เริ่ม 3 ตุลาคม 2555 ทางไทยทีวีสีช่อง 3
นำแสดงโดย หลี่เซิ่ง ไห่ลู่ พานเจี๋ยหมิง ฟางชิงจัว จัว ชิวซินจื้อ จางยุ่ย หลี่เจียหัง เกาจื้อฉี เติ้งชุ่ยเหวิน
ซุนเย่าฉี ไม่ตี๋หน่า จางตานฟง หลิวเสี่ยหัว โจวฟ่าง ลู่หง จ้าวลี่หยิ่ง หวังจินตั๋ว จ้วงชิ่งหนิง
ไฉปี้หยุน เหลยเจิ้นหยี่ เฉินฮุ่ยจวน จางจัวเหวิน ฉีอ้าวฮุย หลีจื่อซิ่ง ซินซิน หยีหยิงหยิง
หม่าเซียงอี๋ สีหย่าหยวน หลิวชางเหว่ย จงฟงเหยียน กังอี้ หวังเจี้ยนซิน ฉินหลัน จางเจียหนี
เฉินมู่อี้ หวังจื่อ จางจินเซิง โจวจิงจิง จางซินเยี่ย เฉาซาน สีอี้หาน เฉินซือตาน หมี่โต้ว
หลิวเสี่ยวเย่ คั่นชิงจื่อ หลีเสี่ยวเยี่ยน
ราชวงศ์ชิง รัชกาลเฉียนหลงฮ่องเต้ เซี่ยจื่อเวยและเสี่ยวเยี่ยนจื่อหญิงสาวสองคนพบรู้จักกันที่ปักกิ่ง ด้วยสถานการณ์พาไปทำให้ทั้งสองต้องเปลี่ยนสถานะกันและกัน เสี่ยวเยี่ยนจื่อองค์หญิงตัวปลอมเข้าไปใช้ชีวิตในวังหลวงในฐานะองค์หญิงหวนจู ส่วนเซี่ยจื่อเวยองค์หญิงตัวจริงเข้าสู่หอบัณฑิตด้วยการชักนำของฝูเอ่อคังเข้าสู่หอบัณฑิต นับแต่นั้นเป็นต้นมา ชะตาชีวิตหญิงสาวทั้งสองก็เปลี่ยนไป ต้องพานพบกับอุปสรรคขวากหนาม ความวุ่นวายนานัปการ
เอ่อคังล่วงรู้ฐานะที่แท้จริงของจื่อเวย ทั้งยังรู้เรื่องที่จื่อเวยและเสี่ยวเยี่ยนจื่อสับเปลี่ยนสถานะกันและกันอีกด้วย จื่อเวยไม่สามาถทำใจทอดทิ้งไม่เหลียวแลเสี่ยวเยี่ยนจื่อ(องค์หญิงตัวปลอม)ไปได้ นางยินดีที่จะใช้ชีวิตเสมือนคนไร้บ้าน ไร้ญาติขาดมิตร เอ่อคังเกิดความเวทนาจึงใกล้ชิดเคียงข้างนาง นับแต่นั้นเป็นต้นมา โลกของจื่อเวยก็ถูกเอ่อคังเติมเต็ม เอ่อคังพาจื่อเวยไปยังสถานที่เป็นส่วนตัวของตน ท้องทุ่งซึ่งเต็มไปด้วยดอกไม้หอมกรุ่นนานาพันธุ์ราวทะเลดอกไม้ ทุ่งหญ้าเขียวขจีกว้างใหญ่ไพศาล ทะเลสาบ ถ้ำ ...เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำของคนทั้งสอง ภูผาและผืนน้ำได้เป็นพยานในคำมั่นสัญญาของคนทั้งสอง
ในเวลาเดียวกัน เสี่ยวเยี่ยนจื่อซึ่งใช้ชีวิตระหกระเหินนั้น หลังจากที่เข้าวังหลวงซึ่งเต็มไปด้วยกฏเกณฑ์มากมายราวกับเข้าไปอยู่ในโลกใหม่จนกลายเป็นเรื่องตลกขบขัน โดยเฉพาะเสี่ยวเยี่ยนจื่อซึ่งไม่ยึดติดกฎเกณฑ์ธรรมเนียมใดได้สร้างความโกลาหลยากที่จะลืมเลือนไว้มากมายในวังหลวง เป็นต้นว่า นางขนานนามสี่ขันทีว่าสี่ปราญช์ผู้ยิ่งใหญ่ เรียกนางกำนัลคู่กายซึ่งคอยปรนนิบัติรับใช้ว่าหญิงงามโดยวางตัวเป็นกันเองราวกับเป็นคนในครอบครัวเดียวกันเป็นการทำลายกฏเกณฑ์อันเคร่งครัดของวังหลวง การวางตัวเป็นกันเองกับทุกคนของเสี่ยวเยี่ยนจื่อ ทำให้นางเป็นที่รักใคร่ของข้าทาสบริวาร เรื่องนี้ทำให้ฮองเฮาและบรรดาหญิงชั้นสูงเกิดความไม่พอใจขึ้นมา แต่เฉียนหลงกลับไม่ได้ตั้งข้อรังเกียจเสี่ยวเยี่ยนจื่อแต่อย่างใด
หย่งฉีพระโอรสองค์ที่ห้าของเฉียนหลงเป็นผู้ที่เก่งกล้าสามารถทางด้านบุ๋นและบู๊ มองโลกแง่ดี เป็นคนหนุ่มที่โชติช่วงเป็นที่โปรดปรานของเฉียนหลง หย่งฉีและเบนจามินชาวอังกฤษศิษย์ของหลางซื่อหนิงซึ่งเติบโตมาด้วยกันรักใคร่กันฉันท์พี่น้อง นับตั้งแต่เสี่ยวเยี่ยนจื่อเข้าวังหลวง ทำให้ความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องของหย่งฉีและเบนจามินต้องเผชิญกับบททดสอบ ความจริงแล้วก่อนที่เสี่ยวเยี่ยนจื่อจะเข้าวังหลวงได้มีเรื่องวิวาทกับเบนจามินมาก่อน นึกไม่ถึงว่าโลกแคบเหลือเกิน เมื่อเสี่ยวเยี่ยนจื่อรู้ว่าเบนจามินซึ่งนางเรียกติดปากว่าผีฝรั่งจะมาเป็นอาจารย์สอนวาดภาพก็ทำให้นางเกิดความวิตกกังวลขึ้นมาด้วยเกรงว่าฐานะที่แท้จริงของนางจะถูกเปิดเผยออกมา ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเบนจามินและเสี่ยวเยี่ยนจื่อราวกับแมวจับหนูเช่นนั้น ในระหว่างนี้เบนจามินก็เกิดความหลงใหลเสี่ยวเยี่ยนจื่อขึ้นมา อีกด้านหนึ่งนั้น หลายต่อหลายครั้ง หลายต่อหลายสถานการณ์ก็ทำให้หย่งฉีเกิดความหลงใหลเสี่ยวเยี่ยนจื่อเช่นเดียวกัน แต่ด้วยเสี่ยวเยี่ยนจื่อมีฐานะเป็นน้องสาว ทำให้หย่งฉีจำต้องเก็บซ่อนความรู้สึกไว้ในใจเท่านั้น มีเพียงเบนจามินที่รู้ความในใจของหย่งฉี และแล้วทั้งเบนจามินและหย่งฉีก็กลายเป็นองครักษ์ปกป้องคุ้มครองเสี่ยวเยี่ยนจื่อไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
หย่งคังด้วยความที่ต้องการเรียกจื่อเวยได้เต็มปากเสียที และในเวลาเดียวกันเพื่อคลายความวิตกกังวลให้เสี่ยวเยี่ยนจื่อจึงตัดสินใจส่งจื่อเวยเข้าวังหลวง ด้วยหวังว่าหลังจากที่เฉียนหลงทรงยอมรับจื่อเวยแล้วสามารถทำให้องค์หญิงตัวจริงตัวปลอมสับเปลี่ยนฐานะกันดังเดิม ความจริงจะได้กระจ่างเสียที ถึงแม้ว่าจื่อเวยมีความประสงค์ที่จะปกป้องคุ้มครองเสี่ยวเยี่ยนจื่อ แต่นางก็ไม่สามารถทำได้ ทำได้เพียงเป็นเป็นนางกำนัลคู่กายของเสี่ยวเยี่ยนจื่อเท่านั้น หลังจากที่เสี่ยวเยี่ยนจื่อและจื่อเวยพบกันอีกครั้งก็เหมือนกับเสือติดปีก ทั้งสองร่วมมือกันก่อเรื่องพิลึกพิลั่นมากมาย ด้วยสติปัญญาอันเฉลียวฉลาดของจื่อเวยได้เติมเต็มสิ่งที่เสี่ยวเยี่ยนจื่อขาด ทั้งสองฮึกเหิมอาสาจัดงานเลี้ยงทั่วทั้งวังหลวง ทั้งที่มีอุปสรรคมากมาย แต่ก็สามารถบรรลุผ่านพ้นไปได้ นอกจากนี้เสี่ยวเยี่ยนจื่อยังก่อตั้งกลุ่มองค์หญิงท้าเดิมพันกับกลุ่มองค์ชาย ท่ามกลางสถานการณ์มากมายที่ไม่สามารถเป็นไปได้ แต่แล้วก็ประสบความสำเร็จได้รับชัยชนะจากการแข่งขัน เรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นนำมาซึ่งความไม่พอพระทัยของฮองเฮาที่มีต่อเสี่ยวเยี่ยนจื่อและจื่อเวยเป็นอันมาก
สืบเนื่องจากเสี่ยวเยี่ยนจื่อได้รับผลกระทบจากเบนจามินจนเกิดเหตุการณ์ระลึกขวัญมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์รับเสด็จไทเฮากลับสู่วังหลวง ทำให้บรรดาข้าราชบริพารในวังหลวงอกสั่นขวัญแขวนไปทั่ว องค์หญิงฉิงซึ่งเคียงข้างพระวรกายไทเฮา ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้องค์หญิงฉิง,เสี่ยวเยี่ยนจื่อและจื่อเวยเป็นเพื่อนที่รู้ใจกัน จากบาดหมางกลายเป็นเข้าอกเข้าใจกัน เรื่องราวมากมายทำให้เฉียนหลงทรงโปรดปรานจื่อเวยและเสี่ยวเยี่ยนจื่อมากยิ่งขึ้น จากความช่วยเหลือของหย่งฉี,เอ่อคัง,เอ่อไท่(น้องชายของเอ่อคัง,เพื่อนนักเรียนของหย่งฉี)และเบนจามิน ทำให้เฉียนหลงทรงโปรดปรานเสี่ยวเยี่ยนจื่อและจื่อเวยมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงสร้างความริษยาสู่ฮองเฮา ทั้งยังทำให้ไทเฮาทรงกระวนกระวายร้อนรุ่มพระทัยอีกด้วย
ปริศนาชาติกำเนิดตลอดจนความปราดเปรื่องของจื่อเวยกลับนำทุกข์ภัยมาสู่นาง จื่อเวยถูกฮองเฮาทรงกลั่นแกล้ง ทั้งยังต้องเผชิญกับบททดสอบมากมายของไทเฮา ทำให้หลายต่อหลายครั้งที่จื่อเวยต้องประสบกับความทุกข์ยากลำเค็ญสร้างความเจ็บปวดใจให้เอ่อคังเป็นอันมาก นอกจากนี้เสี่ยวเยี่ยนจื่อซึ่งไม่รู้จักกาลเทศะ ไม่มีสัมมาคาวะ หลายต่อหลายครั้งได้นำปัญหามาสู่จื่อเวยเช่นเดียวกัน ในที่สุดเอ่อคัง,หย่งฉี,เอ่อไท่และเบนจามินก็รวมตัวกันเป็นสี่องครักษ์พิทักษ์จื่อเวยและเสี่ยวเยี่ยนจื่อ นับแต่นั้นเป็นต้นมาสี่องครักษ์และองค์หญิงตัวจริงตัวปลอมก็ร่วมทุกร่วมสุขคละเคล้ากันไปเรื่อยมา
เบนจามินและหย่งฉีต่างพยายามทำทุกอย่างเพื่อเอาอกเอาใจเสี่ยวเยี่ยนจื่อ ทำให้ทั้งสองเปิดศึกแย่งชิงหญิงงามกันขึ้นมา เสี่ยวเยี่ยนจื่อต้องอยู่ท่ามกลางการแย่งชิงถูกรุมเร้าไม่จบสิ้น เอ่อคังและองค์หญิงฉิงเดิมทีทั้งสองมีหมั้นหมายกันมาก่อน เนื่องจากไทเฮาทรงอาลัยอาวรณ์จึงทำให้ทั้งสองไม่ได้แต่งงานกันเสียที เหตุการณ์ต่างๆมากมาย ชายหนุ่มหญิงสาวทั้งเจ็ดคนท่ามกลางความรัก ท่ามกลางรอยยิ้มและน้ำตา ท่ามกลางความสับสนระหว่างอำนาจและเสรีภาพ ตลอดจนความรักความจริงใจที่มีต่อกันนั้นได้ก่อให้เกิดสิ่งที่คาดคิดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกระทึกขวัญ ปาฏิหาริย์ หวาดผวา ตื่นตระหนกซึ่งยากที่จะพรรณนา
ด้วยเฉียนหลงทรงมีพระราชประสงค์เยี่ยมเยียนพสกนิกร อีกทั้งยังทรงพักผ่อนเปลี่ยนอิริยาบท พระองค์จึงทรงชักชวนเสี่ยวเยี่ยนจื่อ,จื่อเวย,หย่งฉี,เอ่อคัง,เบนจามิน,เอ่อไท่และพวกร่วมขบวนเสด็จประพาส เนื่องจากไทเฮาทรงเคลือบแคลงสงสัยฐานะที่แท้จริงของจื่อเวย พระนางจึงทรงมีพระบัญชาให้ฉิงเอ๋อติดตามขบวนเสด็จประพาสเพื่อปฏิบัติภารกิจลับ การนี้จึงกระทบถึงความสัมพันธ์ของเอ่อคังและจื่อเวยขึ้นมา
การเสด็จประพาสครั้งนี้ ระหว่างทางมีเรื่องราวหลากหลาย เสี่ยวเยี่ยนจื่อ,เอ่อคังและพวกต่างผดุงคุณธรรม เมื่อพบความไม่เป็นธรรมก็จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือ สั่งสอนผู้มีอิทธิพลที่ถืออำนาจบาตรใหญ่ ขุนนางท้องถิ่นที่บังคับหญิงสาวชาวบ้านแต่งงาน ขุนนางท้องถิ่นเรียกรับสินบนชาวบ้าน ยกเลิกเก็บค่าคุ้มครองจากผู้มีอิทธิพล แม้ว่าการเสด็จประพาสตรั้งนี้ทำให้เฉียนหลงทรงทอดพระเนตรเห็นความทุกข์ร้อนของพสกนิกร แต่ในเวลาเดียวกันพระองค์ก็ทรงตระหนักถึงวิถีชีวิตชาวบ้าน เป็นต้นว่า การเล่นกลองยาว ยิงธนูเลือกคู่ ปีนไม้ไผ่ชิงดอกไม้ หลากหลายกิจกรรมที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน แต่สิ่งที่มีค่าที่สุดคือการที่ได้พบกับขุนนางซื่อสัตย์สุจริตที่ยึดมั่นต่อกฎหมายทุ่มเทความรู้ความสามารถเพื่อแผ่นดิน หย่งฉี,เอ่อไท่และเสี่ยวเยี่ยนจื่อที่มีขุนนางเช่นนี้จึงพากันวางฐานะสูงศักดิ์ลงปีนขึ้นไปซ่อมหลังคาที่ว่าการ แต่แล้วเสี่ยวเยี่ยนจื่อก็ก่อเรื่องก่อราวขึ้นอีกจนได้โดยเหยียบกระเบื้องหลังคาแตกหักจึงกลายเป็นเรื่องขบขันไม่ว่าเสี่ยวเยี่ยนจื่อปรากฎตัวที่ใดจะต้องเกิดเรื่องเกิดราวทุกครั้ง
เสี่ยวเยี่ยนจื่อมักจะทำสิ่งใดโดยไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมาภายหลังจนเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดมากมาย เมื่อเสี่ยวเยี่ยนจื่อมาถึงวัดกามเทพ ด้วยความพิลึกพิลั่นของเสี่ยวเยี่ยนจื่อ เสี่ยวเยี่ยนจื่อแอบปีนขึ้นไปบนต้นไม้กามเทพเพื่อผูกผ้าแดงอธิษฐานขอพรให้ความฝันของทุกคนเป็นจริง แต่ความซุกซนของเสี่ยวเยี่ยนจื่อกลับทำให้กามเทพของชาวจีนและจูปีเตอร์ของชาวตะวันตกต้องทำงานกันมากขึ้น
มิตรภาพระหว่างเบนจามินและหย่งฉีนั้น บัดนี้ทั้งสองกลายเป็นคู่แข่งซึ่งแย่งชิงเสี่ยวเยี่ยนจื่อ แม้ว่าเบนจามินมีใจให้เสี่ยวเยี่ยนจื่อ แต่ก็ระมัดระวังตัวไม่เคยล่วงล้ำก้ำเกินนางแต่อย่างใด ครั้งหนึ่ง เสี่ยวเยี่ยนจื่อรู้สึกหึงหวงหย่งฉีขึ้นมาจนสุดที่จะทนต่อไปได้ หย่งฉีต้องการแสดงความจริงใจให้เป็นที่ประจักษ์จึงวางฐานะองค์ชายสูงศักดิ์ลงเข้าครัวตุ๋นน้ำแกงให้เสี่ยวเยี่ยนจื่อ แม้ว่ารสชาติไม่สู้ดีนัก แต่ก็ทำให้เสี่ยวเยี่ยนจื่อปลาบปลื้มใจ ในที่สุดเสี่ยวเยี่ยนจื่อและหย่งฉีก็ตกลงปลงใจคบหาดูใจกัน นับแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเบนจาไม่สามารถตัดใจจากเสี่ยวเยี่ยนจื่อไปได้ แต่เบนจามินก็ยังคงทำหน้าที่เป็นองครักษ์ปกป้องคุ้มครองเสี่ยวเยี่ยนจื่อต่อไป
จื่อเวยค้างคาใจต่อความสัมพันธ์เก่าก่อนของเอ่อคังและฉิงเอ๋อ แต่เมื่อจื่อเวยเห็นเอ่อคังแสดงความจริงใจให้เป็นที่ประจักษ์จึงคลายความคลางแคลงใจไปได้ จื่อเวยเลื่อมใสในความใจกว้างและมีน้ำใจของฉิงเอ๋อจนทั้งสองกลายเป็นเพื่อนรู้ใจกัน ครั้งหนึ่ง ขณะที่ฉิงเอ๋อเรียนขี่ม้า ด้วยความไม่ระวังตกเข้าไปในกับดักสัตว์จนได้รับบาดเจ็บ โชคดีที่เซียวเจี้ยนยอดฝีมือบุคคลลึกลับช่วยชีวิตฉิงเอ๋อเอาไว้ นับแต่นั้นเป็นต้นมา ในหัวใจของฉิงเอ๋อก็มีแต่เซียวเจี้ยนเรื่อยมา เป็นความประทับใจและความทรงจำที่ยากจะลบเลือนไปได้ จื่อเวยไว้วางใจฉิงเอ๋อมากขึ้นทุกที ในที่สุดจื่อเวยก็เปิดเผยความลับเรื่องฐานะที่แท้จริงของนางและเสี่ยวเยี่ยนจื่อต่อ ฉิงเอ๋อ นับแต่นั้นเป็นต้นมา ฉิงเอ๋อก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีของจื่อเวยและเสี่ยวเยี่ยนจื่อ
วันหนึ่ง พรรคบัวขาวทำพิธีขับไล่วิญญาณ แต่ความเป็นจริงมีเป้าหมายลอบปลงพระชนม์เฉียนหลง จื่อเวยถวายอารักขาเฉียนหลงโดยไม่คำนึงถึงชีวิตของนางจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เฉียนหลงทรงรักและมีพระเมตตาจื่อเวยมากขึ้น การนี้ทำให้ฝูหลุน,เอ่อคังและพวกร้อนใจเป็นอันมาก หลังจากที่อาการบาดเจ็บของจื่อเวยทุเลาบ้างแล้ว เฉียนหลงทรงได้รับสาส์นด่วนจากวังหลวงความว่าอ๋องมองโกลจะเดินทางมาเมืองหลวงเพื่อปรึกษาหารือถึงการแต่งงาน การนี้จึงทำให้การเสด็จประพาสของเฉียนหลงต้องยุติลง เดินทางกลับวังหลวงทันที
เมื่อกลับถึงวังหลวง ฉิงเอ๋อก็รีบนำความลับเรื่องฐานะที่แท้จริงของจื่อเวยและเสี่ยวเยี่ยนจื่อทูลต่อไทเฮา เรื่องนี้ทำให้ไทเฮาทรงตกพระทัยเป็นอันมาก ทว่าไทเฮายังไม่ทันได้ทรงจัดการปัญหาของจื่อเวย นึกไม่ถึงว่าองค์หญิงไซหย่าแห่งมองโกลทรงมีพระทัยปฏิพัทธ์ต่อเอ่อคังเป็นคู่หมั้นคู่หมาย เรื่องนี้ทำให้จื่อเวยและเสี่ยวเยี่ยนจื่อวิตกกังวลเป็นอันมาก ด้วยความที่เสี่ยวเยี่ยนจื่อคำนึงถึงความสุขชั่วชีวิตของจื่อเวย เสี่ยวเยี่ยนจื่อจึงตัดสินใจเข้าเฝ้าทูลความจริงเรื่ององค์หญิงตัวจริงตัวปลอมต่อเฉียนหลงโดยไม่หวั่นต่ออาญาที่หลอกลวงเบื้องสูง เฉียนหลงทรงกริ้วมากจึงทรงมีรับสั่งคุมขังเสี่ยวเยี่ยนจื่อ,จื่อเวย,จินสั่วและพวก
เบนจามิน,เอ่อคัง,หย่งฉีและเอ่อไท่ได้รับความช่วยเหลือจากเซียวเจี้ยนชายลึกลับชุดดำจนสามารถแหกคุกหลวงช่วยเหลือเสี่ยวเยี่ยนจื่อและจื่อเวยหลบหนีไปได้ ทว่าเสี่ยวเยี่ยนจื่อและพวกยากที่จะทำใจได้ที่ปล่อยให้เบนจามินและเอ่อไท่ต้องรับโทษตามลำพัง ทุกคนจึงเห็นพ้องต้องกันด้วยการกลับเข้าวังหลวงเข้าเฝ้าเฉียนหลง เฉียนหลงทรงนิ่งเงียบหวนนึกถึงความสุขที่ได้รับจากเสี่ยวเยี่ยนจื่อและจื่อเวย ในที่สุดเฉียนหลงก็ทรงอภัยโทษให้ทุกคนในความผิดฐานหลอกลวงเบื้องสูง อีกด้านหนึ่ง องค์หญิงไซหย่าแห่งมองโกลซึ่งทรงปฏิพัทธ์ต่อเอ่อคังนั้น เป็นไปได้ว่าอาจจะจบลงด้วยความเศร้า หรือสุขสมหวังก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
กล่าวถึงอาหลี่เหอจัวซึ่งนำหานเซียงลูกสาวทูลถวายเฉียนหลง เสี่ยวเยี่ยนจื่อต้องการกอบกู้การค้าของหลิ่วชิงสองพี่น้องจึงชักชวนพรรคพวกสวมใส่ชุดชาวฮั่น,แมนจูและมองโกลขับกล่อมเครื่องดนตรีของชาวตะวันตกจนเลื่องลือไปทั่วเมืองหลวง เสี่ยวเยี่ยนจื่อและพวกเข้าใจถึงความรักของหานเซียงและไม่เอ่อตาน ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าจะช่วยเหลือหานเซียงหลบหนีออกจากวังหลวง ต่อมา เมื่อเสี่ยวเยี่ยนจื่อและพวกรู้ว่าเซียวเจี้ยนคือชายชุดดำที่ช่วยเหลือพวกนางแหกคุกหลบหนีจากคุกหลวงก็เกิดความเลื่อมใสเซียวเจี้ยนเป็นอันมากจึงพากันกราบเซียวเจี้ยนเป็นอาจารย์ นับแต่นั้นเป็นต้นมา เซียวเจี้ยนก็มีมิตรภาพอันแนบแน่นต่อเสี่ยวเยี่ยนจื่อและพวก ตอลดจนรักมั่นต่อฉิงเอ๋อเรื่อยมา
พระสนมอี๋แม่ของหย่งฉีและไทเฮาต่างไม่ยอมรับความสัมพันธ์ของหย่งฉีและเสี่ยวเยี่ยนจื่อ ทั้งสองจึงทาบทามซินหยงบุตรีเสนาบดีฝ่ายซ้ายให้แต่งงานกับหย่งฉี หย่งฉียึดมั่นต่อความรักที่มีต่อเสี่ยวเยี่ยนจื่อจึงปฏิเสธเสียงแข็ง พระสนมอี๋ผิดหวังจึงผูกคอตาย โชคดีที่เสี่ยวเยี่ยนจื่อช่วยชีวิตพระสนมอี๋ไว้ทันการด้วยการขอยาชุบชีวิตจากหานเซียงช่วยชีวิตพระสนมอี๋ หย่งฉีเกรงว่าจะเกิดโศกนาฏกรรมซ้ำรอยจึงต้องจำใจแต่งงานกับซินหยง ทำให้เสี่ยวเยี่ยนจื่อได้รับความสะเทือนใจเป็นอันมาก
จื่อเวยและพวกทนไม่ได้ต่อความเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียความรักไป ทุกคนจึงฉวยโอกาสวันแต่งงานของหย่งฉีนั้นพาหานเซียงหลบหนีออกจากวังหลวง ขณะที่เฉียนหลงทรงกริ้วที่สูญเสียพระสนมไป ไทเฮาซึ่งทรงมีพระประสงค์สืบหาความจริงชาติกำเนิดของจื่อเวย พระนางจึงทรงนำพาคนมายืนยันฐานะที่แท้จริงของจื่อเวย เฉียนหลงทรงกริ้วมากจึงทรงมีรับสั่งประหารชีวิตเสี่ยวเยี่ยนจื่อและจื่อเวย เนรเทศจินสั่ว เสี่ยวเยี่ยนจื่อและจื่อเวยแก้ตัวเป็นพัลวัน แต่ก็ไร้ผล เบนจามิน,หย่งฉี,เอ่อคังประสานขอความร่วมมือจากเซียวเจี้ยน,หลิ่วชิงและหลิ่วหงสองพี่น้องซึ่งอยู่นอกวังหลวงแหกคุกหลวงช่วยเหลือเสี่ยวเยี่ยนจื่อและจื่อเวย จากความช่วยเหลืของชาวบ้าน ในที่สุดการชิงตัวเสี่ยวเยี่ยนจื่อและจื่อเวยก็เป็นไปอย่างราบรื่น ด้วยความที่เซียวเจี้ยนอาลัยอาวรณ์ต่อ ฉิงเอ๋อ เซียวเจี้ยนจึงตัดสินใจชิงตัวฉิงเอ๋อหลบหนีไปด้วยกัน ทุกคนซัดเซพเนจรหลบหนีหัวซุกหัวซุน....
เอ่อคัง,หย่งฉีและเบนจามินร่วมมือกันชิงตัวนักโทษจนสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่ววังหลวง เฉียนหลงทรงมีพระบัญชาให้องครักษ์จับกุมตัวเสี่ยวเยี่ยนจื่อและพวกกลับมาให้ได้ หลังจากที่หลิ่วชิงและหลิ่วหงช่วยเหลือจินสั่วซึ่งถูกเนรเทศไปได้แล้ว เสี่ยวเยี่ยนจื่อและพวกสิบชีวิตหนีตายพเนจรผจญภัยไปด้วยกันโดยมีเซียวเจี้ยนซึ่งมากด้วยประสบการณ์เป็นผู้นำ สิบชีวิตถูกแบ่งออกเป็น กลุ่ม กลุ่มแรกมีสามคนได้แก่ เสี่ยวเยี่ยนจื่อ,เบนจามินและหย่งฉี กลุ่มที่สองมีสองคนได้แก่ เอ่อคังและจื่อเวย กลุ่มที่สามมีสองคนได้แก่ ฉิงเอ๋อและเซียวเจี้ยน และกลุ่มที่สี่มีสามคนได้แก่ หลิ่วชิง,หลิ่วหงและจินสั่ว ทุกคนนัดแนะกันว่าถ้าหากมีเหตุพลัดหลงกัน ให้ทุกคนทำสัญญาณลับไว้ที่กำแพงเพื่อที่จะได้ตามหากันพบ
ทุกคนหลบหนีมาถึงหมู่บ้านเกษตรกร ทุกครั้งที่ถูกทหารตามจับกุม เสี่ยวเยี่ยนจื่อและพวกก็จะใช้ไหวพริบเอาตัวรอดไปได้ ทุกคนครุ่นคิดหาหนทางเพื่อปกปิดฐานะชาวตะวันตกของเบนจามิน แต่กลับสร้างความทุกข์ทรมานให้เบนจามินเป็นอันมาก เบนจามินเป็นคนหนึ่งซึ่งเปี่ยมด้วยคุณธรรม ครั้งหนึ่งด้วยความที่ถูกทหารตามจับกุม ทำให้เบนจามินจงใจเปิดเผยฐานะที่แท้จริงออกมาเบี่ยงเบนความสนใจทหารแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าเพื่อให้เสี่ยวเยี่ยนจื่อและหย่งฉีรอดพ้นจากการจับกุม
เฉียนหลงทรงรักและห่วงใยเสี่ยวเยี่ยนจื่อและจื่อเวย การที่พระองค์ทรงมีพระบัญชาให้ทหารตามจับกุมนั้นเพื่อให้ทุกคนกลับเข้ามาใช้ชีวิตในวังหลวงดังเดิม แต่เอ่อคัง,หย่งฉีและเบนจามิน ทั้งสามเหมือนกับนกซึ่งตื่นตระหนกกับคันธนู หลายต่อหลายครั้งที่ดึงดันขัดขืนองครักษ์จากวังหลวง ครั้งหนึ่งของการตามจับกุมเป็นเหตุให้สิบชีวิตซึ่งหนีตายต้องพลัดพรากจากกัน แยกย้ายกันหลบหนี
ด้วยความที่หย่งฉีและเบนจามินต้องการช่วยชีวิตเสี่ยวเยี่ยนจื่อซึ่งถูกจับกุมตัวอยู่ในโรงเตี๊ยม ทั้งสองจึงว่าจ้างหญิงสาวคนหนึ่งสวมรอยเป็นเสี่ยวเยี่ยนจื่อโดยให้เบนจามินแบกเสี่ยวเยี่ยนจื่อตัวปลอมวิ่งหนีไปเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของทหาร ส่วนหย่งฉีนั้นก็ฉวยโอกาสที่เหตุการณ์ชุลมุนช่วยชีวิตเสี่ยวเยี่ยนจื่อตัวจริงเอาไว้ หลังจากที่ทั้งสามรอดพ้นจากการตามจับกุมแล้วก็ปฏิบัติตามที่เซียวเจี้ยนนัดแนะ แต่ละกลุ่มซึ่งพลัดหลงกันต่างพากันออกตามหากันและกัน แต่ก็มีอุปสรรคมากมาย หย่งฉี,เบนจามินและเสี่ยวเยี่ยนจื่อถูกทหารตามจับกุม ทุกคนหลบหนีมาถึงที่นาผืนหนึ่ง เหตุการณ์เฉพาะหน้าทำให้เบนจามินต้องปลอมตัวเป็นหุ่นไล่กาเพื่อตบตาทหาร
ทางด้านเอ่อคังและจื่อเวยนั้นก็ประสบเคราะห์ร้ายขณะที่ถูกทหารตามจับกุมเช่นเดียวกัน จื่อเวยได้รับกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงที่ศีรษะจนดวงตาทั้งสองข้างมืดมิด เอ่อคังนำจื่อเวยเข้าพักรักษาตัวในโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง เนื่องจากจื่อเวยตาบอดจึงทำให้นางท้อแท้สิ้นหวัง อารมณ์ขุ่นมัวปฏิเสธความหวังดี ตลอดจนความห่วงใยของเอ่อคัง ทำให้เอ่อคังเกิดความหวาดกลัวต่ออนาคตขึ้นมา ในเวลาเดียวกัน ฉิงเอ๋อและเซียวเจี้ยนก็ถูกทหารตามจับกุมเช่นเดียวกัน เซียวเจี้ยนขับไล่ทหารอย่างทะนงองอาจ เซียวเจี้ยนและฉิงเอ๋อพากันหลบหนีมาถึงทะเลสาบแห่งหนึ่ง ทั้งสองพากันลงเรือหลบหนี ทหารตามมาประชิด
ฉิงเอ๋อถูกทหารทำร้ายพลัดตกน้ำ เซียวเจี้ยนกระโดดลงน้ำช่วยชีวิตฉิงเอ๋อเอาไว้ จากความช่วยเหลือของนายท้ายเรือ เซียวเจี้ยนจำต้องเย็บทำแผลให้ฉิงเอ๋อด้วยตนเอง อีกด้านหนึ่งนั้น จินสั่วพลัดตกเหวจนขาหัก หลิ่วชิง,หลิ่วหงและจินสั่วจึงพักอาศัยอยู่กับเกษตรกรครอบครัวหนึ่ง ระหว่างที่จินสั่วรักษาอาการบาดเจ็บนั่นเอง หลิ่วชิงรวบรวมความกล้าเปิดเผยความในใจบอกรักจินสั่ว
ในที่สุดเสี่ยวเยี่ยนจื่อ,เบนจามินและหย่งฉีซึ่งรอดพ้นจากการตามจับกุมของทหารก็ได้พบกับเอ่อคังและจื่อเวย จากนั้นเซียวเจี้ยนก็พาฉิงเอ๋อซึ่งถูกทหารทำร้ายได้รับบาดเจ็บมาสมทบกับทุกคน หลังจากที่ทุกคนพบว่าจื่อเวยตาบอด ฉิงเอ๋อก็ได้รับบาดเจ็บ ทุกคนจึงเห็นพ้องต้องกันว่าจะพาคนทั้งสองไปพักรักษาตัวที่เมืองลั่วหยาง ก่อนออกเดินทาง เซียวเจี้ยนกำชับเสี่ยวเยี่ยนจื่อและพวกหาม้าไว้ใช้สำหรับหลบหนี นึกไม่ถึงว่าด้วยคุณงามความดีของเบนจามินทำให้ได้รับม้ามาสองตัวโดยไม่ต้องเสียเงินซื้อ เสี่ยวเยี่ยนจื่อภาคภูมิใจเบนจามินยิ่งนัก
หลังจากที่เซียวเจี้ยนพาทุกคนหลบหนีมาถึงเมืองลั่วหยาง เอ่อคังก็วิ่งหาหมอทั่วเมืองมารักษาดวงตาให้จื่อเวย เพื่อให้จื่อเวยซึ่งตาบอดคลายความทุกข์ระทม ทุกคนจึงพากันเล่นดนตรีอยู่หน้าร้านเครื่องดนตรี นึกไม่ถึงว่ากลับเป็นการเรียกลูกค้าให้กับร้านเครื่องดนตรี ในที่สุดก็มีเงินเพียงพอที่จะซื้อพิณโบราณได้ตัวหนึ่ง หลังจากที่จื่อเวยได้พิณโบราณมาด้วยน้ำพักน้ำแรงก็ทำให้นางยิ้มออก เนื่องจากทุกคนใช้จ่ายเงินอย่างสุรุ่ยสุร่ายจึงถูกเซียวเจี้ยนตำหนิติเตียนเป็นการใหญ่
ฮองเฮาทรงมีพระประสงค์ตัดรากถอนโคน พระนางจึงทรงมีรับสั่งลับให้ลอบสังหารหย่งฉีและพวก ราชโองการปลอมทำให้เอ่อคังและพวกถูกตามล่าหมายเอาชีวิต เอ่อคังและพวกเข้าใจผิดคิดว่าทั้งหมดเป็นพระราชประสงค์ของเฉียนหลง ทำให้ทุกคนรู้สึกผิดหวังต่อเฉียนหลงยิ่งนัก เอ่อคังต่อสู้กับนักฆ่าจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จื่อเวยถูกชนล้มลง แต่แล้วจู่ๆดวงตาของจื่อเวยก็สามารถมองเห็นดังเดิมอย่างปาฏิหาริย์ ทุกคนรักษาอาการบาดเจ็บที่เมืองลั่วหยาง ดำรงชีวิตด้วยความยากลำบาก
เพื่อประทังชีวิต เซียวเจี้ยนพาเสี่ยวเยี่ยนจื่อ,หย่งฉีและเบนจามินไปรีดนมแพะ ขายร่มกระดาษ เนื่องจากมีความขัดแย้งกับอันธพาลจึงทำให้ทุกคนเป็นเป้าสายตาของทหาร ทุกคนไม่มีทางเลือกจึงต้องหลบหนีไปยังหนันหยาง เซียวเจี้ยนถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้เสี่ยวเยี่ยนจื่อว่า กระหน่ำดั่งสายฝน โบกสะบัดดั่งสายลม รวดเร็วดั่งสายฟ้า เชื่องช้าดั่งอากาศ ทำให้แส้ของเสี่ยวเยี่ยนจื่อทวีอานุภาพ เซียวเจี้ยนใส่ใจดูแลเสี่ยวเยี่ยนจื่อเป็นพิเศษ นึกไม่ถึงว่ากลับทำให้หย่งฉีและพวกเข้าใจผิด จนกระทั่งวันหนึ่งเซียวเจี้ยนและหย่งฉีก็ขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ในที่สุดเซียวเจี้ยนก็เปิดเผยความจริงให้ทุกคนรู้ว่าตนและเสี่ยวเยี่ยนจื่อมีความสัมพันธ์เป็นพี่น้องท้องเดียวกัน ทุกคนตะลึงงันเมื่อได้ยินเช่นนั้น ระหว่างที่ทุกคนหลบหนีต้องเผชิญภยันตรายมากมาย เบนจามินไม่เพียงปกป้องคุ้มครองเสี่ยวเยี่ยนจื่อ ทั้งยังรักษามิตรภาพที่มีต่อหย่งฉีเป็นอย่างดีอีกด้วย
เอ่อคังและหย่งฉีทิ้งฐานะอันสูงส่งในวังหลวงโดยเปิดร้านบะหมี่ที่เมืองหนันหยางเพื่อยังชีพ ในที่สุดหลิ่วชิง,หลิ่วหงและจินสั่วก็พบเอ่อคังและพวก ทุกคนจึงพร้อมหน้ากันอีกครั้ง เสี่ยวเยี่ยนจื่อเปิดการแสดงซึ่งเป็นความถนัดส่วนตัวของนางสร้างความฮือฮาเป็นอันมาก อีกด้านหนึ่งนั้น ด้วยความที่เฉียนหลงทรงคิดถึงพระโอรสและพระธิดา พระองค์จึงทรงชักชวนหลางซื่อหนิง,หมอหลวงฉางโซ่ว,สี่ปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่และพวกเดินทางมายังหนันหยาง ความจริงใจและความอ่อนโยนของเฉียนหลง ทำให้จื่อเวย,เสี่ยวเยี่ยนจื่อและพวกคลายความหวาดกลัวและความเข้าใจผิดจนหมดสิ้น ในห้วงเวลานี้เองในที่สุดความจริงที่เฉียนหลงเป็นฆาตกรฆ่าพ่อของเสี่ยวเยี่ยนจื่อก็ปรากฏออกมา เสี่ยวเยี่ยนจื่อเศร้าโศกเสียใจจนล้มป่วยลง เฉียนหลงทรงรู้สึกว่าเรื่องนี้มีเลศนัย พระองค์จึงทรงมีรับสั่งลับให้สืบหาฆาตกรตัวจริงที่ฆ่าพ่อของเสี่ยวเยี่ยนจื่อ การนี้ไม่เพียงพบฆาตกรตัวจริง ทั้งยังสามารถช่วยเหลือเสี่ยวเยี่ยนจื่อและเซียวเจี้ยนล้างแค้นให้พ่อได้อีกด้วย หลังจากที่ผ่านพ้นเรื่องราวต่างๆมากมาย เสี่ยวเยี่ยนจื่อไม่ประสงค์ที่จะกลับไปใช้ชีวิตในวังหลวงอีกต่อไป หย่งฉีตระหนักดีว่าพระสนมอี๋กำลังทุกข์ระทม ด้วยความกตัญญูจึงตัดสินใจติดตามจื่อเวยและเฉียนหลงกลับเมืองหลวง หย่งฉีให้คำมั่นสัญญาต่อเสี่ยวเยี่ยนจื่อว่าหลังจากที่ตนจัดการปัญหาต่างๆที่คาราคาซังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกสองปีจะเดินทางไปพบเสี่ยวเยี่ยนจื่อที่ต้าหลี่ หย่งฉีไหว้วานเบนจามินช่วยดูแลเสี่ยวเยี่ยนจื่อ ในเวลานี้ ทุกคนจึงแยกย้ายกันไปตามเส้นทางของตนเอง
เบนจามินติดตามเสี่ยวเยี่ยนจื่อ,เซียวเจี้ยนและฉิงเอ๋อเดินทางไปยังต้าหลี่ เซียวเจี้ยนและฉิงเอ๋อครองรักกันอย่างมีความสุข จื่อเวยและเอ่อคังก็เช่นเดียวกัน ในที่สุดทั้งสองก็สมหวังในความรัก ไม่มีอุปสรรคขวากหนามอีกต่อไป เสี่ยวเยี่ยนจื่อและเบนจามินต่างเฝ้ารอคอยคำมั่นสัญญาของหย่งฉี เบนจามินเลี้ยงสัตว์ยังชีพ ทั้งยังปกป้องคุ้มครองเสี่ยวเยี่ยนจื่อด้วยความเต็มใจ ช่วงที่เฝ้ารอคอยการเดินทางมายังต้าหลี่ของหย่งฉี เบนจามินสอนเสี่ยวเยี่ยนจื่อสีไวโอลิน สอนเสี่ยวเยี่ยนจื่อเลี้ยงสัตว์ แต่ละวันใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ สองปีต่อมา หย่งฉีเดินทางมายังต้าหลี่ตามคำมั่นสัญญา หลังจากที่หย่งฉีสนองความประสงค์ของพระสนมอี๋แล้ว นับเป็นอีกครั้งที่หย่งฉีและเสี่ยวเยี่ยนจื่อพบหน้ากัน เบนจามินเห็นหย่งฉีและเสี่ยวเยี่ยนจื่อสมหวังในความรักแล้วก็ตัดสินใจจากไปอย่างสง่างาม ท่ามกลางทะเลดอกไม้ของดินแดนต้าหลี่ เบนจามินขี่ม้าตามลำพังเดินทางตามเส้นทางของตนเอง