อมตะคอร์ปอเรชั่นเดินหน้าพัฒนาธุรกิจเมืองทวาย ประเทศพม่า เปิดใจวิวัฒน์ กรมดิษฐ์ กับแผนการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมใหญ่ที่สุดในโลก

จันทร์ ๒๐ สิงหาคม ๒๐๑๒ ๑๖:๔๒
ดร.กฤษติกา คงสมพงษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า กว่า30 ปีที่ศศินทร์เปิดให้บริการสังคมและธุรกิจต่าง ๆ ได้ผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพ ประสบความสำเร็จและสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ทั้งนี้ ศิษย์เก่าที่จบการศึกษาออกไปนั้นไม่ใช่เฉพาะสาขาการตลาดและนักบริหารธุรกิจเท่านั้น ที่ผ่านมามีทั้งผู้บริหารจากสาขาต่าง ๆ ได้มุ่งเข้ามาเก็บเกี่ยวความรู้ไปใช้ในการทำงาน เช่น แพทย์ เภสัชกร ผู้ประกาศข่าว วิศวกร โปรแกรมเมอร์ ฯลฯ ซึ่งบุคคลจากหลากหลายอาชีพนี้ล้วนแต่มีเป้าหมายเดียวกัน คือการสร้างโอกาสให้กับตนเองโดยไม่ต้องเดินทางไปศึกษาในต่างประเทศ และได้รับการยอมรับจากนานาชาติ

เช่นเดียวกับ ผู้บริหารจากบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ( มหาชน) ที่มีแนวคิดว่าแม้จะทำหน้าที่และมีความรับผิดชอบเรื่องระบบการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม แต่ในฐานะผู้บริหารก็ควรต้องมีความรู้ในเรื่องอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการบริหารธุรกิจ เช่น เรื่องไฟแนนซ์ บัญชี การตลาด เนื่องจากมีความสำคัญต่อการทำงานในทุกอาชีพ จึงเข้ามาเรียนรู้เพิ่มเติมที่สถาบันบัณฑิตฯ ศศินทร์ เพราะเป็นสถาบันมีชื่อเสียงในเรื่องที่เราต้องการจะรู้ และได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ที่สำคัญยังทำให้มีโอกาสได้รู้จักเพื่อนร่วมชั้นเรียนจากหลากหลายอาชีพ ทำให้เกิดคอนเนคชั่นที่ดี และเชื่อว่าการศึกษาต่อที่ศศินทร์เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการทำงานได้เป็นอย่างดี

นายวิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายก่อสร้าง บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ( มหาชน) เปิดเผยถึงการดำเนินธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมว่า สำหรับในประเทศไทยได้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมเพื่อให้บริการภาคธุรกิจต่าง ๆ อยู่ 2 แห่งคือ นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี และนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง แต่ละแห่งมีพื้นที่ประมาณ 2 หมื่นไร่ นอกจากนี้บริษัทยังมีเป้าหมายในการพัฒนาธุรกิจดังกล่าวในต่างประเทศ โดยได้ให้ความสำคัญกับการศึกษาความเป็นไปได้ในประเทศต่าง ๆ เช่น การพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดดองไน ประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมที่ได้พัฒนาระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ ใหม่ทั้งหมด เนื่องจากเวียดนามไว้วางใจและเห็นผลงานด้านการบริหารจัดการของนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ที่เป็นอันดับหนึ่งของอาเซียนและเป็นหนึ่งในห้าของธุรกิจดังกล่าวในภูมิภาคเอเชีย

ล่าสุดนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ได้เข้าไปพัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่เมืองทวาย ประเทศพม่า ซึ่งมีพื้นที่ในการบริหารจัดการถึง 2 แสนไร่ คาดว่าภายในเวลา 5 ปีจะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจากับประเทศต่าง ๆ เพื่อดำเนินโครงการร่วมกัน เช่น ญี่ปุ่นที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยี รวมทั้งประเทศจีนที่ให้ความสนใจด้านการลงทุน

“หากการก่อสร้างที่เมืองทวายแล้วเสร็จจะเป็นนิคมอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และในอนาคตเราจะทำให้เป็น Perfect city ทั้งในประเทศไทย เวียดนาม และทวาย โดยเฉพาะที่ทวายซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก เนื่องจากพม่ามีพื้นที่ใหญ่กว่าประเทศไทยและมีทรัพยากรที่ยังอุดมสมบูรณ์ สำหรับการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่ทวายเป็นโครงการใหญ่อันดับหนึ่งของโลก เนื่องจากจะมีอุตสาหกรรมหนักที่มีการผลิตตลอด 24 ชั่วโมง และบริษัทต่าง ๆ ต้องการมาตั้งฐานการผลิตที่ทวาย เพราะจะมีการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึก ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนแปลงเส้นทางการเดินเรือขนส่งสินค้าในแถบเอเชีย ที่ทำให้ย่นระยะทางการเดินเรือและสะดวกในการขนถ่ายสินค้าไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก” นายวิวัฒน์ กล่าวและให้ความเห็นว่า การพัฒนานิคมอุตสาหกรรมไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะหากเน้นเรื่องการทำธุรกิจนี้ให้ดีที่สุดจะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย เนื่องจากอุตสาหกรรมที่เข้ามาอยู่ในนิคมจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบตามที่กำหนดไว้

ที่ผ่านมานิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ได้เข้มงวดกับเรื่องกฎระเบียบเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ได้รับมาตรฐาน ISO 14000 ที่นำไปใช้กับนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ เพื่อให้มีสภาพแวดล้อมที่ดี เป็นทั้งเมืองทำงาน และที่อยู่อาศัย มีสาธารณูปโภคพร้อมเพื่อให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งนี้นิคมอุตสาหกรรมอมตะนครได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของสิ่งแวดล้อมในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสียง มลภาวะทางอากาศ การบำบัดน้ำเสีย รวมทั้งการจัดการกับขยะที่เป็นพิษฯลฯ เนื่องจากมีการตรวจสอบวัดมาตรฐานทุกโรงงาน

นายวิวัฒน์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การสร้างนิคมอุตสาหกรรมที่ทวายมีส่วนสำคัญในการสร้างงาน สร้างเศรษฐกิจ สร้างฐานการผลิตอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ระดับโลกให้กับภูมิภาคเอเชีย โดยในระยะแรกได้ให้ความสำคัญกับการสร้างงาน เนื่องจากการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมที่ทวายนั้นต้องใช้แรงงานจำนวนมาก ขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมเรื่องแรงงานไว้แล้ว โดยนำแรงงานพม่ามาฝึกในนิคมฯที่มีอยู่ เพื่อให้มีความเชี่ยวชาญ สำหรับแรงงานไทยนั้นยังคงเป็นที่ต้องการสูง เนื่องจากมีศักยภาพในด้านความรู้และความเชี่ยวชาญ ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบของแรงงานไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๐ รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๑๖:๑๐ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๑๖:๕๒ โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๑๕:๒๖ กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๑๕:๐๑ สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๑๕:๒๙ 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๑๕:๐๘ โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๑๕:๕๒ electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version