นพ.มนัส แนะนำวิธีการควบคุมน้ำหนักและลดไขมันส่วนเกิน “จากผลการวิจัยของ The American College of Sports Medicine (ACSM) พบว่าการออกกำลังกายเพื่อรักษาน้ำหนักให้คงที่นั้น เพียงแค่ออกกำลังกายครั้งละ 30 นาที จำนวน 5 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือ 150 นาทีต่อสัปดาห์ก็เพียงพอ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักนั้น ต้องออกกำลังกายให้ได้ครั้งละ 50 นาที จำนวน 5 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือ 250 นาทีต่อสัปดาห์โดยการออกกำลังกายประเภทสร้างความแข็งแรงกล้ามเนื้อ เช่น การเล่นเวทเทรนนิ่ง (Weight Training) เพื่อช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ (Fat Free Mass) นอกจากนั้นยังต้องใส่ใจเรื่องการเลือกรับประทานอาหาร ควรทาน 5 มื้อย่อย แทน 3 มื้อใหญ่ โดยจำกัดปริมาณอาหารที่ทานให้เหลือวันละ 1,200 แคลอรี่ในระยะแรก แล้วค่อยๆ ปรับลดลงเหลือ 1,000 และ 850 แคลอรี่ตามลำดับ โดยอาหาร 1 จาน ควรประกอบด้วยผัก 1/2, โปรตีน 1/4 และคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน 1/4 เช่น ธัญพืช ข้าวกล้อง เพราะนอกจากมีวิตามินแร่ธาตุสูงแล้ว ยังช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างคงที่ ส่งผลให้มีพลังงานต่อเนื่อง ไม่หิวบ่อย และเส้นใยอาหารยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น หรือถ้าจำเป็นต้องปรุงอาหารด้วยน้ำมัน ก็ควรใช้ไขมันจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกทานตะวัน นอกจากนั้นยังควรหลีกเลี่ยงคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว เช่น ข้าวขาว ขนมปังขาว น้ำตาลขัดขาว เพราะจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นสูงรวดเร็ว และหากได้รับมากเกินไป ร่างกายจะเปลี่ยนน้ำตาลเป็นไขมันสะสม”
แต่หากสาวๆ บางคนหาทางออกในการกำจัดไขมันส่วนเกินด้วยวิธีดังกล่าวไม่สำเร็จ ทั้งฮึดออกกำลังกาย ทั้งควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัดแล้ว ก็อย่าเพิ่งถอดใจ เพราะส่วนเกินในผู้ใหญ่เป็นผลจากการมี “ไขมัน ดื้อด้าน” สะสมอยู่ตามจุดที่ลดยาก ได้แก่ ท้องแขน สะบักหลัง ห่วงยางรอบเอว ต้นขาทั้งด้านในและด้านนอก รวมไปถึงสะโพก ก้น น่อง ลำคอ และใต้คางตามกวนใจ นพ.มนัส จึงแนะนำต่อ “ตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับแต่ละบุคคลสามารถช่วยให้สาวๆ บอกลาเซลลูไลท์และไขมันส่วนเกินได้เร็วขึ้นครับ อย่างโปรแกรม ‘บอดี้ ดีไซน์’ (Body Design) ที่ เมโกะ คลินิก ที่มีแพทย์คอยวิเคราะห์ปัญหาแล้วออกแบบวิธีการดูแลแก้ไขแบบบูรณาการ ได้แก่ การปรับพฤติกรรมการบริโภคอาหาร-การใช้ชีวิต รวมทั้งการใช้นวัตกรรมใหม่ด้วยเครื่องมือสลายไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด เป็นเครื่องลดเซลลูไลท์และขนาดเส้นรอบวงโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องแทงเข็ม ไม่ได้ใช้ยาจึงไม่มีผลข้างเคียง และไม่ต้องพักฟื้น โปรแกรมนี้จึงเปรียบเหมือนการมีศิลปินส่วนตัวคอยดีไซน์เรือนร่างให้สวยงามและสุขภาพดีไปพร้อมๆ กัน"
นพ.มนัส เผยถึงการรักษาด้วยโปรแกรม ‘บอดี้ ดีไซน์’ ซึ่งเหมาะกับใช้ลดไขมันบริเวณต้นขา สะโพก ก้น หน้าท้อง และต้นแขน ว่า “นวัตกรรมใหม่นี้เป็นการทำงานร่วมกันของพลังงานความร้อนจากแสงอินฟราเรด (Infrared) และคลื่นวิทยุความถี่สูง (Radio frequency) ร่วมกับลูกกลิ้ง (Roller) และระบบสุญญากาศ (Vacuum) จึงใช้เวลาในการรักษาแต่ละครั้งไม่นาน และขณะทำการรักษานั้นจะไม่รู้สึกเจ็บ แค่รู้สึกอุ่นๆ เหมือนการนวด การทำงานของระบบสุญญากาศและลูกกลิ้งจะทำให้เซลลูไลท์แตกตัวกระจายออก กระตุ้นการไหลเวียนของระบบน้ำเหลืองซึ่งจะช่วยลำเลียงไขมันออกจากบริเวณที่ทำการรักษา ส่วนความร้อนจากแสงอินฟราเรดและคลื่นวิทยุความถี่สูงจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันใต้ผิว ทำให้เซลล์ไขมันลดขนาดลง ขนาดของเส้นรอบวงจึงลดลง นอกจากนี้ยังเพิ่มการไหลเวียนเลือดใต้ผิวหนังบริเวณที่ทำการรักษา ผิวจึงเรียบเนียน กระชับขึ้น จะสังเกตผลได้ชัดหลังจากทำไปแล้วประมาณ 4 ครั้ง แม้แต่คนที่รูปร่างใหญ่หรืออ้วนก็จะเริ่มเห็นผล แต่อาจได้ผลเต็มที่ไม่เร็วเท่าคนรูปร่างบางกว่า”
วิวัฒนาการเสริมความงามยุคนี้ก้าวไกล ขนาดรูปร่างยังออกแบบได้ แต่ถึงอย่างไรการดูแลตัวเองในระยะยาวเป็นสิ่งจำเป็นมาก ทั้งการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณพอเหมาะ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และดูแลต่อเนื่องด้วยเครื่องมือลดไขมันเฉพาะจุด เพื่อเป็นเจ้าของรูปร่างดี สมส่วนและไม่เปิดโอกาสให้ไขมันดื้อด้านกลับมาสะสมอีก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ที่เมโกะ คลินิก สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ และจตุจักร โทร. 02-272-0022 และ 081-272-0022
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : บริษัท โพลีพลัส พีอาร์ จำกัด โทร. 02-572-4444