สืบเนื่องจาก ก.ล.ต. ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ตรวจสอบพบสภาพการซื้อขายที่ผิดปกติของหุ้น AMC และจากการตรวจสอบเพิ่มเติมของ ก.ล.ต. พบพยานหลักฐานน่าเชื่อได้ว่า
(1) ระหว่างวันที่ 13 กันยายน ถึง 16 พฤศจิกายน 2549 นายสมชาย ชัยศรีชวาลา ได้ตกลงหรือรู้เห็นร่วมกับนางสาวชนินันท์ เหลืองเวคิน (ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการอาวุโสด้านหลักทรัพย์ของบริษัทหลักทรัพย์นครหลวงไทย จำกัด) ใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนายสมชายและบุคคลหลายรายซื้อขายหุ้น AMC ในลักษณะอำพราง เพื่อให้บุคคลทั่วไปหลงผิดไปว่าหุ้นนั้นมีการซื้อขายกันมาก หรือราคาหุ้นนั้นเปลี่ยนแปลงไป และมีพฤติกรรมการซื้อขายในลักษณะต่อเนื่อง อันเป็นผลทำให้การซื้อหรือขายหุ้นนั้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด เพื่อชักจูงให้บุคคลทั่วไปทำการซื้อขายหุ้นดังกล่าว และ
(2) ระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม 2549 ถึงวันที่ 19 มกราคม 2550 นายธนกร ฤทธิบันลือ ได้ใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของบุคคลหลายรายซื้อขายหุ้น AMC ในลักษณะอำพรางเพื่อให้บุคคลทั่วไปหลงผิดไปว่าหุ้นนั้นมีการซื้อขายกันมาก หรือราคาหุ้นนั้นเปลี่ยนแปลงไป และมีพฤติกรรมการซื้อขายในลักษณะต่อเนื่องอันเป็นผลทำให้การซื้อหรือขายหุ้นนั้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด เพื่อชักจูงให้บุคคลทั่วไปทำการซื้อขายหุ้นดังกล่าว
ก.ล.ต. เห็นว่าการกระทำของนายสมชาย นางสาวชนินันท์ และนายธนกร เข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 243 (1) (2) และมาตรา 244 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่ง ก.ล.ต. ได้ให้โอกาสบุคคลทั้งสามพิจารณาเข้ารับการเปรียบเทียบปรับแล้ว แต่นายสมชายไม่ยินยอมเข้ารับการเปรียบเทียบก.ล.ต. จึงได้กล่าวโทษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2555 ส่วนนางสาวชนินันท์และนายธนกรได้ยินยอมเข้ารับการเปรียบเทียบจากคณะกรรมการเปรียบเทียบ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2555โดยบุคคลทั้งสองถูกเปรียบเทียบปรับรายละ 500,000 บาท สำหรับในด้านการเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ก.ล.ต. จะได้ดำเนินการกับนางสาวชนินันท์ต่อไป