ความคืบหน้าการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 10

ศุกร์ ๐๗ กันยายน ๒๐๑๒ ๐๘:๓๙
กระทรวงการคลังพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเชีย-ยุโรป หรืออาเซม ในเดือนตุลาคม 2555 นี้

นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการเตรียมการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 10 ซึ่งกำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 15 ตุลาคม 2555 ทั้งนี้ ในวันที่ 14 ตุลาคม 2555 จะมีการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการคลังเอเชีย-ยุโรป (ASEM High-Level Financial Officials) เพื่อร่วมกันพิจารณาวาระการประชุมและยกร่างแถลงการณ์ของการประชุมระดับรัฐมนตรี และในช่วงค่ำของวันเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเชีย-ยุโรป และผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้มีหนังสือเชิญไปยังประเทศสมาชิกอาเซม จำนวน 46 ประเทศ (สมาชิกในทวีปยุโรป 27 ประเทศ สมาชิกในทวีปเอเชีย 16 ประเทศ และสมาชิกในกลุ่ม Temporary Third Category 3 ประเทศ) และผู้นำจาก 2 องค์กร คือ คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) และเลขาธิการอาเซียน (ASEAN Secretariat) รวมถึงผู้บริหารระดับสูงจากธนาคารโลก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ธนาคารกลางยุโรป และธนาคารพัฒนาเอเชีย ซึ่งสถานะปัจจุบันได้รับการตอบรับอย่างดีจากประเทศสมาชิกต่างๆ โดยมีรัฐมนตรีแจ้งความประสงค์จะเข้าร่วมการประชุมมาแล้ว อาทิ เยอรมนี เบลเยี่ยม บรูไน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ปากีสถาน สโลวาเกีย และสมาชิกอาเซียน ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมการประชุมทั้งระดับรัฐมนตรีและระดับเจ้าหน้าที่ไม่ต่ำกว่า 300 คน

นอกจากนี้ นายสมชัยฯ เปิดเผยว่า การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเชีย-ยุโรป มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและแลกเปลี่ยนความเห็นในประเด็นด้านเศรษฐกิจ การเงินการคลังระหว่างประเทศสมาชิกอาเซม เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ การเงิน และการคลังของทั้งสองภูมิภาค โดยมีประเด็นหารือสำคัญประกอบด้วย ประเด็นด้านเศรษฐกิจและระบบการเงินของภูมิภาคเอเชียและยุโรป โดยประเทศสมาชิกจะได้แลกเปลี่ยนข้อมูล ความเห็นและประสบการณ์เกี่ยวกับโอกาส ตลอดจนปัญหาอุปสรรค พร้อมทั้ง หาแนวทางที่จะส่งเสริมความร่วมมือทางการเงินและการกำกับดูแลด้านการเงิน ตลอดจนความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างสองภูมิภาคเพื่อให้เกิดการเจริญเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ และยั่งยืนของเศรษฐกิจโลกต่อไป

การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งนี้ นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยในแง่การแลกเปลี่ยนความเห็นและประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยเฉพาะแนวนโยบายและมาตรการด้านการเงินการคลังที่สมาชิกฝ่ายยุโรปใช้เพื่อแก้ไขสถานะเศรษฐกิจจากวิกฤตฺการณ์ด้านการเงินในยุโรป ซึ่งไทยสามารถนำมาใช้ประกอบการกำหนดนโยบายด้านเศรษฐกิจที่เหมาะสมกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะผลกระทบจากวิกฤตการณ์ในยุโรป ในขณะเดียวกัน ยังเป็นการเสริมสร้างภาพพจน์ที่ดีและแสดงให้เห็นศักยภาพของประเทศไทยในบทบาทผู้นำในเวทีด้านเศรษฐกิจ การเงิน และการคลังระหว่างประเทศอีกด้วย

การประชุมดังกล่าวกำหนดจะจัดขึ้น ณ โรงแรมสยาม เคมปินสกี กรุงเทพฯ โดยในวันที่ 14 ตุลาคม 2555 จะเป็นการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการคลังเอเชีย-ยุโรป และในวันที่ 15 ตุลาคม 2555 จะเป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเชีย-ยุโรป โดยมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานในการประชุม

สำนักนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

โทร 02 273 9020 ต่อ 3623

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๑:๔๙ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) รับรางวัล IAA Best Analyst Awards 2024 ยอดเยี่ยมกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี
๑๖:๐๐ NCP ผู้ถือหุ้นอนุมัติจ่ายปันผล 0.068บ./หุ้น
๑๖:๐๐ AJA จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 เปิดแผนรุกตลาดสินค้าคุณภาพ เดินหน้าขยายฐาน AJ EV Bike พร้อมต่อยอดธุรกิจดิจิทัล
๑๖:๐๐ NL จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๖:๐๐ RBF ผู้ถือหุ้นไฟเขียว อนุมัติปันผล 0.175บ./หุ้น
๑๕:๐๐ CMO ชำระหุ้นกู้ ตามกำหนด ลุยธุรกิจเต็มสูบ รับปี 68 ปีทองอีเวนต์
๑๘:๐๐ ฮีโน่เปิดตัวรถบรรทุก HINO EURO 5 พร้อมโซลูชันครบวงจรภายใต้แนวคิด Always Your Professionals ตอบสนองความสำเร็จของธุรกิจคุณ
๑๗:๐๐ ผถห. PMC ไฟเขียวปันผลเป็นหุ้น 38 : 1 Record Date 7 พ.ค. 68
๑๖:๐๐ TBN จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ - เคาะจ่ายปันผล 0.19 บ./หุ้น
๑๖:๐๐ BC จัดงานประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 เตรียมจ่ายปันผล 0.0520 บาท/หุ้น 27 พ.ค.นี้ พร้อม แจก Warrant 3 และ 4 ให้ผู้ถือหุ้นเดิมราคาใช้สิทธิ 1.50 บาท/หุ้น และ 2.50 บาท/หุ้น