นายยุโสบ บัวเชย ผู้บริหาร บริษัท ยุโสบ อินเตอร์เนชั่นแนล กันตัง พอร์ต จำกัด ผู้ดำเนินการท่าเทียบเรือเอกชนแห่งแรกของอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า การเปิดสำนักงานที่ทำการแห่งใหม่ของท่าเทียบเรือในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการและพัฒนาศักยภาพในการขยายธุรกิจของท่าเทียบเรือ เพื่อให้เพียงพอต่อการรองรับตู้สินค้าที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้ จากการเปิดเสรีตลาดขนของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558
ทั้งนี้ ทางบริษัทมีแผนที่จะลงทุน 70 ล้านบาท ในการเพิ่มพนักงาน และปรับปรุงระบบบริหารจัดการต่างๆ ของท่าเทียบเรือ ให้ทันสมัยมากขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ในประเทศและต่างประเทศ โดยตั้งเป้าที่จะพัฒนาท่าเทียบเรือแห่งนี้ให้เป็นท่าเรือนานาชาติระดับแนวหน้า ซึ่งให้บริการด้วยคุณภาพยอดเยี่ยมมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ ดำเนินงานโดยบุคลากรที่มีความชำนาญและมากประสบการณ์
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า อำเภอกันตังถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญระดับภูมิภาคของธุรกิจการขนส่งและการส่งออกสินค้าขนาดใหญ่ทางทะเล ซึ่งสามารถสร้างรายได้และมีส่วนส่งเสริมเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดตรังได้เป็นอย่างดี โดยปัจจุบันท่าเทียบเรือกันตังมียอดส่งออกสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านในอัตราเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสถิติของด่านศุลกากรกันตังช่วง เดือน ตค.54-กค.55 ปริมาณการส่งออกสินค้าคิดเป็นมูลค่ารวม 25,144 ล้านบาท พร้อมกับคาดว่าสิ้นปีนี้มูลค่าการส่งออกโดยรวมของจังหวัดจะอยู่ที่ประมาณ 30,000 ล้านบาท
“การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอีก 3 ปีข้างหน้า ถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่หน่วยงานทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนต้องร่วมมือกันเพิ่มพูนประสิทธิภาพการทำงานให้เป็นสากล เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าให้มีความรวดเร็ว เพื่อให้สามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ และรักษาสถานะความเป็นผู้นำในกิจการขนส่งทางทะเลของไทยให้คงอยู่ ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น”
ท่าเทียบเรือ บริษัท ยุโสบ อินเตอร์เนชั่นแนล กันตัง พอร์ต เป็นจุดขนถ่ายสินค้าสำคัญ ทั้งการนำเข้าสินค้าประเภทถ่านหินและเครื่องจักร และการส่งออกแร่ประเภทยิปซั่ม ยางแท่ง แร่แฟลสปาร์ แร่แบไรต์ ปูนซิเมนต์ กากปาล์ม และเหล็ก มีพื้นที่ริมน้ำ 300 เมตร พร้อมพื้นที่สนับสนุนบนฝั่ง 118 ไร่ ปัจจุบันมีการขนส่งอยู่ที่ 1500TEU ต่อเดือน คาดว่าปีนี้จะเพิ่มขึ้น 2280TEU ต่อเดือนตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ