นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงแผนการเดินทางไปเยือนราชอาณาจักรบาห์เรนและคูเวต ระหว่างวันที่ 14 — 18 ตุลาคม 2555 ว่า คณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมการค้าต่างประเทศและภาคเอกชน จะเดินทางไปเจรจาขยายตลาดและกระชับความสัมพันธ์ทางการค้า เพื่อผลักดันการส่งออก แสวงหาลู่ทางการค้า/การลงทุน สร้างเครือข่ายและความสัมพันธ์ทางการค้าในระดับสูง ซึ่งอุตสาหกรรมอาหารเป็นอุตสาหกรรมหลักที่จะผลักดันในการเยือนครั้งนี้ ตามยุทธศาสตร์ครัวไทยสู่ครัวโลก โดยมียุทธศาสตร์รอง คือ อาหารฮาลาลไทย ซึ่งถือได้ว่าไทยเป็นผู้ผลิตอาหารฮาลาลสำคัญรายหนึ่งของโลก
นอกจากนี้จะเสนอให้ประเทศทั้งสองพิจารณานำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศไทยมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าว และไก่สดแช่แข็งจากไทย ซึ่งสินค้าไก่สดนั้น ปัจจุบันองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้ประเทศไทยปลอดจากโรคไข้หวัดนก รวมทั้งประเทศในกลุ่มประเทศความร่วมมือของรัฐริมอ่าวอาหรับ(GCC) 3 ประเทศ ได้แก่ บาห์เรน กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก็ได้นำเข้าไก่จากไทยแล้วและอาจเชิญหน่วยงานที่รับผิดชอบในการอนุญาตนำเข้าสินค้าไก่สดแช่แข็งของคูเวตเดินทางมาตรวจสอบโรงงานผลิตในไทย เพื่อตรวจสอบคุณภาพ รวมถึงวิธีการ ขั้นตอนการผลิตสินค้า ทั้งนี้ตลาดตะวันออกกลางเป็นตลาดสำคัญของอาหารฮาลาล ที่กระทรวงพาณิชย์มีเป้าหมายที่จะเร่งผลักดันการขยายตลาดอาหารให้มากยิ่งขึ้นเพื่อช่วยผลักดันการส่งออกของไทยให้เพิ่มมากขึ้นด้วย
“ไทยเป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกอาหารรายใหญ่ของโลก จึงเป็นการการันตีถึงคุณภาพและความมั่นใจให้กับบาห์เรนและคูเวต รวมถึงประเทศตะวันออกกลางอื่นๆ ในการที่จะใช้ไทยเป็นคลังอาหารของภูมิภาคตะวันออกกลางที่ยังต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าอาหารจากหลากหลายภูมิภาค พร้อมๆ กับขยายการรับรองร้านอาหารไทยด้วยเครื่องหมายไทยซีเล็คท์(Thai Select) ในบาห์เรนและคูเวตให้มากยิ่งขึ้น” นายบุญทรง กล่าว
ในโอกาสเดียวกันนี้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจะได้จัดกิจกรรมเพื่อผลักดันการค้าการลงทุนระหว่างประเทศขึ้น อาทิ นำนักธุรกิจสินค้าอาหารไทยไปทำบิสซิเนสแมทชิ่งจำนวน 17 บริษัท ให้สอดคล้องนโยบายรัฐบาลที่ให้ไทยเป็นครัวของโลก เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหาร (Food Security) ให้กับบาห์เรนและคูเวต รวมไปถึงประเทศตะวันออกกลางอื่นๆ การจัดนิทรรศการไทย ซีเล็คท์ การศึกษาตลาดค้าปลีกขนาดใหญ่และซุปเปอร์มาร์เก็ตของประเทศในตะวันออกกลาง การสำรวจย่านตลาดการค้าและแหล่งกระจายสินค้า เพื่อสำรวจสภาพตลาด แสวงหาความร่วมมือในด้านวัตถุดิบ เทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์การค้าระหว่างกัน ซึ่งจะช่วยผู้ประกอบใช้เป็นข้อมูลวางแผนการตลาด การผลิตตามรสนิยมของผู้บริโภค
นางศรีรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมถึงการค้าในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2555(มกราคม-สิงหาคม)ว่า การค้าระหว่างไทยกับภูมิภาคตะวันออกกลาง(15ประเทศ)มีมูลค่ากว่า 29,850 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 933,338 ล้านบาท) โดยแบ่งเป็นการส่งออก 7,791ล้านเหรียญสหรัฐฯ และการนำเข้า 22,039 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ข้าว อัญมณีและเครื่องประดับ และอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันสำเร็จรูป ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์และเคมีภัณฑ์