแยกหย่าร้าง 3 ล้านครอบครัว คิดเป็น 20% ของจำนวนครอบครัวเดี่ยวทั้งหมด 16 ล้านครอบครัว ครอบครัวแบบพ่อหรือแม่คนเดียวเลี้ยงลูก(single-parent family) มีถึง 1.3 ล้านครอบครัว
ในข้อเสนอดังกล่าวระบุต่อไปว่า ปัจจุบันครอบครัวไทยอ่อนแอไม่สามารถหล่อหลอมและปลูกฝังค่านิยมคุณธรรมแก่บุตรหลานได้ เพราะมุ่งหาเงินเป็นหลักจนไม่ให้เวลา, ไม่เข้าใจต่อบทบาทหน้าที่, ขาดความเชื่อมั่นต่อบทบาทของตน ผลักภาระให้แก่สถาบันอื่น เช่น สถาบันการศึกษา สื่อมวลชน ฯลฯ ซึ่งก็ไม่สามารถรับบทบาทแทนได้ ครอบครัวขาดสัมพันธภาพที่เกื้อหนุนกัน ครอบครัวเดี่ยวขาดญาติพี่น้องช่วยประคับประคอง ค่านิยมชีวิตแบบตัวใครตัวมัน การหย่าร้างแตกแยก ผู้สูงอายุถูกทอดทิ้ง ฯลฯ
ครอบครัวขาดความสามารถในการปกป้องสมาชิกโดยเฉพาะในเด็กและเยาวชน จากภัยต่างๆ ที่อยู่ในสังคมภายนอกที่มาจาก ความรู้ไม่เท่าทันสื่อและกระแสโลก ติดยาเสพติดง่าย การยั่วยุและการสำส่อนทางเพศที่สูงขึ้น การตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ การติดโรคเอดส์ในเด็กสูงขึ้น การบริโภคเกินตัว วัตถุนิยม ความรุนแรงในเด็กสูงขึ้น เป็นต้น ครอบครัวขาดหลักยึดในการดำเนินชีวิตและไม่สามารถแก้ปัญหาต่างๆที่เผชิญได้อย่างเหมาะสม ใช้ความรุนแรง แตกแยกหย่าร้างโดยง่าย มีหนี้สิน ทอดทิ้งบุตร ครอบครัวขาดโอกาสเรียนรู้ เข้าใจสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นกับครอบครัวตนเองในช่วงเวลาต่างๆ(มีลูกอ่อน ลูกวัยรุ่น พ่อแม่แก่เฒ่า ฯลฯ) และเรียนรู้เพื่อให้เท่าทันกับโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ขาดกลไกสนับสนุนครอบครัวไม่ว่าจากภาครัฐ /ภาคเอกชน หรือในชุมชน ยังมีค่านิยมว่าเรื่องของครอบครัวเป็นเรื่องส่วนตัว
นอกจากนี้ทิศทางเศรษฐกิจของสังคม การไหลบ่าทางวัฒนธรรมผ่านสื่อ ทิศทางการศึกษา ยังเป็นปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบสำคัญและรุนแรงต่อครอบครัว และเด็กเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากครอบครัวที่อ่อนแอโดยตรง โครงการเด็กไทยรู้ทันพบว่า เด็กและเยาวชนอายุ 5-24 ปีใช้เงินซื้อขนมปีละ 161,580 ล้านบาท(มากกว่างบประมาณของ 6 กระทรวงรวมกัน) แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยชี้ว่า เด็กอ้วนเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างน่าตกใจ ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพนานัปการเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ สำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า วัยรุ่นสตรี 15-19 ปีมีอัตราการบริโภคสุราเพิ่มสูงสุด คือ 5.6 เท่าในช่วงเวลา 12 ปี โครงการวิจัยระยะยาวในเด็กไทยพบว่า เด็กในชนบทร้อยละ 37.3อยู่ในความดูแลของปู่ย่าตายายในชนบท และเด็กกำพร้าหรือที่อยู่กันตามลำพังมีถึง 8.2 % สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติชี้ว่า การติดเอดส์ในวัยรุ่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะวัยรุ่นหญิง 15-19 ปี
คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ และ Child Watch พบว่าวัยรุ่นช่วงมัธยมและอุดมศึกษาอยู่ในวงจรพนันบอลถึง 400,000-500,000 คนหรือ 5% ของกลุ่มอายุและคิดเป็น 25% ของคนที่เล่นพนันบอลทั้งหมด สถาบันวิจัยประชากรและสังคม ม.มหิดลชี้ว่า วัยรุ่นไทยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกที่อายุเฉลี่ย 14-18 ปี และมีแนวโน้มว่าอายุจะต่ำลงเรื่อยๆ เอแบคโพลพบว่า วัยรุ่นนิยมซื้อสินค้ามียี่ห้อมากขึ้นทั้งที่ยังไม่มีรายได้ สถาบันดูเร็กซ์ ทำวิจัยพบว่า
- เด็กไทยมีค่านิยมมีคู่นอนมากกว่า 1 คน “สูงที่สุดในโลก”
- เด็กไทยเริ่มเรียนรู้เพศศึกษา “ช้าที่สุดในโลก”
- เด็กไทยใช้ถุงยางเมื่อมีเซ็กส์ครั้งแรก “น้อยที่สุดในโลก”
- พ่อแม่ไทยมีการสอนเรื่องเพศแก่ลูก “น้อยที่สุดในโลก”
เครือข่ายองค์กรฯระบุว่า รัฐบาลยังต้องทบทวนและปรับนโยบายด้านเศรษฐกิจและด้านอื่นๆให้มาอยู่ในจุดที่สมดุลกับการพัฒนาคนและสังคมด้วย
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รองนายกรัฐมนตรีรับข้อเสนอโดย กล่าวว่า รัฐบาลเองให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ โดยได้ส่งเสริมการสร้างห้องสมุด และกำลังสร้างพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ของประเทศขึ้นมาถึง 4 แห่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่นายกฯเรียกว่า “แหล่งมั่วสุมเชิงสร้างสรรค์” และกำลังบังคับใช้ กม.ความรุนแรงในครอบครัว มีประเด็นปัญหาเรื่องความรุนแรงในเด็ก โดยเฉพาะเรื่องความรุนแรงที่เกิดจากสื่อลามก อินเตอร์เน็ต และเหล้า-บุหรี่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ นอกจากนั้นยังเป็นเรื่องของระบบที่สังคมไทยยังขาดอยู่ คือ เรื่องครอบครัว เพราะปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสื่อ เรื่องปัญหาเด็ก เยาวชน เป็นเรื่องที่มีผลโดยทางอ้อม แต่ผลที่เกิดขึ้นโดยตรงคือครอบครัว ซึ่งยังไม่มีการจัดการที่เป็นระบบโดยตรง อีกเรื่องคือ ระบบงานของไทย กระทรวงต่างๆ เมื่อย่อยลงมามีหลายหน่วยงานที่รับผิดชอบ ดูแลในเรื่องเด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ คนยากจน คนพิการ เด็กเร่ร่อน แต่กลับไม่มีหน่วยงานใดเลยที่จับปัญหาเรื่องครอบครัวโดยตรง อาจจะเป็นวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นมานาน เดิมเราก็ทราบว่าสถาบันครอบครัวเป็นสถาบันที่มีความเข้มแข็งอยู่ในตัว เป็นธรรมชาติ และมีความสำคัญต่อสังคม และไม่จำเป็นต้องให้ใครมาบอกว่าเราจะต้องทำอะไรกับครอบครัว หรือครอบครัวจะต้องทำอย่างไรถึงจะเป็นครอบครัวที่อบอุ่น จึงทำให้หน่วยงานต่างๆ ไม่ได้เข้ามารับผิดชอบงานด้านครอบครัว
แต่ในระยะหลังครอบครัวได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ วัฒนธรรม ความคิดเห็น วิถีชีวิต ซึ่งสิ่งเหล่านี้กระทบต่อครอบครัวอย่างมาก ทำให้ครอบครัวเกิดปัญหา ทำให้ความเป็นสถาบันครอบครัวที่เข้มแข็ง ที่ช่วยทำให้สังคมอยู่ได้ด้วยความสงบสุข ถูกลดบทบาทลงไป ซึ่งเรื่องนี้ฝ่ายรัฐบาลก็จะต้องคิดต่อว่าจะจัดระบบองค์กรอย่างไร โดยใช้ประเด็น ตัวปัญหาเป็นตัวตั้ง ก็คือคำว่า “ครอบครัว” แล้วไปดูว่ามีเรื่องอะไรที่ต้องไปปฏิบัติบ้าง โดยมีจุดมุ่งหมายร่วมกันว่าถ้าจะแก้กฎหมาย ปรับนโยบายเศรษฐกิจ นโยบายสาธารณสุข ทำอย่างไรถึงจะทำให้ครอบครัวเข้มแข็งขึ้นมาได้ อันดับแรกคือต้องทำให้คนในสังคมทุกคนรู้สึกว่าเรื่องครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญ เรื่องครอบครัว แม้ว่าจะมีคนสนใจมากขึ้น มีองค์ความรู้มากขึ้นในสังคมไทย แต่ผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้ที่สนใจจริงยังเป็นคนส่วนน้อยมาก คนส่วนใหญ่ซึ่งครอบครัวตนเองถูกผลกระทบพ่อแม่ลูกไปคนละทิศคนละทาง ถือว่าสิ่งนี้คือปัญหาที่ครอบครัวได้เผชิญอยู่ซึ่งเป็นเรื่องที่หนักมาก แต่พวกเขาก็ไม่ได้รับรู้ ไม่มีความเข้าใจ ว่านี่คือครอบครัวกำลังถูกผลกระทบ แล้วจะมีวิธีการรับมืออย่างไร จะปรับตัวกันอย่างไร ชุมชนจะทำอย่างไรให้ครอบครัวเป็นอย่างเดิม ซึ่งทุกคนครอบครัว ในชุมชนไม่ได้เข้าใจแบบนี้ ซึ่งเรื่องเหล่านี้จะต้องพัฒนามาเป็นองค์ความรู้ สร้างให้เกิดเป็นสำนึก ทำให้ทุกคนเข้าใจสภาพปัญหาเหล่านี้ร่วมกันเสียก่อน จากนั้นจึงจะนำข้อเสนอนโยบายต่างๆ เข้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์
นายดำรง พุฒตาล ในฐานะสมาชิกวุฒิสภา.ให้มุมมองต่อข้อเสนอฯครั้งนี้ว่าเห็นด้วยว่ารัฐบาลต้องเร่งการพัฒนาสื่อที่สร้างสรรค์ต่อครอบครัว จำกัดควบคุมสื่อที่ทำร้ายเด็กและครอบครัวอย่างจริงจัง เด็ดขาดในการกำจัดสื่อลามก สื่อรุนแรง หนุนกลไกภาคประชาคมในการเฝ้าระวังสื่อ ไม่อย่างนั้นปัญหาที่สังคมไทยต้องเผชิญอีกปัญหาที่สื่อนำมาให้คือเกิดโรค”อ้วน”จะเป็นโรคระบาดในเด็กไทย ทำให้อนาคตของชาติ”เตี้ย”และ”โง่”ลง และตายเร็วขึ้น รัฐต้องจัดการกับสื่อในเรื่องนี้อย่างจริงจังโดยระบุต่อไปว่า ในหลายประเทศให้ความสนใจเรื่องนี้อย่างจริงจัง เช่นที่ สวีเดนห้ามโฆษณาสินค้าสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี นอรฺเวย์ห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตลอด 24 ชม.ในสื่อวิทยุโทรทัศน์เป็นต้น และขอสนับสนุนการสร้างโอกาสการเรียนรู้ให้ครอบครัวไทย ต้องมีการจัดการเรียนการสอนให้คนหนุ่มสาวก่อนใช้ชีวิตคู่อย่างกว้างขวางจริงจัง
คนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยรู้ว่าเรามี เนื่องจากรัฐบาลไม่เคยประชาสัมพันธ์ นั่นคือเรื่อง ร่างพรบ.ผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุหมายถึงผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป พรบ.ดังกล่าวบอกไว้ว่า “ผู้สูงอายุสามารถเข้าไปเที่ยวในที่สาธารณะที่เป็นของรัฐโดยไม่ต้องเสียเงินในการเข้าชม” ไม่ว่าจะเป็นสวนสัตว์ วนอุทยาน พิพิธภัณฑ์ ซึ่งพรบ.นี้ได้ใช้มา 2 ปีแล้ว จึงอยากจะเสนอว่า รัฐควรจะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับรู้ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของครอบครัวที่พวกเขาจะต้องรับรู้ ข้อเสนออีกเรื่องคือการเรียนรู้ เขาบอกว่าการขับรถจะต้องมีการสอบใบขับขี่ แต่เวลาแต่งงาน มีครอบครัว กลับไม่มีการเรียนรู้ ผมจึงเห็นว่าเป็นเรื่องดีที่มีการเสนอนโยบายด้านครอบครัวที่เกิดจากภาคีที่ทำงานด้านนี้ และเป็นประเด็นที่น่าฟัง อีกเรื่องที่ถูกมองข้ามไป คือเรื่อง ร่าง พรบ.คุ้มครองเด็ก มาตรา 45 มีว่า ถ้าลูกของท่านอายุต่ำกว่า 18 ปี ไปดื่มสุรา เมื่อตำรวจจับได้จะต้องเชิญพ่อแม่มาเซ็นรับ มาประกันตัว แต่เราก็ไม่เคยเห็นตำรวจไปเชิญพ่อแม่มาทำตามกฎหมายนี้เลย เมืองไทยนั้นกฎหมายไม่ชราภาพ แต่การบังคับใช้ไม่ทำจริง จึงอยากจะขอจากรัฐบาลว่ากฎหมายทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับครอบครัว เด็ก เยาวชน อยากให้ทำจริง และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ
ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ ผู้อำนวยการสถาบันรามจิตติ สนับสนุนว่าต้องจัดการสื่ออย่างจริงจัง ข้อมูลตามหลักวิชาการเด็กที่อายุต่ำกว่า 8 ขวบแยกไม่ออกว่าสิ่งที่สื่อโฆษณาหรือส่งมานั้นดีไม่ดี รัฐต้องมีใช้กลไกดูแลครอบครัวอย่างเต็มที่ หากไม่มาเข้าใจเรื่องนี้อย่างจริงจังปัญหาจะวิกฤติลงทุกที ข้อมูลการสำรวจว่าเด็กไทยที่ต้องคดีมากกว่า 50% เป็นเด็กที่บ้านแตกสาแหรกขาด เสนอให้ “นายกพบพ่อแม่” เพื่อรู้ถึงปัญหาและหัวอกพ่อแม่และได้รับฟังความคิดเห็นเพื่อนำไปสู่การแก้ไขอย่างเร่งด่วน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ ฝ่ายประชาสัมพันธ์
โครงการครอบครัวเข้มแข็ง สถาบันครอบครัวรักลูก
โสภิดา ธนสุนทรกูร(แบม) โทรศัพท์ 0 2913 7555 ต่อ 4640 โทรสาร 0 2831 8499--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version