นางเธียรทิพย์ ไชยชิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไปรษณีย์ จำกัด (ปณท) กล่าวถึงกรณีการเผยแพร่ข่าวในโลกออนไลน์ถึงการใช้แสตมป์โปรโมชั่นของร้านสะดวกซื้อที่มีผู้นำมาใช้ติดซองจดหมายเพื่อฝากส่งทางไปรษณีย์นั้น ปณท ขอเรียนให้ทราบว่าตามพระราชบัญญัติไปรษณีย์ พ.ศ.2477 ประกอบกับพระราชกฤษฎีกากำหนดอำนาจ สิทธิ และประโยชน์ของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด พ.ศ.2546 ปณท ได้รับอนุมัติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการจัดให้มีตราไปรษณียากรหรือแสตมป์เพื่อใช้ในกิจการไปรษณีย์ของประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งตราไปรษณียากรหรือแสตมป์ที่จะสามารถผนึกบนซองจดหมายเพื่อฝากส่งผ่านทางไปรษณีย์จะต้องเป็นตราไปรษณียากรหรือแสตมป์ที่จัดให้มีโดย ปณท เท่านั้น ทั้งนี้ ตราไปรษณียากรหรือแสตมป์ที่ผนึกบนซองจดหมายแสตมป์ที่ผนึกบนซองจดหมายนั้นจะเป็นเครื่องหมายแสดงการชำระค่าฝากส่งสิ่งของทางไปรษณีย์ ซึ่งหากพบว่ามีการนำแสตมป์โปรโมชั่นทางการตลาดของหน่วยงานห้างร้านเอกชนใดมาใช้ผนึกแทนตราไปรษณียากรหรือแสตมป์ของ ปณท จะถือว่าจดหมาย/สิ่งของนั้นยังไม่ได้ชำระค่าไปรษณียากร ซึ่งจะต้องถูกปรับตามที่กำหนดไว้ในไปรษณียนิเทศ พ.ศ.2553 โดยเจ้าหน้าที่จะส่งจดหมายฉบับนั้นคืนผู้ฝากส่ง และหรือจะทำการปรับโดยเรียกเก็บค่าฝากส่งจดหมายตามอัตราปกติพร้อมเรียกเก็บค่าปฏิบัติการปรับอีกฉบับละ 2 บาท รวมเป็นฉบับละ 5 บาท
ปณท จึงขอความร่วมมือจากประชาชนไม่นำแสตมป์โปรโมชั่นของร้านสะดวกซื้อมาใช้ติดซองหรือผนึกจดหมายเพื่อส่งในระบบไปรษณีย์ ซึ่งนอกจากจะใช้ชำระเป็นค่าไปรษณียากรไม่ได้แล้ว ยังจะทำให้ผู้รับปลายทางต้องเสียค่าปรับอีกด้วย
ปัจจุบัน ปณท มีตราไปรษณียากรหรือแสตมป์ที่มีความหลากหลาย รูปแบบสวยงาม นอกจากจะใช้ในการชำระค่าฝากส่งไปรษณีย์ได้แล้วยังสามารถเป็นสิ่งสะสมที่เพิ่มมูลค่าได้ในอนาคตซึ่งสามารถหาซื้อได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่ง ร้านค้าของเอกชนทั่วประเทศ ตลอดจนยังมี ตราไปรษณียากรหรือแสตมป์แพคจำหน่ายในร้านสะดวกซื้ออีกด้วย สอบถามรายละเอียดการใช้งานได้ที่ 1545