สบส.ในฐานะที่ เป็นหน่วยงานโดยตรงที่ทำหน้าที่ในการส่งเสริม สนับสนุน พัฒนาและกำกับดูแลงานด้านบริการสุขภาพของไทย ให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน ได้รับมอบหมายจากกระทรวงสาธารณสุข ให้จัดงาน “มหกรรมศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ 2012 หรือไทยแลนด์ เมดิคัล ฮับ เอ็กซ์โป 2012 (Thailand Medical Hub Expo 2012)” ที่ศูนย์ประชุมอิมแพ็คเมืองทองธานี เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ ได้มีการจัดกิจกรรมพิเศษทำลายสถิติโลก แสดงการนวดไทยเพื่อส่งเสริมสุขภาพอย่างสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่ศีรษะ จรดปลายเท้า โดยหมอนวดไทยที่ได้ผ่านการอบรมจากหลักสูตรที่ได้รับการรับรองจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ด้วยจำนวนผู้นวดมากที่สุด 641 คู่ และใช้เวลานวดนานที่สุด 12 นาทีเพื่อสร้างสถิติโลกใหม่บันทึกลงกินเนสบุ๊ค และแสดงความพร้อมและแสดงศักยภาพของธุรกิจบริการสุขภาพของประเทศไทยให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาชาวโลก
“บริการสปาและนวดไทยนับเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนาศักยภาพของธุรกิจบริการสุขภาพในประเทศให้มีคุณภาพและมาตรฐานในระดับสูงขึ้น ปัจจุบันพบว่าบริการสปาและการนวดไทยเพื่อสุขภาพได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง สามารถสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศปีละ 12,813 ล้านบาท”
ด้านนายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพกล่าวเสริมว่า สบส.จะทำการสนับสนุนและพัฒนาผู้ประกอบการบริการสปาและนวดไทยให้ได้มาตรฐานตามหลักสปาไทยใน 5 ด้าน คือ 1) มาตรฐานในด้านสถานที่ 2) มาตรฐานของผู้ดำเนินการสปา หรือผู้ประกอบการ 3) มาตรฐานของผู้ให้บริการ 4) มาตรฐานในการบริการ และ 5) มาตรฐานในด้านความปลอดภัย โดยสำหรับประชาชนที่ต้องการใช้บริการสปาเพื่อสุขภาพ นวดเพื่อสุขภาพ และนวดเพื่อเสริมสวยที่มีคุณภาพและมาตรฐานนั้น ต้องสังเกตร้านที่มีตราสัญลักษณ์มาตรฐานของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ซึ่งเป็นรูปวงกลม มีรูปมือและดอกกล้วยไม้อยู่ข้างใน และมีคำว่า มาตรฐาน สบส.กำกับอยู่ ติดไว้ที่สถานประกอบการนั้นๆ โดยจะทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในขณะนี้มีสปาที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานแล้ว 1,436 แห่ง และมีการพัฒนาต่อยอดยกระดับมาตรฐานสปาเพื่อสุขภาพในระดับสากล 3 ระดับ คือ แพลตินัม (Platinum) โกลด์ (Gold) และซิลเวอร์ (Silver) โดยในตอนนี้ได้ผ่านการรับรองแล้ว 33 แห่ง และมีหมอนวดไทยที่ผ่านการอบรมการนวดเพื่อสุขภาพ 400 ชั่วโมง แล้วเกือบ 50,000 คน
นายแพทย์สุขุม กล่าวอีกว่าขณะนี้ สบส.กำลังผลักดัน พ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพและสปา หาก พ.ร.บ.นี้มีผลบังคับใช้ สถานบริการเพื่อสุขภาพทุกแห่งที่ใช้คำว่า “สปา หรือ นวดไทย”จะต้องผ่านการรับรองมาตรฐานจาก สบส. เท่านั้น ผู้ประกอบการและผู้ทำการนวดก็ต้องได้รับอนุญาตจาก สบส. ตามกฎหมายฉบับนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งตรงจุดนี้ถือว่าเป็นหน้าที่ที่สำคัญของผู้ประกอบการทุกรายที่ต้องเข้าใจและตระหนัก เพื่อที่จะร่วมกันสร้างให้เกิดธุรกิจบริการเพื่อสุขภาพที่มีคุณภาพที่ได้มาตรฐานในระดับสากล และเป็นศูนย์รวมสุขภาพที่ยอมรับของคนทั่วโลก