โดย “เติ้ล” เล่าถึงการทำงานให้ฟังว่า “ สำหรับคาแรคเตอร์ของผมที่รับบทเป็นฤทธิชัยหรือผู้กองหนึ่งก็ยังเหมือนเดิมครับ แต่ว่าในป่านางเสือภาคสองนี้จะดูโหดกว่าภาคแรกหน่อยจากภาคแรกที่เราเป็นตำรวจแล้วก็ลาออกมา คราวนี้เหมือนกับว่าเราอยู่นอกเหนือกฎหมายแล้วก็กล้าที่จะแหกกฎ ในภาคนี้ผมต้องเล่นคิวบู๊มากกว่าเดิมเยอะมาก เพราะว่าเราได้พลังพิเศษมาด้วย และได้เข้ามาอยู่ในแก๊งนางเสือ เป็นเสือหนุ่มครับ ก็จะบู๊ตลอดแล้วผมมีอิทธิฤทธิ์แบบหายตัวแว๊บไปมาแบบนินจาได้ด้วยนะ ภาคนี้ฝ่ายตัวร้ายเค้าได้รับการเขียนบทแบบอัฟเกรดขึ้น มีแต่พวกมีฝีมือเก่งๆทั้งนั้น ทั้งพวกนักฆ่า พวกนินจา เล่นละครบู๊หนักๆแบบนี้ ผมก็ต้องเตรียมตัวเป็นพิเศษเหมือนกันครับ ต้องเข้าฟิศเนตออกกำลังกายบ่อยขึ้น ให้กล้ามเนื้อเฟิร์มที่สุด เพื่อให้พร้อมรับมือเข้าฉากบู๊ได้อย่างคล่องแคล่ว ในภาคนี้มีศัตรูตัวร้ายที่สุดอย่างนางงูที่รับบทโดยหยก ธัญยกันต์ ด้วย ซึ่งเค้าต้องมาชอบผม ผมก็จะต้องถูกมนต์ของเค้ามีฉากกุ๊กกิ๊กกับเค้าด้วย ซึ่งถ้าเป็นเรื่องจริงผมคงยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มสู้กันแล้วล่ะ เพราะหยกเค้าเป็นนางงูที่เซ็กซี่มาก(หัวเราะ) ส่วนพี่ยุ้ยก็มีกุ๊กกิ๊กกันมากขึ้นกว่าภาคแรก เพราะภาคนี้เราแต่งงานกันแล้วครับ ก็จะมีคำหวานมีลูกเล่นหยอกล้อกันมากขึ้นด้วย ผมว่าพี่ยุ้ยภาคนี้เค้าก็สวยสะพรั่งเหมือนกันนะ ลองสังเกตดูกันในละครสิครับ”
“เป็นครั้งแรกนะครับที่ได้เล่นละครภาคต่อ ก็รู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆใหม่ๆให้เราทำ จากที่เราเล่นแต่ละครแบบภาคเดียวจบ แต่นี่เราต้องกลับไปดูภาคแรกเพื่อความต่อเนื่องตัวเอง เพราะคาแร็คเตอร์หลักๆเราจะเปลี่ยนไปจากภาคแรกมากไม่ได้ ภาคที่แล้วทำไว้ดีมากครับเด็กๆร้องเพลงได้หมดเลย ก็ไม่กดดันนะ เพราะภาคนี้ผมว่าเนื้อเรื่องสนุกกว่าภาคแรกเยอะ มีสีสันมากขึ้น เรื่องราวเข้มข้นขึ้น กับกลุ่มนักแสดงหลักกับทีมงานที่เราเคยทำงานร่วมกันมาเป็นปีตั้งแต่ภาคแรกความคุ้นเคยความสนิทก็ยังคงอยู่ ทำให้ทำงานง่าย ส่วนตัวแล้วผมชอบละครเรื่องนี้มากมีความสุขทุกครั้งที่เข้าฉากและผมชอบมากองถ่ายนะมันรู้สึกสนุก ยกให้เป็นละครในดวงใจเลย ยิ่งเวลามีคิวถ่ายพร้อมกันกับพวกแก็งค์นางเสือนี่มีแต่เรื่องสนุกๆมาคุยกันได้ทั้งวัน ยังไงก็ขอฝากแฟนละครติดตามดูป่านางเสือ2 กันด้วยนะครับ”