มิลล์คอน เปิดเกมรุก AEC ขายเหล็กให้โรงไฟฟ้าหงสาทั้งโครงการ

ศุกร์ ๑๒ ตุลาคม ๒๐๑๒ ๑๗:๓๙
บมจ.มิลล์คอนสตีล อินดัสทรีส์ (MILL) ได้ออร์เดอร์เหล็กจากโครงการโรงไฟฟ้าหงสา ประเทศลาว ประเดิมล็อตแรก 6,600 ตัน ซึ่งโครงการดังกล่าว นับเป็นโครงการแรก จาก 3 โครงการโรงไฟฟ้าหงสา ในประเทศลาว "สิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล” เปิดเผยว่าโครงการนี้ถือเป็นก้าวแรกสู่การขยายตลาดไปยังกลุ่ม AEC นับเป็นการย้ำคุณภาพเหล็กของมิลล์คอน ที่ได้รับการยอมรับจากทั้งในและต่างประเทศ ในขณะที่ผลการดำเนินงานปีนี้แนวโน้มผลกำไรดีที่สุด หลังได้รับอานิสงส์เต็มๆ จากโครงการ Green MILL ช่วยดันยอดขายและมาร์จิ้นพุ่ง

นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.มิลล์คอนสตีลอินดัสทรีส์ (MILL) เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาร่วมโครงการโรงไฟฟ้าลิกไนต์หงสา ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าลิกไนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศลาว ที่ได้สั่งซื้อเหล็กที่จะใช้ในการก่อสร้างทั้งหมด คิดเป็นพื้นที่ 60 ตารางกิโลเมตร จาก บมจ.มิลล์คอนสตีล อินดัสทรีส์ โดยโครงการโรงฟ้าลิกไนต์หงสา เป็นโครงการแรก จาก 3 โครงการเมกกะโปรเจ็กในประเทศลาว ที่ประกอบด้วย โครงการทำเหมืองถ่านหิน โครงการโรงไฟฟ้าลิกไนต์ และ โครงการสายส่งไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งมิลล์คอน มั่นใจว่า จะสามารถรับคำสั่งซื้อจากโครงการขนาดใหญ่เช่นนี้อีกอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในคุณภาพ ทำให้สินค้าของมิลล์คอน ได้รับการยอมรับ จากทั้งภายในและต่างประเทศ นอกจากนี้ การได้ขายเหล็กให้กับโครงการขนาดใหญ่ในประเทศลาว ยังถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญ สู่การพัฒนาตลาดไปยังกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในอนาคตอีกด้วย

"เรามีความภาคภูมิใจ ที่โครงการโรงไฟฟ้าลิกไนต์หงสา ประเทศลาว เลือกซื้อเหล็กของ มิลล์คอน ในการก่อสร้างทั้งโครงการ โดยได้สั่งล็อตแรกไปแล้ว 6,600 ตัน เป็นการแสดงถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าของเรา ซึ่งมิลล์คอนมีความมั่นใจว่า จะได้รับออร์เดอร์จากเมกกะโปรเจ็กในประเทศลาวอีกอย่างต่อเนื่อง และถือว่า นี่เป็นก้าวแรกที่สำคัญ สู่การพัฒนาตลาดไปยังกลุ่ม AEC ต่อไป" นายสิทธิชัยกล่าว

ทั้งนี้โครงการโรงไฟฟ้าลิกไนต์หงสา เป็นโรงไฟฟ้าลิกไนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศลาว มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 1,878 เมกะวัตต์ ครอบคลุมพื้นที่ 60 ตารางกิโลเมตร และจะส่งกระแสไฟฟ้าให้กับประเทศไทย ในปี 2558

นายสิทธิชัย ยังได้กล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2555 ของมิลล์คอน โดยคาดว่าจะสามารถทำรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเติบโตเพิ่มขึ้น 10-15% หลังจาก Green Mill Project ซึ่งเสร็จสมบูรณ์แล้ว และผลิตได้ดีอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้รายได้จากการขายเหล็กเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (Margin) มีแนวโน้มสูงขึ้น จาก ระดับ 4-5% จากปีที่ผ่านมา คาดว่าจะสูงถึง 8-9% ในปีนี้ เนื่องจากการผลิตที่ต่อเนื่อง ทำให้สามารถประหยัดต้นทุนต่อขนาดได้มากขึ้น รวมทั้งการควบคุมกระบวนการผลิตที่เน้นเพิ่มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถลดต้นทุนการผลิตจากการผลิตอย่างต่อเนื่อง เชื่อมต่อโรงงานผลิต Billet และโรงงานเหล็กเส้นที่ระยอง ทำให้สามารถผลิต Billet ต่อเนื่องไปผลิตเหล็กเส้นได้ทันที ส่งผลให้ต้นทุนการใช้พลังงานลดลง และผลักดันความสามารถการทำกำไรของบริษัทให้ปรับตัวดีขึ้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๑๒ ฉลองเทศกาลตรุษจีนปีงูเล็ก ที่โรงแรมดุสิตธานี กระบี่ บีช รีสอร์ท
๑๗:๐๐ IMPACT เผยปี 68 ข่าวดี! โครงการ Sky Entrance รถไฟฟ้าสายสีชมพูมาตามนัด หนุนทราฟฟิคแน่น - จับมือพาร์ทเนอร์
๑๗:๕๒ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม สนับสนุนโครงการ กู้วิกฤตและอนุรักษ์พะยูน ครั้งที่ 2
๑๗:๕๘ แสนสิริ เจ้าตลาดคอนโดแคมปัส อวดโฉม ดีคอนโด วิวิด รังสิต คอนโดใหม่ตรงข้าม ม.กรุงเทพ
๑๖:๔๓ เอ็นไอเอ - สสส. ดึงนิวเจน สรรค์สร้างนวัตกรรมส่งเสริมสุขภาพ ในแคมเปญ The Health Promotion INNOVATION PLAYGROUND
๑๗:๕๘ กรมวิทย์ฯ บริการ เร่งพัฒนาระบบ e-Learning ยกระดับการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศ
๑๖:๕๘ เขตจตุจักรกวดขันคนไร้บ้านเชิงสะพานข้ามคลองบางซื่อ สร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน
๑๗:๑๗ เขตพระนครประสานกรมเจ้าท่า-เอกชน เร่งปรับปรุงภูมิทัศน์ท่าเรือสุพรรณเดิม
๑๗:๔๐ กทม. กำชับเจ้าของอาคารตรวจสอบโครงสร้างบันไดเลื่อน เพิ่มความปลอดภัยประชาชน
๑๖:๓๗ แลกเก่าเพื่อโลกใหม่ ช้อปคุ้ม พร้อมลดหย่อนภาษี! 'เปลี่ยนของเก่าเป็นความคุ้ม' ผ่าน Easy E-Receipt ได้ที่โฮมโปร เมกาโฮม