กลุ่มน้ำตาลไทยเอกลักษณ์ (KTIS) จับมือ จอห์น เดียร์ พัฒนาคุณภาพชีวิตชาวไร่อ้อยอย่างยั่งยืน
เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประธานสภาอุตสาหกรรม และผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ให้เกียรติเป็นประธานและ สักขีพยานลงนามความร่วมมือพัฒนาคุณภาพอ้อย ระหว่างกลุ่มน้ำตาลไทยเอกลักษณ์ (KTIS) กับกลุ่มจอห์น เดียร์ ผู้ผลิตเครื่องจักรกลการเกษตรระดับโลกของสหรัฐอเมริกา โดยสั่งซื้อรถตัดอ้อย 40 คัน และรถตะกร้าขนย้ายผลผลิตอ้อย รวมมูลค่า 500 ล้านบาท หวังยกคุณภาพผลผลิตอ้อยให้มีคุณภาพและแก้ปัญหาแรงงานตัดอ้อยขาดแคลน หนุนความแข็งแกร่งให้แก่อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย พร้อมดึง 5 กลุ่มธุรกิจชั้นนำของสหรัฐอเมริการ่วมจัดนิทรรศการกับกลุ่มน้ำตาลไทยเอกลักษณ์ ประกาศศักยภาพความเข้มแข็งในธุรกิจ
นายประพันธ์ ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ กลุ่มน้ำตาลไทยเอกลักษณ์ (KTIS) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทยให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น ด้วยการให้ความสำคัญกับการพัฒนาชาวไร่อ้อยให้มีความรู้ความเข้าใจด้านการเพาะปลูกและยกระดับคุณภาพผลผลิต โดยใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีและกรรมวิธีที่ทันสมัยในการเพิ่มผลผลิตอ้อย รวมถึงการเก็บผลผลิตอ้อยเพื่อให้ได้คุณภาพน้ำตาลทรายที่ดีที่สุด ทางกลุ่ม KTIS จึงได้สั่งซื้อรถตัดอ้อย จำนวน 40 คัน และรถตะกร้าขนย้ายผลผลิตอ้อยพร้อมอะไหล่ รวมมูลค่าเกือบ 500 ล้านบาท จากบริษัทจอห์น เดียร์ จำกัด และได้ลงนามความร่วมมือกับบริษัทจอห์น เดียร์ จำกัดและผู้แทนของจอห์น เดียร์ ในประเทศไทย คือบริษัท ที.เค.อีควิปเมนท์ จำกัด ในการใช้นวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร รวมทั้งการเสริมสร้างความรู้ในด้านเทคโนโลยีการเพาะปลูกและจัดเก็บผลผลิตให้แก่ชาวไร่อ้อย เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวไร่อ้อยอย่างยั่งยืนตามนโยบายของกลุ่ม KTIS
นอกจากนี้ยังได้ลงนามความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเจ้าพระยา จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยในเครือของกลุ่ม KTIS ในการทำงานวิจัย การจัดทำหลักสูตรการเรียนรู้ และการฝึกอบรมเพื่อสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพรองรับอย่างเพียงพออีกด้วย โดยงานดังกล่าวได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ คริสตี้ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย เป็นประธาน และประธานร่วมในงาน ได้แก่ ดร.ปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ และนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยผู้นำชาวไร่อ้อยจากองค์กรและสมาคมต่างๆ มาร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามความร่วมมือ ณ เจ้าพระยาคอนเวนชั่นฮอลล์ ศูนย์ประชุมมหาวิทยาลัยเจ้าพระยา จังหวัดนครสวรรค์
“การลงทุนจัดหารถตัดอ้อยจำนวน 40 คัน มูลค่าเกือบ 500 ล้านบาท มาใช้จัดเก็บผลผลิตอ้อยเพื่อให้ได้คุณภาพน้ำตาลทรายที่ดีที่สุด และยังสามารถแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานตัดอ้อยได้ด้วย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกลุ่ม KTIS ที่ต้องการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายไทย โดยยกระดับคุณภาพผลผลิตเพื่อสร้างรายได้แก่ชาวไร่อ้อยของกลุ่ม KTISให้มีความมั่นคงมากขึ้น” นายประพันธ์ กล่าว
นอกจากการลงนามในครั้งนี้แล้ว กลุ่ม KTIS จอห์นเดียร์ และบริษัท ที.เค.อีควิปเมนท์ จำกัด ยังได้ร่วมกันจัดงานนวัตกรรมด้านอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นงานแสดงการสาธิตและนิทรรศการเครื่องจักรกลการเกษตร พร้อมชักชวนบริษัทยักษ์ใหญ่ชั้นนำของโลกจากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้แก่ เชฟรอน, P.Y.P. Lubricant, Cargill, Bunge และโคคา-โคลา รวมถึงยังได้รับความสนับสนุนจาก สถาบันการเงินชั้นนำของประเทศ คือ บมจ.ธนาคารกรุงไทย และ บมจ.ธนาคารกรุงเทพ มาร่วมออกบูธภายในงานนี้ด้วย
สำหรับการจัดงานนิทรรศการครั้งนี้ ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจกลุ่ม KTIS ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ที่ประกอบด้วยโรงงานน้ำตาลทรายจำนวน 3 โรง รวมถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง ทั้งโรงงานเยื่อกระดาษ โรงงานเอทานอล โรงไฟฟ้า โรงงานปุ๋ยและโรงงานไบโอแก๊สเพื่อให้ผู้ที่เข้าชมงานได้ทราบถึงกิจกรรมและการดำเนินธุรกิจในกลุ่ม KTIS นอกจากนี้ยังรวมถึงนิทรรศการ และกิจกรรมจากมหาวิทยาลัยเจ้าพระยา และวิทยาลัยอาชีวศึกษาวิริยาลัยนครสวรรค์ ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาในเครือเดียวกับกลุ่ม KTIS อันเป็นจุดเด่นหลักอีกประการหนึ่งของกลุ่ม KTIS ในการดูแลชาวไร่อ้อยอย่างครบวงจรจนถึงบุตรหลานของชาวไร่อ้อยด้วย
“โรงงานอุตสาหกรรมในเครือของกลุ่ม KTIS ได้นำความยิ่งใหญ่ทั้งหมดนี้มาแสดง เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชน ได้เห็นถึงความสำคัญในผลผลิตที่เกิดจากอ้อยซึ่งสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจต่อประเทศไทยอย่างมาก อีกทั้งเพื่อเน้นความสำคัญในภารกิจหลักของเราในการช่วยเหลือดูแลชาวไร่อ้อยในกลุ่ม KTIS ซึ่งมีจำนวนนับหมื่นครอบครัวให้มีการพัฒนาประสบความสำเร็จในอาชีพการทำไร่อ้อยอย่างยั่งยืนดังคำขวัญของกลุ่ม KTIS ว่า “ชาวไร่อ้อยมั่งคั่ง กลุ่ม KTIS มั่นคง” ที่เราได้ยึดถือเป็นหลักตลอดมานับตั้งแต่เริ่มกิจการโรงงานน้ำตาล และเราก็มีความสุขและภาคภูมิใจมากที่สุดที่เราเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำตาลที่ได้รับความรักผูกพันจากชาวไร่อ้อยตลอดมาเช่นเดียวกันอันเป็นที่ทราบกันในวงการนี้ นอกจากนี้ ในฐานะอีกหนึ่งพลังทางเศรษฐกิจของท้องถิ่นและประเทศชาติ นี่คือการให้ความมั่นใจต่อพี่น้องประชาชนชาวไทยว่า กลุ่ม KTIS มีความพร้อมสำหรับการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 และขณะนี้กลุ่ม KTIS ก็ได้ดำเนินธุรกิจกับบริษัทชั้นนำระดับโลกอยู่แล้ว” นายประพันธ์ ศิริวิริยะกุล กล่าว