สามารถเข้าดูรายชื่อ 700 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดได้ที่ www.topuniversities.com
รายชื่อมหาวิทยาลัยที่น่าจับตามอง
- สหราชอาณาจักร: มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (2), มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย (4), มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด(5) และมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล (6) ติดอันดับ 10 มหาวิทยาลัยยอดเยี่ยม
- ออสเตรเลีย: มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย (24) ทิ้งห่างมหาวิยาลัยเมลเบิร์น (36)
- แคนาดา: มหาวิทยาลัยโตรอนโต (19) ควงแมคกิว (18) ติดอันอันดับ 20 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดเป็นครั้งแรก
- เอเชีย: มหาวิทยาลัยฮ่องกง (23) เฉือนมหาวิทยาลัยสิงคโปร์ (25) และมหาวิทยาลัยโตเกียว (30) ไม่มีมหาวิทยาลัยจากอินเดียติดอันดับ 200 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุด ขณะที่มหาวิทยาลัยจากจีน 2 แห่งติดอันดับท็อป 50 ได้แก่ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง (44) และมหาวิทยาลัยซิงหัว (48) พร้อมพ่วงอีก 5 แห่งที่ติดอันดับ 200 มหาวิทยาลัยยอดเยี่ยม
- ยุโรป: มหาวิทยาลัยดีเด่นจากฝรั่งเศส 9 แห่งตกอันดับ ขณะที่มหาวิทยาลัยเยอรมนียังคงไม่เข้าขั้นติดอันดับท็ออป 50 แม้กระทั่งมหาวิทยาลัยดังอย่าง Excellence Initiative ก็ตาม ส่วนในสวิสเซอร์แลนด์ มหาวิทยาลัย ETH Zurich (13) ครองอันดับดีกว่ามหาวิทยาลัย EPFL(29) รวม 7 มหาวิทยาลัยติดอันดับ 150 มหาวิทยาลัยยอดเยี่ยม
- ละตินอเมริกา: มหาวิทยาลัยแห่งเซาท์เปาโล (139) นำหน้ามหาวิทยาลัย UNAM (146) และมหาวิทยาลัย PUC (195) รวมมี 42 มหาวิทยาลัยติดโผมหาวิทยาลัยดีเด่น 700 แห่ง
- ตะวันออกกลาง: 6 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดถูกเลื่อนอันดับขึ้นมา โดยผู้นำคือ มหาวิทยาลัย King Saud (197) และ KFUPM (208) รวมติดอันดับ 700 มหาวิทยาลัยยอดเยี่ยมทั้งหมด 23 แห่ง
(โลโก้: http://photos.prnewswire.com/prnh/20120528/533559)
มหาวิทยาลัยเคมบริจด์ติดโผมหาวิทยาลัยยอดเยี่ยมที่สุดในโลกอีกครั้ง แต่ในปีนี้กลับพลาดท่าเสียแชมป์ให้แก่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเสตส์ (MIT) ซึ่งขึ้นครองตำแหน่งอันดับ 1 เป็นครั้งแรก โดยมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์จากสหราชอาณาจักรทำได้แค่รั้งอันดับ 2 ไว้เท่านั้น
มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เป็นแหล่งทำงานวิจัยชื่อดัง ซึ่งอ้างอิงรูปแบบการทำวิจัยจากมหาวิทยาลัยแมสซาชูเสตส์ ติดอันดับมหาวิทยาลัยดีเด่น เนื่องจากจำนวนการอ้างอิงถึงงานวิจัยที่จัดทำโดยมหาวิทยาลัยและสัดส่วนระหว่างนักศึกษาต่อคณะมีความโดดเด่น ควบคู่ไปกับการเพิ่มหลักสูตรนานาชาติในคณะต่าง ๆ ที่มีมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยที่อยู่ใกล้เคียงกันกับ MIT อย่างมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดนั้น ตกลงสู่อันดับที่ 3 แม้ว่าจะเคยครองตำแหน่งมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดติดต่อกันทุกปีตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปี 2552 ก็ตาม ในทางกลับกัน มหาวิทยาลัย MIT กลับค่อย ๆ ไต่อันดับขึ้นมาเรื่อย ๆ จากอันดับที่ 10 เมื่อปี 2550 สู่อันดับ 1 ในปีนี้
“อันดับที่สูงขึ้นของมหาวิทยาลัย MIT สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั่วโลกที่ให้ความสำคัญกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี” นายเบน โซวเทอร์ (Ben Sowter) หัวหน้าคณะทำงานวิจัยของคิวเอส (QS) กล่าว “MIT เหมาะที่จะเป็นมหาวิทยาลัยต้นแบบให้แก่บรรดาสถาบันเทคโนโลยีล้ำสมัยรุ่นใหม่ที่กำลังพัฒนาไล่หลังมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชีย”
มหาวิทยาลัยที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี 9 แห่งที่ติดอันดับท็อป 10 ได้รับการเลื่อนอันดับขึ้น นำโดยมหาวิทยาลัย MIT, มหาวิทยาลัยอิมพีเรียล (6), มหาวิทยาลัยแคลเทค (10) และมหาวิทยาลัย ETH Zurich (13) ทั้งนี้ อันดับมหาวิทยาลัย KAIST (63) ของเกาหลีถูกเลื่อนขึ้นมามากที่สุดในบรรดามหาวิทยาลัยที่ติดอันดับ
ท็อป 100 ขณะที่มหาวิทยาลัย HKUST (33) ของฮ่องกง และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยางของสิงคโปร์ (47) ค่อย ๆ ไต่อันดับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โดยทั้ง 2 มหาวิทยาลัยนี้ก่อตั้งขึ้นในระยะเวลา 21 ปีที่ผ่านมา
มีประเทศจำนวน 72 ประเทศที่มีรายชื่อมหาวิทยาลัยติดอันดับ 700 มหาวิทยาลัยยอดเยี่ยมของโลก เนื่องจากการย้ายถิ่นที่อยู่ระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในบรรดา 100 มหาวิทยาลัยยอดเยี่ยม มีจำนวนนักเรียนต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเมื่อปี 2554 ถึงเกือบ 10% โดยเฉลี่ย นับเป็นสถิติที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นภายในปีเดียวที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ 9 ปีของการจัดอันดับ
นายโซวเทอร์กล่าวว่า “การรับนักศึกษาต่างชาติเข้าเรียนเพิ่มมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนสะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันเพื่อประชันความสามารถมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั่วโลก มหาวิทยาลัยดีเด่น 500 อันดับแรกเปิดเผยว่า สถิติการรับนักศึกษาต่างชาติเข้าเรียนในปีนี้ เพิ่มขึ้นกว่า 120,000 คน โดยจำนวนนักศึกษาต่างชาติทั่วโลกทั้งหมดในขณะนี้ทะลุยอด 4.1 ล้านคนแล้ว”
แหล่งข่าว: คิวเอส ควอกควอเรลลี ไซมอนด์ส