สถาบันคุ้มครองเงินฝากเติมความเชื่อมั่นระบบ...ต่ออายุคุ้มครองเงินฝาก 50 ล้านบาท 3 ปี

จันทร์ ๐๓ กันยายน ๒๐๑๒ ๐๙:๑๐
สถาบันคุ้มครองเงินฝากเติมความเชื่อมั่นระบบ.....ต่ออายุคุ้มครองเงินฝาก 50 ล้านบาท 3 ปี รับมือภาวะเศรษฐกิจผันผวน

นายสิงหะ นิกรพันธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) เปิดเผยว่าต้องยอมรับว่าทางรัฐบาลมีความเป็นห่วงประชาชนผู้มีเงินฝากในประเทศไทย ต่อสถานการณ์เศรษฐกิจในต่างประเทศที่ปัจจุบันยังมีความอ่อนไหวอยู่ โดยเฉพาะในสหภาพยุโรปที่พบว่าสถาบันการจัดอันดับความน่าเชื่อถือได้ปรับลดความน่าเชื่อถือของธนาคารทั่วโลกลงจำนวนมาก และในหลายประเทศที่มีการคุ้มครองเงินฝากในวงเงินน้อย ก็ได้พิจารณาเพิ่มวงเงินคุ้มครองเงินฝาก เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้ฝากเงิน

ล่าสุด สำหรับสถาบันคุ้มครองเงินฝากที่ได้มีการปรับแผนการรับมือ จากเดิมที่จะมีการปรับลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากลงมาเหลือ 1 ล้านบาท ตามกำหนดเดิม คือตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค. 2555 นั้น ( วงเงินคุ้มครองเท่ากับ 1 ล้านบาท ต่อ1รายผู้ฝาก ต่อ 1 สถาบันการเงิน ) เพราะเกรงว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการสินทรัพย์และการเคลื่อนย้ายเงินฝากของผู้ฝาก ตลอดจนเพื่อเป็นการให้เวลาในการปรับตัวของผู้ฝากเงินเอง

ดังนั้น ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้เลื่อนการกำหนดเพดานการคุ้มครองเงินฝากแบบเดิม ออกไปอีก 3 ปี โดยคงระดับการคุ้มครองไว้ที่ 50 ล้านบาท ต่อ 1 รายผู้ฝาก ต่อ 1 สถาบันการเงิน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ฝากเงินมีความมั่นใจต่อระบบการเงินและสถาบันการเงินด้วย

อย่างไรก็ดี จะมีการปรับลดวงเงินคุ้มครองต่อไปภายหลังจากปี 2558 เหลือ 25 ล้านบาทในปีที่สี่ และ 1 ล้านบาทในที่สุด โดยมีการคงหลักการให้ผู้ฝากเงินมีวินัยในการบริหารความปลอดภัยทางการเงินของตนเอง และผลักดันให้สถาบันการเงินอยู่ในกรอบความโปร่งใสที่มีมาตรฐาน

อย่างไรก็ตาม การที่จะมีผลใช้บังคับดังกล่าวต้องมีการแก้ไขโดยการออกเป็นพระราชกฤษฎีกา และประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งในขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการ นายสิงหะกล่าวเพิ่มเติมว่าว่า แม้การคุ้มครองเงินฝากจะเลื่อนออกไปอีก 3 ปีก็ตาม แต่สถาบันคุ้มครองเงินฝาก ก็ยังเดินหน้าต่อไป ในเรื่องของการให้ความรู้ ทำความเข้าใจกับประชาชนผู้ฝากเงิน ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ฝากตระหนักว่าในอนาคตสถาบันการเงินก็มีความเสี่ยงได้ ไม่ใช่ทุกสถาบันการเงินจะไม่เสี่ยงเหมือนกันหมดอีกแล้ว เมื่อถึงวันนั้นสถาบันการเงินก็ต้องพยายามแสดงความมั่นคงของตนเองออกมาให้ผู้ฝากเงินเห็น เพราะถ้าไม่มีความมั่นคงแล้ว ต่อให้เพิ่มดอกเบี้ยสูงแค่ไหนก็คิดว่าผู้ฝากเงินก็ไม่เข้ามาฝากด้วยแน่นอน

สิ่งเหล่านี้ทำให้สถาบันการเงินต้องมีการบริหารจัดการตนเองให้มีความระมัดระวังรอบคอบมากขึ้นด้วย เพราะแนวคิดของการมีสถาบันคุ้มครองเงินฝากนั้น “แบงก์ล้มได้” ภายใต้สภาวะการณ์ปกติในการดำเนินธุรกิจ ยกเว้นกรณีที่เป็นความเสี่ยงของทั้งระบบเหมือนช่วงวิกฤติ ในลักษณะเช่นนั้นรัฐบาลก็คงต้องเข้ามาดูแล คงปล่อยให้ล้มไปไม่ได้แน่นอน

สำหรับผู้สนใจหรือต้องสอบถามรายละเอียดต่างๆ ของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก สามารถติดตามหรือเสนอความคิดเห็นได้ทาง www.dpa.or.th หรือ 02-272-0400

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๓๒ Electronic Nose นวัตกรรมตรวจวัดกลิ่น! เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดี กรมอนามัย ร่วม MOU กรมควบคุมมลพิษ และ 4 หน่วยงานรัฐ - เอกชน
๑๗:๐๑ ITEL ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 68 ไฟเขียวอนุมัติแจกวอร์แรนต์ฟรี ลุยขยายธุรกิจ
๑๗:๐๓ สวทช. โดย นาโนเทค เฟ้นหา 8 ผู้ประกอบการ ต่อยอดนวัตกรรมสมุนไพรสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง
๑๗:๕๙ คาเฟ่ แคนทารี ชวนมาลิ้มลองเมนูพิเศษประจำเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน 2568 อร่อยครบเครื่องทั้งรีซอตโตต้มยำ เครป
๑๗:๑๗ ซีพี ออลล์ x มูลนิธิชาวปักษ์ใต้ ร่วมสนับสนุนทุนการศึกษาเพื่ออาชีพแก่เยาวชนในจังหวัดภาคใต้
๑๗:๑๑ ซีพีแรม ดีเดย์ เปิดเวที FINNOVA 2025 : ยกระดับความรู้สู่นวัตกรรมอาหาร ปักหมุดไทยศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารโลก
๑๗:๑๙ ดีไซน์เพื่อชีวิตที่ไม่หยุดนิ่ง: อาดิดาส ออริจินอลส์ เผยโฉม ADIZERO ARUKU พร้อมพื้นรองเท้าแบบโปรเกรสซีฟ
๑๖:๒๘ พรีโม จับมือ Q-CHANG จัดทัพทีมช่างกว่า 2,000 ทีม! ยกระดับบริการซ่อมห้องชุด ตอกย้ำแนวคิด Primo Happy Maker
๑๖:๓๙ ครั้งแรก กับ Dance (แดนซ์) Glossy Body Hair Perfume Mist น้ำหอม 2-in-1 พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ เก๋ไก๋ บุกใจกลางกรุง ชวนสาวๆ
๑๖:๕๓ SCB CIO ชี้ 3 ปัจจัยกระทบตลาดการเงินฉุดสินทรัพย์ทั่วโลกผันผวน แนะระวังการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เพิ่มน้ำหนักหุ้นกู้ระยะสั้นคุณภาพดี และ