พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน “มหกรรมสร้างสุขภาพคนกรุงเทพฯ 2555” (Bangkok Health Day) ซึ่งกรุงเทพมหานคร ร่วมกับเครือข่ายภาครัฐ เอกชน และประชาชน ร่วมกันจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน 2555 ระหว่างเวลา 09.00 — 18.00 น. บนถนนสีลม ตั้งแต่แยกศาลาแดงไปจนถึงบริเวณสีลม ซอย 3 โดยมีกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพมากมาย ประกอบด้วย กิจกรรมด้านสุขภาพ ได้แก่ 1.กิจกรรมเดินเพื่อสุขภาพรณรงค์สร้างสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเพื่อคนกรุงเทพฯ 2.หน่วยบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขซึ่งให้บริการ ฟรี อาทิ การตรวจคัดกรองสุขภาพ ตรวจมวลสารในร่างกายด้วยเครื่อง Body Composition บริการทันตกรรม เอกซเรย์ปอด ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก ตรวจการได้ยิน บริการตรวจคุณภาพอาหารและหาสารปนเปื้อนในอาหาร กิจกรรมสร้างสุข ให้ความรู้เรื่องการป้องกันการติดยาเสพติด บริการคลายเครียด ส่งเสริมสุขภาพจิต ให้ความรู้สุขภาพโดยตู้เรียนรู้ทางสุขภาพด้วยระบบสัมผัส (Health Kiosk) การทดสอบสมรรถภาพทางกาย นวดเพื่อสุขภาพ และให้คำดูแลสุขภาพด้านต่างๆ 3.นิทรรศการ “บ้านเพื่อสิ่งแวดล้อม” ให้ความรู้ในการร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมให้กรุงเทพฯ สะอาดร่มรื่น น่าอยู่ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีตามแนวคิด Clean & Green นิทรรศการ แม่มีสุข ลูกแข็งแรง Happy Mom Health Baby เมืองสุขภาพดีและยาเสพติด 4.บริการสัตวแพทย์เคลื่อนที่ ให้บริการฉีดไมโครชิพ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และทำหมันสุนัขและแมว (ต้องงดให้น้ำและอาหารแก่สุนัขและแมวที่จะทำหมันมาอย่างน้อย 8 ชั่วโมง) 5.กิจกรรมด้านความปลอดภัย การลดใช้พลังงานด้วยการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ การอนุรักษ์น้ำ 6.กิจกรรมด้านสุขภาพเพื่อความบันเทิง โดยคัดสรรกิจกรรมที่คนกรุงเทพฯ สามารถฝึกฝนด้วยตนเองที่บ้าน เช่น การสาธิตการฝึกโยคะ การแสดงเทควันโด การเต้นฮูลาฮูป การแสดงรำมวยไทย การสาธิตรำมวยไทเก๊ก การเต้นแอโรบิก/บอดี้คอมแบต เป็นต้น และชมการแสดงสาระบันเทิงอื่นๆ เลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพกว่า 100 ร้าน พร้อมรับกล้าไม้ฟรีในงานด้วย
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครยังได้กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพอย่างต่อเนื่อง โดยจัดทำโครงการตรวจคัดกรองโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 68 แห่ง ดำเนินการตรวจคัดกรอง เจาะเลือดเพื่อหาปริมาณน้ำตาลในเลือดและวัดความดันโลหิต ให้กับประชาชนที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไปหรือผู้ที่มีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง รวมทั้งให้ความรู้ คำปรึกษาแนะนำแก่กลุ่มเสี่ยงในการดูแลสุขภาพเพื่อลดโอกาสการเกิดโรค รวมทั้งจัดหน่วยเคลื่อนที่ให้บริการเชิงรุกถึงชุมชนครอบคลุมทั้ง 50 เขตด้วย