4 ตุลาถึงเวลาที่พวกเขาทั้ง 5 จะพา “ยักษ์” ออกเดิน

ศุกร์ ๒๔ สิงหาคม ๒๐๑๒ ๐๙:๕๗
“ยักษ์”โปรเจ็คต์ภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่นฟอร์มยักษ์ทุนสร้างกว่า100ล้านบาทที่ค่ายหนังยักษ์ใหญ่อย่าง “สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล” จับมือร่วมกับ3พันธมิตรอย่างบ้านอิทธิฤทธิ์ โปรดักชั่นเฮาส์ทีมผลิตแอนิเมชั่นที่คร่ำหวอดและอยู่เบื้องหลังงานโฆษณา,มิวสิควิดีโอและภาพยนตร์ต่างๆ มานับไม่ถ้วน บ.ซูเปอร์จิ๋ว ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์วาไรตี้ขวัญใจเด็กๆและคุณพ่อคุณแม่ยืนหยัดยาวนานมากว่า21ปีและบ.เวิร์คพอยท์พิคเจอร์สในการผนึกกำลังสร้างสรรค์ภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่นสายเลือดไทยที่กลั่นจากสมองและสองมือกำกับของ พี่จิก ประภาส ชลศรานนท์ ครีเอทีฟนักคิดนักเขียนนักแต่งเพลง ฯลฯ อันดับต้นๆ ของประเทศที่คิดฝันอยากทำการ์ตูนมาค่อนชีวิต ผ่านลายเส้นดีไซน์การออกแบบอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยเอ็กซ์ ชัยพร พานิชรุทติวงศ์ (ชนะเลิศ FIRST PRIZE:SIGGRAPH 1998 ซึ่งเปรียบได้กับรางวัลออสการ์สำหรับนักศึกษา)การประกวดผลงานแอนิเมชั่น ประเภทนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยทั่วโลก โดยใช้เวลากว่า 6 ปีจนถึงวันนี้พวกเขาพร้อมแล้วที่จะร่วมกันพา “ยักษ์” ออกเดินเข้าไปอยู่ในใจคอการ์ตูนแอนิเมชั่นอย่างภาคภูมิใจ 4 ต.ค.นี้ทุกโรงภาพยนตร์ทั่วไทยทั้งในแบบเสียงไทยและเสียงภาษาอังกฤษ

เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ ผู้สร้างแอนิเมชั่น “ยักษ์”

หัวเรือใหญ่แห่งค่ายหนังใหญ่ยักษ์ “สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล

“ตั้งแต่คุณจิกมาเสนอชวนทำโปรเจ็คต์ยักษ์ด้วยกันว่าอยากหยิบรามเกียรติ์มาทำหนังโดยเอาทศกันฐ์ หนุมานมาทำเป็นหุ่นแล้วสู้กัน แน่นอนว่าเรื่องทศกันฐ์มันดีแน่ ใครๆ ก็รู้จักไม่ใช่แค่เมืองไทยด้วย เพราะเรื่องรามเกียรติ์เป็นเรื่องของเอเชีย ผมยังคิดในใจว่าการ์ตูนที่จะสร้างจะออกมาเป็นอย่างไรนี่เป็นหนังเรื่องแรกที่เราร่วมกับคุณจิกประภาส ชลศรานนท์ และเวิร์คพอยท์พิคเจอร์โดยเขาได้ไปชักชวนพรรคพวกมาร่วมทุนด้วยอย่างบ้านอิทธิฤทธิ์, ซูเปอร์จิ๋ว เราลงทุนไป 100 กว่าล้าน รอจนถึงวันนี้การ์ตูนเสร็จแล้ว ลองคิดในใจดูว่าเรารอมา 5-6 ปีกว่าจะได้เห็นภาพนี้ ยังจำได้วันที่คุณจิกชวนผมดูหนัง โอ้โห! คิดไม่ถึงว่าทางคุณจิกจะทำออกมาได้ดีอย่างนี้ ภาพทุกภาพสวยมากมีครบทั้งฉากบู๊ฉากรบตอนสนุกต่อสู้ผจญภัยแล้วตัวหนังก็สนุกมาก เป็นหนังการ์ตูนที่ครบรสพูดได้ว่ารู้สึกพอใจมาก อยากเชิญชวนให้คนดูทุกคนลองมาดูหนังการ์ตูนคนไทยเรื่องนี้ ว่าคนไทยเราก็มีฝีมือนะอย่างน้อยๆ ช่วยให้กำลังใจคนไทยบ้างที่ทุ่มเททำผลงานออกมาได้ขนาดนี้ เพื่อที่จะได้มีคนไทยที่ยังทำหนังการ์ตูนต่อไปได้อีก ส่วนตัวผมรู้สึกภูมิใจและพอใจอย่างมาก คุณจิกทำได้ดีมากๆ”

“โอ๋-พาณิชย์ สดสี” หัวเรือใหญ่ “เวิร์คพอยท์พิคเจอร์ส”

ผู้ควบคุมงานสร้างแอนิเมชั่น“ยักษ์”

“คือการ์ตูนแอนิเมชั่นเรื่องยักษ์เป็นหนังที่เป็นเรื่องราวของเพื่อน เราได้แรงบันดาลใจมาจากรามเกียรติ์ แต่ว่าไม่ใช่รามเกียรติ์เอามาสร้างใหม่นะ มันเป็นเรื่องเล่าอีกอย่างเลย มันคือศัตรูเก่าที่รบกันมาทุกเวอร์ชั่นของทุกประเทศในเอเชีย เล่าใหม่ในเวอร์ชั่นที่เป็นเพื่อนกัน ศัตรูที่ความทรงจำหายไปมาเป็นเพื่อนกัน ความทรงจำกลับคืนมาจะเกิดอะไรขึ้น ในเมื่อคนเป็นเพื่อนกันจำได้ว่าเป็นศัตรูแล้วจะเป็นยังไง เล่าอีกแบบหนึ่งเลย เล่าแบบงานเขียนของพี่จิก เล่าโดยเพลงของพี่จิก เล่าโดยความรู้สึกที่อยากเล่าแบบพี่จิก เล่าโดยลายเส้นการ์ตูนของเอ็กซ์มีความเฉพาะตัวมาก มันน่าจะเป็นส่วนผสมที่ดีมากๆ สำหรับพี่รู้สึกว่านอกจาก บทภาพยนตร์ที่สนุก การออกแบบงานสร้างที่ งดงาม แตกต่าง และมีเอกลักษณ์ เนื้อหาดูแล้วมีอะไรให้คนดูในแง่ ความลึกของเรื่องราวและอารมณ์มากๆ เป็นสิ่งที่จะทำให้ผู้ชมจะสนุกสนานไปกับหนังเอนิเมชั่น”

วิวัฒน์ วงศ์ภัทรฐิติ —ผู้สร้างร่วมภาพยนตร์แอนิเมชั่น “ยักษ์”

พี่ซุป “ซูเปอร์จิ๋ว” ผู้เชื่อมั่นในพลังของการ์ตูนแอนิเมชั่น

“ความทรงจำที่ประทับใจสมัยอดีตของผมก็คือทุกเย็นก่อนกลับบ้าน ครูจะให้นักเรียนทั้งห้องท่องอาขยาน "บัดนั้น พระยาภิเภกยักษีเห็นพระองค์ทรงโศกโศกี อสุรีกราบลงกับบาทาทูลว่าพระลักษณ์สุริยวงศ์ยังไม่ปลงชีวังสังขา อันโมขศักดิ์อสุรา พรหมาประสิทธิ์ประสาทไว้" เราผูกพันกับ รามเกียรติตั้งแต่วันนั้นโตขึ้นมา ความบันเทิงที่สุดของเราก็คือ การดูการ์ตูนทอม แอนด์ เจอรี่, หน้ากากเสือ, โดราเอม่อน ฯลฯเราเป็นเด็กที่โตมากับการ์ตูนต่างชาติ เมื่อถึงวัยทำงาน21ปี ที่มีโอกาสงานสร้างสรรค์รายการซูเปอร์จิ๋ว ประสบการณ์ที่ผูกพันกันทำให้เราเกิด "Dream" มีความฝันว่า วันหนึ่งเราอยากทำแอนิเมชั่นสัญชาติไทยให้ลือลั่นสักครั้งในชีวิต ผมแทบจะตอบรับในทันทีที่ได้รับได้รับคำชวนให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็คต์ภาพยนตร์"ยักษ์"เพราะศรัทธา ในทุกผลงานของพี่จิก ประภาส ชลศรานนท์ เชื่อมือการแอนิเมชั่นของคุณเอ็กซ์ ชัยพร พานิชรุทติวงศ์ และเชื่อมั่นในมุมมองของสหมงคลฟิลม์ฯ หลายปีที่ผ่านมานี้ยักษ์พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ และพร้อมแล้วที่จะให้ทุกคนได้ชม ถึงวันนี้ความตื่นเต้นของเราเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

อยากให้ทุกคนได้ดูได้ชมได้แรงบันดาลใจจากการชมภาพยนตร์"ยักษ์"แอนิเมชั่น สำหรับคนทุกเพศทุกวัยผมเชื่อว่าทุกคนจะรัก และภูมิใจกับ "ยักษ์ "ไปด้วยกันครับ

เอ็กซ์ ชัยพร พานิชรุทติวงศ์

ร่วมกำกับภาพยนตร์และกำกับแอนิเมชั่น “ยักษ์” ผู้ก่อตั้ง “บ้านอิทธิฤทธิ์

“เสน่ห์ของเรื่องนี้น่าจะอยู่ที่บท เป็นสิ่งแรกที่ทำให้ผมและทีมงานอยากทำเลยและบทที่พี่จิกเขียน มันแข็งแรงพอที่จะมาทำการ์ตูน แล้วคาแร็คเตอร์ที่ผมนำไปให้พี่จิกดูมันเข้ากันได้พอดี จนเรามาช่วยกันทำให้มันออกมาสมบูรณ์มากขึ้น เอาความเป็นสากลกับความเป็นไทยมาผสมกัน ที่สำคัญผมรู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่การ์ตูนนะ ผมเคยคุยกับพี่จิกว่าการ์ตูนเรื่องนี้มันเป็นการ์ตูนคน มันเป็นการ์ตูนคนแสดง เราจะทำการเคลื่อนไหวอิงจากคนจริงๆ หมายถึงการเคลื่อนไหวมันจะเป็นตามจริง เช่น ยักษ์วิ่ง-เดินก็เดินหนักๆ ช้าๆ จริงๆ ยักษ์เศร้าก็เศร้าจริงๆ มันจะเป็นงานที่ไม่ใช่การ์ตูนที่เด็กมาก เราจะไม่ให้การเคลื่อนไหวดูเป็นการ์ตูนเกินไป แต่ถ้าอันไหนเป็นฉากสนุกๆ เราจะทำการเป็นเคลื่อนไหวเป็นแบบการ์ตูนไว้บ้างเช่นฉากร้องเพลง แต่อะไรที่แสดงอารมณ์เยอะๆ ผมจะให้แอนิเมเตอร์อิงจากจากการเคลื่อนไหวของคนพากย์ให้ใกล้เคียงที่สุดครับ ถึงจะเป็นหุ่นแต่เราต้องทำให้คนเชื่อก่อนว่าตัวนี้มันไม่ใช่แค่อนิเมชั่นนะ มันเป็นหุ่นที่มีชีวิตจริงๆ มีการเคลื่อนไหวแบบคนจริงๆ มีอารมณ์มีความรู้สึกต่างๆ มีโกรธกัน มีงอนกัน มีสู้กัน มีความเจ็บปวด เป็นหนังที่จะเล่าถึงความรู้สึกของเพื่อนเน้นความสัมพันธ์ อารมณ์สูงมาก”

ประภาส ชลศรานนท์ ผู้ให้กำเนิดและเลี้ยง “ยักษ์”

“ทุกงานที่ผมทำมันมักจะมีตัวเราเข้าไปอยู่เหมือนเพลงของเฉลียง เหมือนเรื่องสั้น เหมือนบทละคร แอนิเมชั่นเรื่องนี้ก็มีตัวเราเข้าไปอยู่ สิ่งแรกที่ผมตั้งใจให้คนดูได้ก็คือความสนุกและความตื่นใจ ความตื่นใจเวลาดูหนังนี่มันเป็นความสุขนะ และผมก็คิดว่าคนดูแต่ละวัยจะได้อะไรเพิ่มนอกจากความสนุก มีหลายความคิดที่ผมสอดแทรกไว้ในหนัง หัวใจของยักษ์คือเรื่องมิตรภาพเรื่องหน้าที่ ทำไมผมถึงอยากพูดเรื่องนี้ ผมว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ มันทำให้เราเดินต่อในชีวิตอย่างราบรื่น คำถามมากมายที่ผมตั้งไว้ในหนังไม่ว่าจะเป็น เราเกิดมาทำไม เราจะรู้ได้อย่างไรว่าหน้าที่ของเราคืออะไร หรือถ้าเราถูกกำหนดให้มีหน้าที่รบกันไปตลอด ที่แท้แล้วมันคือหน้าที่ของเราจริงๆ หรือเปล่า ?

ที่ชื่อเรื่องยักษ์เพราะยักษ์ภาษาไทยมันไม่ได้แปลว่าใหญ่อย่างเดียว มันแปลว่าดุร้ายด้วย ยักษ์มันแทนสิ่งที่อยู่ในจิตใต้สำนึกของคน พลังมหาศาลอย่างยักษ์นี่ถ้าเราคุมมันได้มันก็จะเป็นพลังที่ยอดเยี่ยม สังเกตดีๆ ในหนังยักษ์จะมีบางช่วงที่มีเหตุฉุกเฉินพลังของเขาจะออกมาเอง หรือว่าพอเขาจะช่วยเพื่อนไอ้พลังอันยิ่งใหญ่ตัวนี้ก็จะออกมา ยักษ์มันเป็นทั้งความรักและความโกรธ เป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลาย นี่คือพลังที่แอบอยู่ในมนุษย์ทุกคน ถ้าคุมมันไม่อยู่มันก็จะออกมาคุมเราเอง”

ทำไมต้องยักษ์? พลิกรูปแบบรามเกียรติ์ในอวตารที่สิบล้านเอ็ด

ด้วยความชื่นชอบและหลงใหลในตัว “ทศกัณฐ์”ราชันย์แห่งผองยักษ์ ตัวละครเอกแห่งมหากาพย์รามายณะสุดยอดวรรณกรรมของชาวเอเชียที่

“ประภาส ชลศรานนท์”มองว่านี่คือสุดยอดงานครีเอทีฟที่เต็มไปด้วยจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ชิ้นเอกที่ปรากฏขึ้นบนผืนพิภพ พูดได้ว่ามนต์เสน่ห์ของ “ทศกัณฐ์” ยักษ์ 10 หน้า 20 แขน 20 มือและเหล่าตัวละครอันหลากหลายรวมทั้ง “หนุมาน” ทหารเอกของพระราม ที่ซนยังกะเด็กแต่ถึงกระนั้นก็คือฮีโร่ที่เต็มไปด้วยอิทธิฤทธิ์ชนิดที่ยากจะหาใครเทียบทานโดยเฉพาะหางหนุมานที่มัดภูเขาบรรพตได้ทั้งลูกรวมไปถึงบรรดาฉากรบแห่งจินตนาการต่างๆ ในมหากาพย์รามายณะคือภาพจำที่ติดตามาตลอดชีวิตและหวังไว้ว่าวันหนึ่งจะต้องนำสิ่งที่ตนเองรักนำมาทำอะไรสักอย่าง

จนกระทั่งเมื่อประมาณ 6 ปีที่แล้วโปรเจ็คต์ “ยักษ์” ก็ถือกำเนิดขึ้นในรูปแบบของภาพยนตร์โดยมีประภาส ชลศรานนท์รับหน้าที่กำกับภาพยนตร์ จากแนวคิดและไอเดียของตนเองร่วมเขียนบทภาพยนตร์กับพัลลภ สินธุ์เจริญ เพียงทว่าไม่ใช่ภาพยนตร์คนแสดงแต่เป็นภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่นอย่างเต็มรูปแบบ หลายคนอาจแปลกใจที่ครีเอทีฟนักคิดนักเขียนระดับแถวหน้าของประเทศลุกขึ้นมากำกับหนังการ์ตูน แต่ถ้าใครที่ได้สัมผัสและรู้จักตัวตนของประภาสแล้วจะรู้ว่าเขาคิดเขาฝันที่จะทำหนังการ์ตูนมาไม่ต่ำกว่า 10 ปี

“เรื่องการทำการ์ตูนแอนิเมชั่นเป็นสิ่งที่อยากทำมามากกว่าสิบปีแล้ว แต่มันยังหามือคู่ใจไม่ได้ และโดยเทคนิควิธีการในขั้นตอนการทำแอนิเมชั่น พอเราได้มีโอกาสเข้าไปศึกษาจริงๆ จังเลยรู้ว่า หนึ่งมันต้องใช้เงินเยอะมาก สองเราต้องไปใช้ทีมงานในต่างประเทศด้วย เพราะถ้าจะพึ่งคนเขียนคนวาดแค่ในประเทศไทยอย่างเดียวก็คงไม่พอ คือเราก็ศึกษาหาข้อมูลมาตลอดนะ แต่เรารู้ว่ายังทำไม่ได้ก็ไม่คิดอะไร ก็หันไปทำอย่างอื่นก่อนจนกระทั่งวันหนึ่งได้เจอเอ็กซ์ ชัยพร พานิชรุทติวงศ์ (ดีกรีชนะเลิศ FIRST PRIZE:SIGGRAPH 1998 ซึ่งเปรียบได้กับรางวัลออสการ์สำหรับนักศึกษา การประกวดผลงานแอนิเมชั่น ประเภทนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยทั่วโลก) ซึ่งเพิ่งกลับมาจากอเมริกาใหม่ๆ แล้วตอนนั้นเทคโนโลยีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการทำแอนิเมชั่นพัฒนาไปไกล แล้วก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คิดว่าโอกาสที่จะได้ทำการ์ตูนเริ่มจะมีความเป็นไปได้ และเป็นที่มาที่ทำให้ตัดสินใจเปิดบริษัทบ้านอิทธิฤทธิ์ขึ้นพร้อมกับโปรเจ็คต์ที่จะทำการ์ตูนแอนิเมชั่น”

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version